สัญลักษณ์หัวใจก็คล้ายๆ หัวใจอยู่บ้าง อย่างน้อยก็สีแดงหรือไม่ก็สีชมพู และมาเป็นก้อนที่ไม่ใช่วงกลมๆ ธรรมดา
เว็บไซต์ ยะฮูเคยตอบคำถามเรื่องนี้ไว้ว่า ผู้ที่เริ่มใช้รูปทรงหัวใจก่อนใครคือเหล่านายพรานของยุโรปในยุคดึกดำบรรพ์ หรือยุคน้ำแข็งช่วงสุดท้าย เพื่อใช้เป็นสัญลักษณ์ของอวัยวะที่ตรึงชีวิตให้คงอยู่ ด้วยการปั๊มเลือดไปสู่อวัยวะส่วนอื่นๆ
สัญลักษณ์ดังกล่าวแปรเปลี่ยนรูปทรงไปเรื่อยๆ ตามกาลเวลาที่ล่วงเลยและใช้ต่างกันไปตามวัฒนธรรมและสาระทางศาสนา
ในยุคกลาง มีผู้ใช้สัญลักษณ์หัวใจในความหมายต่างๆ เช่น ความเป็นอันหนึ่งอันเดียว ไปด้วยกันมาด้วยกัน รวมถึงไฟและการบิน
ใน สวีเดน หัวใจหมายถึงห้องน้ำที่ใช้ร่วมกันระหว่างผู้หญิงกับผู้ชาย ส่วนชาวกรีกใช้สัญลักษณ์หัวใจเป็นใบไม้ประดับมาลัยมงกุฎของไดโดนิซุส แต่ต่อมาเปลี่ยนเป็นของอีรอส เทพแห่งความรักใคร่ และคิวปิด จอมแผลงศรรัก
ด้าน เกล ก๊อดวิน นักเขียนชาวอเมริกันที่พิมพ์หนังสือเรื่อง Heart: A Personal Journey Through Its Myths and Meanings ใช้เวลาศึกษาประวัติศาสตร์ ความเชื่อทางศาสนา วรรณกรรมและศิลปะที่เกี่ยวข้องกับสัญลักษณ์หัวใจ สรุปออกมาว่า สัญลักษณ์ที่ว่านี้เป็นรูปทรงที่สร้างสรรค์ขึ้นอย่างน่าทึ่งที่สุด เพราะมีส่วนโค้งส่วนเว้า พบในผนังของถ้ำเก่าแก่ที่ประเทศสเปน อายุราว 10,000 ปีก่อนคริสตกาล
ก๊อดวินเชื่อว่าวิวัฒนาการของรูปหัวใจในยุคต่อมาต้องการสื่อว่าเป็นสัญลักษณ์ของความรัก
ส่วน ในหนังสือ 108 ซองคำถามของสารคดี บอกว่า สัญลักษณ์หัวใจที่เห็นกันอยู่ทุกวันนี้ใช้กันมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 12 มีบางคนเห็นว่า รูปหัวใจนั้นแม้จะคล้ายหัวใจจริงๆ แต่ก็คล้ายสะโพกคนด้วย
ความ เห็นนี้มีความหมายไม่น้อย เพราะสำหรับสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่มีวิวัฒนาการสูง เช่น ลิง หรือคน สะโพกเป็นส่วนที่กระตุ้นความรู้สึกทางเพศ จึงป็นไปได้ว่าสิ่งนี้อาจเป็นจุดกำเนิดหรือที่มาของรูปหัวใจในปัจจุบัน
บาง คนเห็นต่างกันไปว่า รูปหัวใจนั้นคล้ายกับลำตัวผู้หญิง ตั้งแต่ส่วนอกลงมาถึงเอวที่คอดมากกว่า แต่ก็ไม่ได้มีเหตุผลมาประกอบแต่อย่างใด
จึงสรุปว่าที่มาของรูปหัวใจอาจเกิดจากจินตนาการ เหตุผลและอารมณ์ที่แตกต่างกันไปของแต่ละคน