หลากสีสัน..มากความหมาย

เพราะความรักความสามัคคีคือพลังอันยิ่งใหญ่ที่จะนำพาบ้านเมืองให้ก้าวผ่านพ้นวิกฤติไปได้ด้วยดี สิ่งหนึ่งที่เป็นสัญลักษณ์ของความรักความสามัคคีและความจงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์ที่จะสามารถสื่อความหมายถึงกันได้เป็นอย่างดี นั่นก็คือ “สายรัดข้อมือ” ที่มีการผลิตออกมาจำหน่ายหลากหลายสี หลากหลายรูปแบบและความหมายให้เราได้เลือกสวมใส่เพื่อแสดงความรู้สึก 
    
ย้อนตำนานการถือกำเนิดสายรัดข้อมือแห่งสยามนับแต่อดีตจวบจนปัจจุบัน กล่าวได้ว่า สายรัดข้อมือรุ่นแรกเริ่มจัดทำขึ้นตั้งแต่ปี 2548 โดย ศุภเดช บุญสรรค์สร้าง ผู้ออกแบบและผลิตสายรัดข้อมือรุ่นต่าง ๆ เกริ่นให้ฟังว่า สายรัดข้อมือรุ่นแรกคือ “สายรัดข้อมือเรารักพระเจ้าอยู่หัว” โดยใช้สีเหลืองซึ่งเป็นสีวันประสูติของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ด้านนอกสลักอักษร “เรารักพระเจ้าอยู่หัว” และ “Long Live The King” จัดทำขึ้นเพื่อชักชวนคนไทยสวมใส่เพื่อเฉลิมฉลองในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงครองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2549 
    
และในปีเดียวกันได้จัดทำ “สายรัดข้อมือทรงพระเจริญ ร.๙” เพื่อชักชวนคนไทยสวมใส่ถวายพระพรพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวาคม 2548 รูปแบบสายรัดข้อมือมี 2 สี คือสีเหลืองและสีน้ำเงิน ซึ่งสีน้ำเงิน หมายถึงพระมหากษัตริย์ โดยด้านนอกสลักข้อความภาษาไทยว่า “ทรงพระเจริญ ร.๙” และภาษาอังกฤษ “I Love My King”
    
ต่อมาในปี 2549 ได้มี สายรัดข้อมือในโครงการ                                            “ไทยทั้งชาติ ถวายพระพร ร้อยอักษร ถวายพระเจ้าอยู่หัวฯ” เพื่อเชิญชวนคนไทยทุกคนร่วมกันแสดงความจงรักภักดีต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ด้วยการเขียนคำถวายพระพรลงบนบัตรอวยพรและส่งถึงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ส่วนรูปแบบและสีจะเหมือน  รุ่นแรก และในปี 2550 มีการจัดทำสายรัดข้อมือสีชมพูสลักข้อความ 2 ด้าน ภาษาไทยสลักว่า  “ทำดีเพื่อพ่อ” ส่วนอีกด้านเป็นภาษาอังกฤษสลักคำว่า “DO GOOD FOR OUR KING” 
โครงการจัดทำสายรัดข้อมือทำดีเพื่อพ่อนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้คนไทยทุกหมู่เหล่าร่วมกันบ่มเมล็ดพันธุ์แห่งความดีให้เติบโตและแผ่กิ่งก้านทั่วแผ่นดินไทยโดยพร้อมเพรียงกันด้วยการ “ปฏิบัติบูชา” ร่วมใจกัน    “กระทำ 80 ล้านความดี ถวายในหลวง” มิใช่เพียงการถวายพระพร เพราะนอกจากการได้เห็นพสกนิกรของพระองค์มีความกินดีอยู่ดีแล้ว สิ่งที่พระองค์ปรารถนาคือ การคิดดี ทำดี รู้รัก   สามัคคี ของปวงชนชาวไทย
    
สำหรับ “สายรัดข้อมือวันแม่ถึงวันพ่อ 116 วันสร้างสามัคคี” จัดทำขึ้นในปี 2551 เพื่อกระตุ้นกระแส การสร้างความสมัครสมานสามัคคีอย่างต่อเนื่อง ถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องใน วโรกาส วันเฉลิมพระชนม พรรษา 5 ธันวาคม 2551 และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในวโรกาสวันเฉลิมพระชนม พรรษา 12 สิงหาคม 2551 รูปแบบสายรัดข้อมือประกอบ ด้วยสายรัดข้อมือ สีเหลืองและสายรัดข้อมือสีฟ้า   อันเป็นสีประจำพระองค์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ คล้องคู่กัน โดยมีตราสัญลักษณ์โครงการฯ รูปหัวใจแทนความหมายของพลังสามัคคีและชื่อโครงการฯ จารึกอยู่บนสายรัดข้อมือทั้ง 2 เส้น 
    
ต่อมาในปีเดียวกันนี้ได้มีการจัดทำ “สายรัดข้อมือถวายอาลัยสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ” เพื่อเป็นสัญลักษณ์ แสดงถึงความอาลัยของประชาชนชาวไทยทั่วทั้งประเทศที่มีต่อสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์เชิญชวนให้ประชาชนเข้าร่วมในพระราช พิธี พระราชทานเพลิงพระศพ น้อมเกล้าฯ ส่งเสด็จสู่สวรรคาลัย ในวันที่ 15 พฤศจิกายน 2551 ซึ่งรูปแบบสายรัดข้อมือเป็นสีน้ำเงินอมฟ้าสลักข้อความ  “น้อมรำลึก สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ” พร้อมพระฉายาลักษณ์ที่ระลึกและไปรษณียบัตรแสดงความอาลัย
    
