ใน ปีพ.ศ. 2522-2534 ประเทศสหรัฐอเมริกามีรายงาน (ชนิดที่เปิดเผยได้) จนเรียกได้ว่าช็อกโลกกันไปฉบับหนึ่ง โดยในนั้นระบุไว้ว่าคนอเมริกันถูกสุนัขกัดจนกระทั่งเสียชีวิตเป็นจำนวนที่ น่าตกใจมาก โดยสุนัขที่คร่าชีวิตคนนั้นล้วนแล้วแต่เป็นสุนัขพันธุ์ดุทั้งสิ้น แบ่งเป็นพันธุ์อเมริกันพิทบูล 66 ราย และร็อตไวเลอร์ 37 ราย
และแม้ที่ผ่านมาในบ้านเรายังไม่มีการเก็บสถิติอย่างจริงจังว่ามีผู้ถูกสุนัขกัดปีหนึ่งๆ เป็นจำนวนมากเท่าใด และสุนัขสุดโหดพันธุ์ไหนที่คร่าชีวิตคนไทยไปมากที่สุดเหมือนทางฝั่งอเมริกา แต่จากข่าวครึกโครมของสุนัขพันธุ์ร็อตไวเลอร์ที่มีอยู่อย่างมากมายในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ก็ได้ส่งผลกระทบให้คนในสังคมน้อยใหญ่หันกลับมามองเจ้าตูบที่นอนเล่นนั่งเล่นอยู่ในบ้านของตัวเองอย่างไม่สนิทใจนัก โดยเฉพาะสุนัขพันธุ์นักรบอย่าง “ร็อตไวเลอร์” ว่าจริงๆ แล้วความตาย-อันตรายที่ผ่านมานั้นจะทำให้เราตระหนักถึงมาตรการต่างๆ ที่จะจัดการหรือควบคุมเจ้าสุนัขได้อย่างไร
เมโทรไลฟ์เล่มนี้ นอกจากจะพาไปค้นหาและนั่งซักถามกูรูถึงความหมายหลายมุมองของหมาสายพันธ์ใหญ่อย่าง “ร็อตไวเลอร์” ว่าจริงๆ เขามีนิสัยสัญชาตญาณเป็นเช่นไร...? และถ้าเราต้องอยู่ร่วมกันในครอบครัว และสังคมนี้ ควรทำตัวกันอย่างไร เล่มนี้มีคำตอบ
“ข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร”
เกี่ยวกับ “สุนัข” ที่ควรรู้
(1) การขึ้นทะเบียนสุนัข โดยเจ้าของต้องนำสุนัขหรือใบรับรองที่ได้จากการฝังชิปไปจดทะเบียนที่
สำนักงานเขต โดยหากเป็นสุนัขพันธุ์ดุ เช่น ร็อตไวเลอร์หรือพิทบูล ก็จะขึ้นทะเบียนเป็น “สุนัขควบคุมพิเศษ” ซึ่งรวมถึงสุนัขที่มีประวัติทำร้ายคนด้วย โดยการจดทะเบียนนี้มีผลเช่นเดียวกับคน คือ หากมีการเกิด ตาย และย้ายที่อยู่ เจ้าของต้องแจ้งให้ กทม. ทราบ
(2) การควบคุมการเลี้ยงสุนัข เพื่อประโยชน์ของสุนัขระบุให้เจ้าของต้องจัดสถานที่เลี้ยงให้เหมาะสม รวมถึงต้องดูแลไม่ให้เจ้าตูบก่อเหตุรำคาญเดือดร้อน หรือถ้าสุนัขไปแว้งกัดชาวบ้าน เจ้าของต้องแจ้งให้เขตทราบ หรือไม่ทาง กทม.ก็สามารถตามตัวเจ้าของได้จากชิปนี่เอง อย่างไรก็ตาม สำหรับเจ้าของที่สุดทนกับสุนัขของตน และต้องการหาเจ้าของใหม่ ข้อบัญญัติระบุไว้ว่าอาจมอบให้ กทม.ได้ แต่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงดูด้วย ที่สำคัญคือห้ามปล่อยทิ้งเด็ดขาด
