เรื่องประหลาดในไทยในอดีต (ที่บางคนยังไม่รุ้)

 

เรื่องประหลาดในไทยในอดีต
« เมื่อ: กันยายน 13, 2009, 07:26:13 AM »
 
เชื่อไหมว่าในปี ๒๔๗๔ คนไทยตายประหลาดขนาดไหน ในปีนั้นมีคนตายทั้งสิ้น ๒๖๒๒ คน จากคนไทยทั้งสิ้น ๑๒ ล้านคน (เลข ๒ เยอะเชียว) ยอดสรุปจากเดือนเมษา ๒๔๗๔ ถึง ๓๑ มีนา ปีถัดไป รวม ๑๔ มนฑล 

ถูกอสรพิษกัดตาย ขาย หญิง เด็ก ๑๑๙
ถูกสุนัขกัดตาย ๑ 
ถูกเพลิงคลอกตาย ๘๓
ถูกฟ้าผ่าตาย ๑๑๐
ตกที่สูงตาย อาทิ จากต้นไม้ (คิดดูว่าต้นไม้สมัยก่อนสูงแค่ไหน ๑๖๐
ถูกต้นไม้ล้มทับตาย ๙๙ 
ตกน้ำตาย ๑๑๐๔
ถูกรถไฟทับตาย ๓๐
เครื่องจักรตัดแขน ขา ตาย ๕
ฆ่าตัวตายแบบต่างๆ ๔๒๐ 
ถูกโคกระบือขวิดตาย ๗๕
ถูกรถชน ๒๑
เสือกัดตาย ๓๓ (มากกว่ารถชนอีก )
ถูกจระเข้กัดตาย ๑๙
ถูกช้างแทงตาย ๓๑ (โครตซวยเลย)
ทำปืนลั่นตาย ๒๐ 
ตายด้วยเหตุอื่นๆ ๒๙๒
ไงคนไทยตายประหลาดไหมยังนะยังไม่จบเราเคยสงสัยกันใช่ไหมทำไมฝรั่งเรียน มังคุลว่า Mangosteen  เราเคยนึกกันเล่นๆ ไม่นึกว่าจะมีบันทึกในพงสาวดานจริงๆ

ตั้งแต่สมัยร. ๓ เป็นต้นมา ชาวตะวันตกเดินทางเข้ามาประเทศไทยกันมากมาย ทำให้ภาษาเป็นสิ่งสำคัญ กว่าเราจะได้มาประดิษฐ์คำสิ่่งของต่างๆที่เราเอามาจากตะวันตกก็เล่นเข้าไปร. ๖ คิดดูแล้วก่อนหน้านั้นมันจะไปถึงไหน รู้ไหมว่า ขนมที่ทำด้วยไข่ทั้งหลายนะ เช่น ทองหยิบ ฝอยทอง ฯลฯ เราคิดว่าเป็นขนมของไทยแต่เปล่าเลย เป็นขนมของโปตุเกตุนำเข้ามาในสมัยพระนารายณ์โน้น คนที่นำเข้ามาเมืองไทยมีชื่อว่า  ดอนญ่า มารี กีมาร์ เดอ ปินา "ดอนญ่า" ในโปตุเกสหมายถึงคุณหญิง  ท่านเป็นลูกครึ่ง ญี่ปุ่นโปรตุเกส มีฝีมือทำอาหารมากมาย สามีรับใช้พระนารายณ์ คนชอบเพราะท่านทำอาหารอร่อยเลยทำเลี้ยงมาตอนหลังมีการเปลี่ยนการปกครองสามีถูกฆ่าแต่เพราะเก่งทำอาหารมากใครกินก็ติดใจเลยไม่ตายให้ไปเป็นแม่ครัวแทน (เห็นไหมทำดีเก่งเพียงอย่างเดียวก็พอ) แต่ที่น่าเศร้าคือ ชื่อของท่านในไทยถูกคนไทยเรียกเพี้ยนเป็น "ท้าวทองกีบม้า" เพราะไหม
นึกถึงชื่อตัวเองเลย Suparat  แม่ฝรั่งเรียกชัดมากว่า ซูเปอร์แรด (ใครก็ได้ช่วยทีจะเอาชื่อเล่นมาช่วยก็ยาก เพราะเสียงเหมือน ลิงฝรั่งร้อง "อีอ๋อ" เค้าว่านะ เป็นไง โตเมืองนอกใช่ดีนะ ชื่อแสนเพราะกลายเป็น.............. ต่างกับท้าวทองกีบม้านะนี่คนไทยทำวิบัดหมด เอ้านอกเรื่องเยอะเข้าเรื่องก่อน 

