การจอดรถนอนนั้นเป็น เรื่องที่เราแนะนำให้คนจำนวนมากทำ โดยเฉพาะในหมู่นักเดินทางขาจรที่จะเหนื่อยล้าจากการขับรถทางไกลเป็นเวลานานๆ อาการเหนื่อยล้าดังกล่าวนั้นหากหนักเอามากๆ อาจส่งผลให้เกิดการหลับในและก่อให้เกิดอุบัติเหตุได้ ดังนั้นทางที่ดีที่สุดคือการจอดรถหลับพักผ่อนสักหน่อยก่อนจะเดินทางต่อไปยัง จุดหมายปลายทาง
ดูผิวเผินการจอดรถนอน คงไม่ใช่เรื่องที่น่าจะมีอะไรซับซ้อน จนอาจเป็นอันตรายถึงขนาดทำให้เราสามารถเสียชีวิตคารถสุดที่รัก แต่ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่า หากเรานอนในรถโดยไม่เข้าใจอย่างถูกต้องแท้จริง นี่อาจเป็นการเดินทางครั้งสุดท้ายในชีวิตก็เป็นได้
อันตรายจากการจอดรถ นอนหลับนั้นความจริงแล้ว ภัยใกล้ตัวที่สร้างความวิตกให้เรานั้นไม่ได้อยู่ที่พื้นที่ ลักษณะท่านอน หรืออากาศภายในห้องโดยสารที่เราผนึกกระจกทั้ง 4บาน เพราะกังวลเรื่องความปลอดภัยจากโจรที่อาจมาตอนไหนก็ไม่ทราบ
ความจริงแล้วอันตราย ที่เกิดจากการนอนในรถนั้น เป็นปัจจัยที่เกิดจากภายใน และโดยมากเราจะพบว่าคนที่เสียชีวิตจากการนอนในรถส่วนใหญ่นั้น จะมีสาเหตุมาจากการสตาร์ทเครื่องยนต์แล้วเปิดระบบปรับอากาศทิ้งไว้แล้วนอน หลับจนไม่ฟื้น
สิ่งที่ผิดที่สุดของ แนวคิดการนอนในรถนั้นไม่ใช่ระบบปรับอากาศแต่มันคือการสตาร์ทเครื่องยนต์ทิ้ง เอาไว้เพื่อให้ระบบปรับอากาศนั้นสร้างความเย็นสบายตลอดเวลา เช่นเดียวกับการเดินทางในยามขับขี่ ความคิดที่รักสบายนี่เอง ที่ทำให้หลายคนกลายเป็นร่างไร้วิญญาณอย่างไม่รู้ตัว เพราะ แม้เครื่องยนต์และระบบอากาศดูจะไม่เกี่ยวข้องกันเลย ทว่าความจริงมันเชื่อมโยงกันอยู่อย่างไม่น่าเชื่อ
โดยปกติแล้วระบบปรับ อากาศภายในรถยนต์นั้น จะทำงานคล้ายๆกับระบบแอร์ทั่วๆไป คือ แลกเปลี่ยนอุณภูมิผ่านน้ำยาที่เป็นตัวนำ และนำไประบายความร้อนออกเพื่อกลับมาวนปรับอุณภูมิต่อไปแบบนี้เรื่อยๆ อันที่จริงการปรับอุณหภูมิโดยน้ำยาแอร์ที่ไหลเวียนในระบบไม่ได้เป็นอันตราย กับมนุษย์เลย หากแต่สิ่งที่ทำให้คนนอนในรถเสียชีวิตได้นั้น กลับมาจากการสูดดมไอเสียเข้าสู่ร่างกายโดยไม่รู้ตัว
แม้เราจะทราบกันดี อยู่แล้วว่าระบบปรับอากาศจำเป็นต้องทำงานในพื้นที่ปิด ซึ่งในรถยนต์นั้นมันก็หมายถึงห้องโดยสาร ทว่าถึงห้องโดยสารจะเป็นพื้นที่ปิดตามที่เราทราบ แต่พัดลมแอร์นั้นก็ยังต้องดูดอากาศบางส่วนจากภายนอกมาสู่ห้องโดยสาร
นี่เองที่เป็นสาเหตุหลักที่อาจทำให้คุณตายได้โดยไม่รู้ตัว เพราะ เมื่อคุณติดเครื่องยนต์ รถทิ้งไว้ไอเสียบางส่วนก็จะถูกพัดลมแอร์ดูดเข้ามาในห้องโดยสาร ซึ่งถ้าหากมันมาเป็นจำนวนมากคุณจะรู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงและตื่นขึ้นเหมือน สัญญาณเตือนของร่างกาย ซึ่งในรถยนต์บางรุ่นจะติดตั้งตัวดักไอเสียสู่ห้องโดยสาร เพื่อป้องกันคนนอนในรถเป้นเวลานานๆ แต่เมื่อเจ้าก๊าซพิษค่อยๆย่างกรายเข้ามาทีละนิด ในขณะที่กำลังฝันหวานก็ไม่ทางรู้สึกเลยว่าชะตากำลังจะถึงคาดในขณะพักผ่อน