(3) การนำสุนัขออกจากสถานที่เลี้ยง ตามปกตินอกจากเจ้าของต้องพกบัตรประชาชนตัวเองแล้ว ยังต้องพกบัตรของสุนัขไปด้วย อีกทั้งยังต้องมีสายจูงเพื่อความปลอดภัยของคนรอบข้าง และในกรณีเป็นพันธุ์ดุ ต้องมีตะกร้อครอบปากไว้ด้วย
สำหรับผู้ที่ไม่ปฏิบัติตามข้อบัญญัตินี้ ท่านอาจโดนปรับในวงเงินไม่เกิน 5 พันบาท
หน้าตาของสุนัขพันธุ์ควบคุมพิเศษ
1. อเมริกัน พิทบูล เทอเรียร์
เป็นสุนัขพันธุ์ที่ดุที่สุดในโลก ประเทศอังกฤษสั่งไม่ให้มีการเลี้ยง หมาพันธุ์นี้ไม่ยอมเสียเปรียบคู่ต่อสู้ไม่ว่าฝ่ายตรงข้ามจะมีขนาดใหญ่แค่ไหน
2. บูลเทอร์เรีย
นักสู้ที่ใจถึงโดยธรรมชาติ ใจถึง แต่ดื้อรั้นเป็นครั้งคราว มีความกระฉับกระเฉง รักครอบครัวและอาณาเขตโดยสัญชาตญาณ นิยมฝึกเป็นสุนัขอารักขา
3.ฟิล่า บราซิลเลียนโน
ทรงพลัง ใจเด็ดเดี่ยว มีสายเลือดสืบมาจากพันธุ์บูลด็อก มีคุณสมบัติเหมาะสมที่จะใช้ทำงานประเภทติดตามควบคุมฝูงปศุสัตว์ที่ตื่นตกใจใจในฟาร์ม และเป็นสุนัขที่มีสัญชาตญาณในการพิทักษ์ป้องกันเป็นเยี่ยม มีกะโหลกศีรษะที่ใหญ่โตและมีกรามที่แข็งแรงมาก
4.สแตฟฟอร์ดเชียร์ เทอร์เรีย
เป็นสุนัขที่มีความสามารถในเชิงกีฬา ไม่เหมาะที่จะเลี้ยงร่วมกับสุนัขพันธุ์อื่นๆ และถ้าเลี้ยงร่วมกับเพศเดียวกันก็จะเกิดการต่อสู้กัน จงรักภักดีต่อเจ้านายเป็นเลิศถึงขั้นยอมถวายชีวิตเลยทีเดียว
5. โดเบอร์แมน
doberman
นิสัยดุ ในยุโรปใช้เป็นสุนัขพันธุ์หนึ่งที่ใช้ล่าเนื้อเพราะความปราดเปรียวของมัน เป็นนักวิ่งแถวหน้า ด้วยรูปร่างที่สูงใหญ่ สีขนเข้ม หน้าดุ ตาออกขวางๆ คล้ายตัวโกง มันจึงได้รับบทผู้ร้ายอยู่เป็นประจำ อย่างในการ์ตูนเรื่องเขี้ยวเงินของญี่ปุ่นหรือในหนังฮอลลีวูดก็ตาม ส่วนใหญ่เราคุ้นหน้าคุ้นตาโดเบอร์แมนจากหนังหลายเรื่อง ที่รับบทเด่นสุดก็เรสซิเด็นท์อีวิล หรือในชื่อไทยว่า ผีชีวะ กับการเป็นสุนัขเฝ้ายามที่โดนไวรัส
ปล.ผมว่าจะดุหรือไม่ดุอยู่ที่การเลี้ยงดูและเอาใจใส่ของเจ้าของมากกว่านะ