"ทำตามใจคือไทยแท้" คนไทยไม่มีอายครับใครพูดอะไรมาจำเป็นภาษาของตนหมด ทำเอาคนสมัยนี้เวลาอ่านหนังสือสมัยก่อนงงว่าตกลงพูดเรื่องอะไรทำไมมันเพี้ยนไปได้ขนาดนั้น ยกตัวอย่างนะ เปรซิเดนท์ ยอร์ช วอชิงตัน ประธานาธิบดีคนแรกของอเมริกา คนไทยสมัยนั้นเรียก ปริไสเดนท์ ยอด วัดชิงตันแห่งยูไนเตดสเตท ไงเท่ห์ไหม จากเดิมยูไนติสเตศ แต่ยังดีกว่า อิงแสนด์ กลายเป็น วิลาศ ไม่รู้ฟังกันยังไง เซอร์เจมส์ บรูค ราชฑูตท่ีเข้ามาใน ร.๓ เรียก เยม สัปบุรุษ ราชฑูตอังกฤษ จาก จอห์น ครอฟอร์ด เป็นจอน การะฝัด 

กับตันเฮนรี่ บาร์นีย์ ผู้ถือหนังสือของ มาร์ควิส เฮสติ้ง เรียกซะเสียว่า กะปิตันหันตรี บารนี และ มารเกศ หัสตึ่ง
โรเบิร์ท ฮันเตอรื เป็นนายหันแตร เทห์นะ หมอมิชชันนารีเชื่อมัททูน เรียกว่า หมอมะตูน ชานเลอร์เรียกจันทเล ดีนะยังรู้คุณ หมอบรัดเลย์ เรียก ปลัดเล 

ชื่อสถานที่กับสิ่งของก็สนุด เรียกกันว่า

เบงกอล เป็น มังกล่า
ปาเล็มบัง เป็น กุดัง
สะมารัง เป็น  สำปะหลัง
เฟิร์สคลาส เป็น เปิ้ดสะก๊าด
เทเลกร๊าฟ เป็น ตะแล็บแก็บ
ฟอสฟอรัส เป็น ฝาศุภเรศ อันนี้เพราะสุด
จนมาถึง ยุคที่ฝรั่งเข้ามาเมืองไทยแรกๆ แล้วไปเดินชมตลาด ติดใจผลไม้ลูกสีดำๆ เลยถามแม่ค้าว่า
เรียกอะไร แม่ค้าตอบว่า "มังคุด" 
ฝรั่งไม่รู้จักเลยบอกว่า แมงโก (เพราะมะม่วงมีมากในอินเดีย)
ม่ายช่าย...........มังคุด
แมงโก?
เออ..........แมงโกส้นตีนซี
เท่านั้นฝรั่งถึงบางอ้อเลย 
โอ..........แมงโกสตีน เป็นไงคนไทยบรรยัดศัพทืไม่รู้ตัวเลย
เรามาฉลาดกันตอนที่ ร. ๖ ท่านมาบัญญัติศัพท์ให้เรานะ เช่น มอเตอร์คาร์ เรียก รถยนต์ 
โรงการ์ด เรียก กองรักษาการ
เอดิเตอร์ เรียก บรรณาธิการ 
นิคเนม เรียก นามแฝง
ออฟฟิศ เรียก สำนักงาน
โปลิศ เรียก ตำรวจ 
นาง นางสาว แทน อำแดง (ดีนะที่เปลี่ยนเป็นพระมหากรุณาธิคุณมากมาย คิดสิ อำแดงซูเปอร์แรด ไม่อยากจะคิด)
ยังมีคำอื่นๆอีกมากมายที่ท่านบรรญัติอีกมากมายแต่นะ ยาวแล้ว อยากให้คนไทยรู้ว่าทำไมท่านถึงต้องบรรญัติ เพราะหมายความว่า ภาษาเป็น "ไทย" ไม่ใช่ไม่เหลือความภูมิใจ ใช้ของเค้าจนกลายเป็นของเค้าหมด คนไทยสมันนี้ถ้ารู้จักคิดและรักชาติเมืองบรรพบุรุษ วันนี้คงไม่เป็นเช่นนี้ เราคงไม่รู้สึก เวลาเห็นคนไทยพูดไทยคำอังกฤษคำ เคยเจอนะ เจ้านายพี่สาว เค้าบอกว่าที่เค้าพูดไทยคำอังกฤษคำเพราะเค้าไปเรียนต่างประเทศมาตอนหลังมารู้ ไป ๒ อาทิตย์ อยู่มาเป็นปียังจำได้อยู่เลย ความจำสั่นจัง ไม่รู้ว่าอยู่ตำแหน่งหัวหน้าได้ไง เพราะที่เรียนมาคงลืมหมด 

ใครจะมองไทยยังไงก็ชั่ง แต่เราเป็นคนไทยไม่อยากให้ใครมองไม่ดีเราก็ต้องทำตัวเราก่อน เหมือนเวลาเราคบใครนะ ไม่อยากให้เค้าว่าเราไม่ดีก็ดูตัวเราก่อน ถ้าเราทำแล้ว (ไม่เข้าข้างตนเองนะ) ก็ไม่ต้องไปแคร์ เวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์เองว่าใครที่ดีนะ เหมือนบรรพบุรุษ ตายไปก็ยังมีคนพูดถึง
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 13, 2009, 08:46:21 AM โดย Aur »
 
Credit: อ๋อซียูบุคส์
8 พ.ย. 53 เวลา 05:29 13,144 51 364
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...