อยู่ก่อนแต่งรักจริงแน่หรือ?

ปัจจุบัน กระแส อยู่ก่อนแต่ง กลายเป็นไฟลามทุ่ง

ใครจับคู่ได้เมื่อไหร่ ก็มักชวนมาลิ้มลองรสชาติการใช้ชีวิตร่วมชายคาเดียวกันด้วยความไวไฟ เอ๊ย อยากรู้อยากลองเหลือเกินว่า เราจะรอมชอม (แต่อาจเจอกรณีตรอมใจก็ได้ ใครจะไปรู้) ว่าอยู่ด้วยกัน แล้วจะมันสะแด่วแห้วแค่ไหน ทั้งที่พฤติกรรม "อยู่ด้วยกันก่อนแต่ง" ก็เสมือนการเป็นผัวเมียชั่วคราวนั่นแหละ มีหรือ ถ้าได้อยู่สองต่อสองแล้วจะไม่แตะอั๋ง จับโน่น จับนี่ให้ไฟมันสปาร์กเล่น ก็ฮูย...ฮอร์โมนกำลังพุ่งพรวดอย่างกะขีปนาวุธขนาดนี้ จะห้ามใจ ห้ามมือไม้กันไหวหรือแบบนี้ต่อให้เอาช้างมาฉุดหรือเอากางเกงในชนิดพิเศษป้องกันการเสียพรหมจรรย์ให้ใส่ก็รั้งไม่อยู่ร้อก โธ่...ขนาดพ่อแม่เตือนจนปากฉีกถึงหู น้องหนูก็ฟังไม่รู้เรื่อง แถมยิ่งเตือนเหมือนยิ่งยุเสียด้วยนะ

เพราะฉะนั้น ใครอยากทำอะไรก็ทำไป แต่อย่าลืมรับผิดชอบต่อเวรกรรม เอ๊ย...นรกในใจเผื่อไว้แล้วกัน เดี๋ยวจะหาว่า ก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวของคนอื่น ทั้งที่อยากก่ายคนอื่นมากกว่า ฮิ ฮิ

ก่อนที่จะนอกเรื่องมากไปกว่านี้ ขอเข้าประเด็นนี้เลย ท่านผู้อ่านเชื่อไหมล่ะว่า นักวิจัยด้านรักๆ ใคร่ๆ สมัยนี้เขาไม่เชื่อแล้วล่ะว่า การอยู่ด้วยกันก่อนวิวาห์ มีส่วนช่วยทดสอบคู่รัก ให้สนิทสนมกลมเกลียว กระทั่งมีรักมั่นคงยืนยงตราบนิรันดร์อีกต่อไปแล้วนะ

ในทางตรงข้าม อยู่ด้วยกันก่อนแต่ง กลับชักนำไปสู่ความเสี่ยงที่จะเลิกร้าง ห่างเหินกัน ไปในที่สุดมากกว่าคู่ที่แต่งก่อนอยู่

จากบทความ เหตุผล 3 ประการ ว่าทำไมนักวิจัยถึงเชื่อว่าการอยู่ด้วยกันก่อนแต่งจึงนำไปสู่ ความเสี่ยงของชีวิตคู่ที่แตกร้าว (3 Reasons Why Researchers Say Living Together Before Marriage is Risky) แจงไว้ดังนี้

 

 

 

 

1. สัญญาณเตือนง่ายๆ ว่า ร่วมหอลงโรงกันไวนั้นแสนอันตราย ดูไม่ยาก เบิ่งตามองไป ที่อัตรา หย่าร้างก็ได้ นับวันมีแต่จะเพิ่มขึ้น ไม่เห็นลดลงเลย