คุณเคย รู้สึกปวดหัวเวลาขับรถไปเจอการจิดขัดติดเป็นชั่วโมงไหม หลายคนคงนึกว่าเรากำลังผจญภาวะความเครียด ซึ่งนั้นก็ถูกส่วนหนึ่ง แต่ความจริงแล้วในอีกด้านเรากำลังสูดดมก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เข้าไปโดยไม่รู้ ตัว และจากข้อมูลของศูนย์ข้อมูลวัตถุอันตรายและเคมีภัณฑ์ ได้กล่าวถึง อันตราย ของการสูดดมก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ว่า อาจจะทำให้เกิดการระคายเคือง ปวดศีรษะ เซื่อมซึม เคลิบเคลิ้ม สั่นกระตุก หายใจติดขัด หมดสติไม่รู้สึกตัว หัวใจเต้นปิดปกติ เนื่องจาก มีฮีโมโกลบินน้อยกว่าปกติ มีผลกระทบต่อระบบประสาทส่วนกลางจนอาจถึงขั้นเสียชีวิต
มันจึงไม่ใช่เรื่องแปลกหากพบว่าการที่เราค่อยๆดมไอเสียทีละน้อยเป็นเวลากว่า 5-6 ชั่วโมง อาจส่งเราสู่สวรรค์ได้ โดยไม่รู้ตัว ซึ่งความจริงหากคุณมีความจำเป็นในการนอนในรถระหว่างเดินทางเราก็มีวิธีที่ ถูกต้องมาแนะนำกัน
1.หาที่เหมาะสม เมื่อเริ่มรู้สึกง่วงพยายามหาที่เหมาะสมในการ จอดรถ เราแนะนำให้จอดในสถานีบริการ ถ้าเป็นไปได้ หรือถ้าไม่มีก็พยายามหาจุดที่เป็นชุมชน ป้อมตำรวจทางหลวง หรือ ไม่ก็มีแสงไฟสลัวๆดีกว่า เพื่อป้องกันโจรไปด้วยในตัว
2.ดับเครื่องยนต์ เมื่อจอดแล้วดับเครื่องยนต์ทันทีแม้อาจจะเริ่มรู้สึกอึดอัดบ้าง หากคิดว่าไม่สบายตัวก็แง้มกระจกลงสักนิด 2-3 เพื่อระบายอากาศและรับลมจากภายนอก
3.ปรับเบาะเอนเบาะนอนให้เหมาะสม การนอนในรถไม่ใช่การที่คุณเอนนอนทั้งหมด เพราะ แต่ละคนมีท่านอนที่ชอบไม่เหมือนกัน ให้คุณปรับเอนนอนให้พอดีเพียงพอ เพราะการเอนนอนมากไปจะทำให้คุณเมื่อล้าได้ภายหลัง
4.ใช้พัดลมแอร์ช่วยให้หลับ เมื่อพร้อมจะหลับก็ให้บิดกุญแจไปที่จังหวะออนเพื่อให้ระบบไฟฟ้าทำงาน แล้วจึงบิดเปิดสวิทช์แอร์ เมื่อเปิดแล้วให้หาปุ่มที่เขียนว่า A/C หรืออาจะเป็นรูปรถที่มีลูกศรชี้เข้ามาในตัวรถ จากภายนอกใ ห้เลือกกดปุ่มดังกล่าว ซึ่งพัดลมแอร์จะดูดอากาศมาหมุนเวียนในห้องโดยสารแม้จะไม่เย็นเหมือนแอร์แต่ ก็พอให้คุณเคลิ้มหลับได้สบาย
นี่เป็นวิธีการนอนใน รถที่ถูกต้องและเราไม่แนะนำให้ใช้รถเป็นโรงแรมคลื่อนที่ เนื่องจากแม้จะนอนได้แบบพอทน แต่มันก็ไม่ดีต่อสุขภาพกระดูกสันหลัง เช่นเดียวกับความไม่ปลอดภัยในชีวิต หากจำเป็นควรนอนพอให้หายอ่อนเพลียประมาณ 30-40 นาที เมื่อพร้อมแล้วจึงเดินทางต่อให้ถึงจุดหมายปลายทางครับ
ภาพประกอบจาก Gettyimages.com ,Sanook Auto Comment