ส่งพักฟื้นรอคลอด-สาวพิการเหยื่อกาม คุมทำแผน พี่ตุ๊ด-คู่ขา อ้างเหตุที่ ถ่าย"คลิป" กันนอกใจ (ข่าวสด)
ตร.คุมตัว พี่กะเทย และ คู่ขา ทำแผนคดีข่มขืนน้องสาวพิการตั้งแต่เช้ามืด ป้องกันชาวบ้านฮือประชาทัณฑ์ กลับถึงโรงพักสอบปากคำอีกครั้ง พี่ชายให้การนอกจากพวกตัวเองและหลานชายแล้ว ยังมีวัยรุ่นในหมู่บ้านอีกคนที่เคยข่มขืนน้องสาว ตร.เตรียมออกหมายจับแล้ว ส่วนที่ต้องถ่ายคลิปไว้ เพื่อเอาไว้ขู่คู่ขาหนุ่มไม่ให้ตีจาก ขณะที่จนท.พัฒนาสังคมนำสาวพิการไปอยู่บ้านนนทภูมิที่ปากเกร็ดแล้วเพื่อเตรียมคลอด
จากเหตุสลดใจคนร้ายข่มขืน น.ส.เอ (นามสมมติ) หญิงพิการซ้ำซ้อน ตาบอด เป็นใบ้ สติไม่สมประกอบ ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ จนตั้งครรภ์ได้ 8 เดือน ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ. บ้านหมอ จ.สระบุรี ร่วมกับมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี จับกุมคนร้าย คือ นายนภดล อายุ 24 ปี พี่ชายของ น.ส.เอ ซึ่งเป็นกะเทย และ นายอานุช อายุ 32 ปี คู่ขาของ นายนภดล โดย นายนภดล เป็นคนช่วยให้ นายอานุช ข่มขืนน้องสาวตัวเอง พร้อมใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายคลิปวิดีโอ ขณะ นายอานุช ข่มขืนไว้ด้วย ซึ่งกลายเป็นหลักฐานสำคัญที่ทำให้เจ้าหน้าที่ติดตามจับกุมคนทั้งสองได้ ตามข่าวที่เสนอไปแล้ว
ความคืบหน้าในเรื่องดังกล่าว เมื่อวันที่ 30 ก.ย. ที่ สภ.บ้านหมอ จ.สระบุรี ร.ต.ท.พณวรรณ มาตราช ร้อยเวร นำตัวนายนภดล และ นายอานุช ออกจากห้องควบคุม มาสอบปากคำอีกครั้ง โดย นายนภดล ให้การว่า นอกจากหลานชายอีกคนหนึ่งที่ร่วมกันข่มขืน น.ส.เอ แต่หลบหนีไปได้ ก่อนหน้านั้นเคยมีวัยรุ่นอีกคนหนึ่งที่ข่มขืน น.ส.เอ มาหลายครั้งแล้ว รวมกับพวกตนและหลานชายแล้วเป็น 4 คน ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้บันทึกปากคำเอาไว้ และเตรียมรวบรวมพยานหลักฐานออกหมายจับวัยรุ่นคนดังกล่าวต่อไป
นอกจากนั้น นายนภดล ยังให้การด้วยว่า สาเหตุที่ถ่ายคลิปวิดีโอขณะ นายอานุช ข่มขืน น.ส.เอ เอาไว้ เพราะต้องการเก็บเป็นหลักฐานมัดตัว นายอานุช ไม่ให้ทิ้งตนไป มิฉะนั้นจะใช้คลิปวิดีโอนี้เข้าแจ้งความ แต่ไม่คิดว่าจะกลายเป็นหลักฐานจนถูกตำรวจจับกุม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านั้นในช่วงเช้ามืด เจ้าหน้าที่ตำรวจนำผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำสารภาพในที่เกิดเหตุ สาเหตุที่ต้องนำตัวไปในช่วงเช้ามืด เนื่องจากกลัวชาวบ้านที่โกรธแค้นจะรุมประชาทัณฑ์คนทั้งสอง
ส่วน น.ส.เอ วันเดียวกันนี้ นายธีรพงษ์ ศรีสุคนธ์ ผู้อำนวยการศูนย์พัฒนาสังคม หน่วยที่ 62 อ.พระพุทธบาท จ.สระบุรี ส่งคณะเจ้าหน้าที่ไปรับ พาตัวไปอยู่ที่สถานสงเคราะห์คนพิการและทุพพลภาพปากเกร็ด(บ้านนนทภูมิ) จ.นนทบุรี โดยนางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลฯ ได้ประสานงานกับ นางนภา เศรษฐกร รองปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ไว้ก่อนแล้ว โดยมีมารดาของ น.ส.เอ และ ญาติ ๆ จำนวนหนึ่งติดตามไปส่ง มีนายวิชญพร ไชยรัตน์ ผู้ปกครองบ้านนนทภูมิ และเจ้าหน้าที่รอรับตัว
นายวิชญพร กล่าวว่า สำหรับ น.ส.เอ และ เด็กในครรภ์ สถานสงเคราะห์จะดูแลอย่างดีที่สุด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการดูแลบำรุงครรภ์ ได้รับการบอกเล่าจาก ร.พ.สระบุรี ว่า ควรจะต้องให้แม่ได้รับสารอาหารมาก ๆ ได้ประสานกับร.พ.ชลประทาน ฝากครรภ์ไว้เรียบร้อยแล้ว ส่วนการดูแลต่อไปหลังจากเด็กคลอด จะต้องดูก่อนว่าเป็นปกติหรือไม่ และคงต้องส่งให้บ้านที่รับผิดชอบโดยตรงในการดูแลเด็กต่อไป เช่น เด็กอ่อนพญาไท บ้านเด็กอ่อนปากเกร็ด เท่าที่ทราบมีกำหนดคลอดประมาณเดือน พ.ย.นี้
นายอิสสระ สมชัย รมว.การพัฒนาสังคมฯ กล่าวว่า กระทรวงพร้อมให้ความช่วยเหลือดูแล น.ส.เอ และ ลูก ส่วนกรณีที่ น.ส.เอ เคยอยู่ในความดูแลของสถานสงเคราะห์แต่ถูกส่งกลับไปให้พ่อแม่เลี้ยงจนเกิดเหตุนั้น ต้องเข้าใจด้วยว่าสถานสงเคราะห์ ไม่สามารถกักขังหน่วงเหนี่ยวเด็กที่อยู่ในความดูแลได้ หากเป็นความประสงค์ของพ่อแม่ที่ต้องการนำลูกกลับไปเลี้ยงเอง
"เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นคนในครอบครัว พี่ชายที่ชักนำคนภายนอกเข้ามากระทำ พ้นวิสัยที่เราจะตรวจสอบได้ เรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์ให้ผู้เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะนักสังคมสงเคราะห์ ให้ติดตามตรวจสอบเด็ก หรือ กลุ่มเป้าหมายที่เคยอยู่ในความดูแลของสถานสงเคราะห์ รวมทั้งพ่อแม่ผู้ปกครองที่นำตัวกลับไปเลี้ยงดูเอง ต้องดูแลเข้มงวดตรวจสอบให้มากขึ้น" นายอิสสระ กล่าว
ขอขอบคุณข้อมูลจาก