แล้วถ้ายิ่งไม่ได้แต่ง แต่กระโจนเข้าหากันเลย จะยิ่งไม่เลิกง่าย หน่ายไวหรือจ๊ะ พวกอยู่ด้วยกันไปเรื่อยๆ เบื่อเมื่อไหร่ก็เลิกเนี่ยนะ ไม่ค่อยผูกพัน มั่นคง มั่นใจสักเท่าไหร่หรอก ประโยชน์อย่างเดียวของการอยู่ด้วยกันก่อนแต่ง หนีไม่ พ้นความสะดวกและสนุกด้าน กามารมณ์ เท่านั้นเอง เมื่อไหร่ กายกรรมบนเตียงมันจืด ก็แยกย้ายกันไปคนละทิศคนละทางเองแหละ ให้ดักดานอยู่กับของ โบร่ำโบราณนานๆ ไม่ไหวมั้ง

2. การอยู่ก่อนแต่ง นับวันจะพิสูจน์ ให้เห็นว่า ทำให้คุณภาพชีวิตต่ำเตี้ยลงเรื่อยๆ

หลายคนอาจส่ายหน้าบอกไม่เชื่อ
แต่พูดตามตรง ตอนแรก ใครๆ ก็นึกไม่ถึงหรอกว่า อยู่ด้วยกันก่อนหรือทดลองเป็นผัวเมีย ให้รู้ดำรู้แดง กันไปเลยนั้น จะไปทำให้คุณภาพชีวิตของ "คู่รักข้ามคืน" ย่ำแย่กว่าการเป็นโสด ได้อย่างไร ?
เอ้า ลองไล่เลียงดูนะ

โอ้โห อยู่ด้วยกันก่อนแต่งน่ะดีจะตาย อย่างน้อยก็ไม่ต้องแยกกันอยู่คนละบ้าน ให้เปลืองค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าเช่า ค่ารถ และค่าอะไรต่อมิอะไรจิปาถะ....ไอ้นี่ ก็มองแต่มุมประหยัดเป็นข้ออ้างอย่างเดียว ตรงข้าม ได้ใคร่ครวญในอีกด้านหรือยังว่า การต้องอยู่ร่วมชายคาเดียวกับอีกคน ซึ่งแม้จะเป็นคนที่เราถูกใจ หรือสมัครรักใคร่ก็ตามทีเถอะ แต่คุณจะต้องแชร์โทรทัศน์กันดู, แบ่งห้องน้ำกันใช้, เกี่ยงกันเก็บกวาดขยะ ถ้าคนที่อยู่ด้วยเป็นจอมซกมกด้วยละก็ รับรองหล่อนได้เป็นคนรับใช้แถมยังไม่ได้เงิน เดือนสมใจแน่ นี่ก็ว่ากันในกรณีของคนไม่ได้ร่ำ ไม่ได้รวย ถ้ารวยเจอจน หากไม่รักกันจริง ฝ่ายจนมักถูกจัดวางเป็นแค่วัตถุให้บริการเรือนร่างแลกเงิน ส่วนรวยเจอรวย ไม่สันทัดแฮะ เพราะยังไม่เคยรวย ไว้รวยเมื่อไหร่จะตีแผ่ให้ฟัง

3. การอยู่ด้วยกันก่อนแต่ง ไม่จำเป็นเสมอไปว่าจะนำไปสู่ประตูวิวาห์พาฝัน

เพราะอัตราฝันค้างมีเพิ่มขึ้นทุกที คุณผู้อ่านคิดว่า สมัยนี้คนเราแยแส หรือเอาใจเขามาใส่ใจเรามากนักหรือ ? เห็นมีแต่พอกูได้ดังใจแล้ว ก็เฉดหัวมันไปหาใหม่ดีกว่า... ถมถืด

แถมเดี๋ยวนี้ เอ๊าะๆ รุ่นใหม่ๆ มีให้ เลือกออกตรึม จะคว้ายายแก่แร้ง (ก็ไม่แน่ว่าจะ) ทึ้งมาเป็นเมียให้ชีวิตอับเฉาทำไม ถ้าเป็นตอนหน้ามืดก็ว่าไปอย่าง

Credit: JaAey..Ja
30 ต.ค. 53 เวลา 21:08 2,375 6 76
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...