ต้นปี 2553 มีโครงการ “ความสุขของพ่อ ความสุขของคนไทย” ซึ่งเป็นโครงการ ที่จัดทำสายรัดข้อมือสีชมพู สลักข้อความด้านนอกว่า   “รักพ่อ เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 82 พรรษา” และด้านในสลักคำว่า “๕ ธันวาคม ๒๕๕๒” พร้อมวีซีดีบรรยา กาศในงานเฉลิมพระชนมพรรษา 2552 ณ ถนนราชดำเนิน เพื่อเป็นสัญลักษณ์การรวมพลังของชาวไทย เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันเพื่อประโยชน์ส่วนรวมแห่งชาติ 
    
สำหรับสายรัดข้อมือล่าสุดได้จัดทำขึ้นในโครงการ   “สายรัดข้อมือดอกกุหลาบชมพู ถวายพระพรพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ” โดยมูลนิธิราชประชาสมาสัย ในพระบรมราชูปถัมภ์จัดทำขึ้นเพื่อนำพสกนิกรชาวไทยร่วมน้อมเกล้าน้อมกระหม่อม ถวายพระพรแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 84 พรรษา ในวันที่ 5 ธันวาคม 2553 นี้ 
    
ทั้งนี้ ศ.นพ.ธีระ รามสูต ประธานมูลนิธิราช  ประชาสมาสัย ในพระบรมราชูปถัมภ์ กล่าวว่า ในปี 2554 ที่จะถึงนี้เป็นปีที่ทางมูลนิธิราชประชาสมาสัย ในพระบรมราชูปถัมภ์ จะครบรอบ 50 ปี หลังจากที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทาน กำเนิดมูลนิธิขึ้นในปี 2503 ที่ผ่านมามูลนิธิฯ ได้ดำเนินโครงการตามแนวพระราชดำริ 2 โครง การใหญ่ คือ โครงการควบคุมและกำจัดโรคเรื้อนในประเทศไทย และโครงการดูแลบุตรผู้ป่วยโรคเอดส์  จนประสบความสำเร็จลุล่วงด้วยดี ทางมูลนิธิฯ จึงได้จัดทำโครงการ สายรัดข้อมือดอกกุหลาบสีชมพูเพื่อถวายพระพรพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวขึ้นมา เพื่อให้ประชาชนทั่วประเทศได้น้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณและถวายพระพร ร่วมกัน
    
ด้าน ศุลีมาศ สุทธิสัมพัทน์ ประธานฝ่ายจัด หาทุนมูลนิธิฯ เล่าถึงแรง บันดาลใจในการออกแบบสายรัดข้อมือดอกกุหลาบสีชมพู ซึ่งเป็นแบบล่าสุดว่า ดอกกุหลาบสีชมพูที่เรา   นำมาสลักลงบนสายรัดข้อมือนั้น เป็นที่ทราบกันว่า ความหมายของดอกกุหลาบ สีชมพู หมายถึง ความรัก โดยเราจะเห็นได้ว่าพสกนิกรชาวไทยที่ไปถวายพระพรพระองค์ท่านส่วนใหญ่จะใช้ดอกกุหลาบสีชมพู ครั้งนี้เราจึงใช้ดอกกุหลาบสีชมพู เป็นสัญลักษณ์ในการแสดงความรักในพระองค์ท่าน และสลักคำว่า “เย็นศิระเพราะพระบริบาล ขอพระองค์ทรงพระเจริญ  ยิ่งยืนนาน” เพราะเป็น ท่อนหนึ่งในเพลงสรรเสริญ พระบารมีซึ่งเป็นคำที่มีความหมายดีมาก บ่งบอกความหมายอยู่ในตัว 
    
หากใครสนใจสามารถร่วมงานแถลงข่าวโครงการ   “สายรัดข้อมือดอกกุหลาบชมพู ถวายพระพรพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว” ณ มูลนิธิราชประชาสมา  สัย ในพระบรมราชูปถัมภ์ กระทรวงสาธารณสุข จ.นนท บุรี ในวันที่ 25 พฤศจิ กายน 2553 เวลา 13.00 น.  เป็นต้นไป ภายในงานมี นิทรรศการครบรอบ 50 ปี ของมูลนิธิฯ นิทรรศการ สายรัดข้อมือแห่งสยาม นิทรรศการสายรัดข้อมือ กุหลาบชมพู ถวายพระพรพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ประชาชนสามารถเป็นเจ้าของสายรัดข้อมือได้ในราคาชุดละ 100 บาท รวมทั้งร่วมบริจาคเงินและประมูลสายรัดข้อมือดอกกุหลาบเลขสวยได้  ภายในงาน หรือหากผู้ใด ไม่ได้มาร่วมงานสามารถ สั่งจองชุดสายรัดข้อมือโดยวิธีการโอนเงินผ่านธนาคารกสิกรไทย สาขาเตาปูน ชื่อบัญชีโครงการสายรัดข้อมือดอกกุหลาบชมพู ถวายพระพรฯ เลขที่บัญชี 750-222899-9 ประเภทบัญชีออมทรัพย์ จากนั้นส่งใบโอนเงินมาที่เบอร์แฟกซ์ 0-2349-5723-4 แล้วทาง มูลนิธิฯ จะส่งกลับไปให้
    
ขอเชิญชวนประชาชนชาวไทยทุกหมู่เหล่าร่วมกันแสดงความจงรักภักดีต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวด้วยการใส่สายรัดข้อมือดอกกุหลาบสีชมพูโดยพร้อมเพรียงกัน.