หมอไทย vs หมอเกาหลี ปล.โปรดอ่านก่อนสวยด้วยมีด
โดย : พิมพ์พัดชา กาคำ
เทียบฟอร์มมือมีดสองสัญชาติ หมอเกาหลีที่ดาราแดนกิมจิเรียกใช้บริการถี่ยิบ สมาคมศัลยกรรมตกแต่งใบหน้าแห่งประเทศไทย จะตอบโต้อย่างไร ?
เกาหลี : หมอดีๆ ไม่ใช่คนทำขนมปัง
"หมอที่ทำศัลยกรรมตามสั่งโดยไม่ปรึกษา วิเคราะห์ ถือว่าไม่ใช่หมอ เป็นแค่คนทำขนมปังเท่านั้น"
เป็นความเห็นของแพทย์อันดับ 1 ของสาธารณรัฐเกาหลีหรือเกาลีใต้ ศาสตราจารย์ จอง อินชอน (Prof.Jung In Sun) แห่งโรงพยาบาล IME ประเทศเกาหลี (IME Plastic Surgery) ที่ปรึกษาของสมาคมดาราเกาหลี เรียกได้ว่าดาราคนไหนต้องการทำศัลยกรรมต้องมาปรึกษาเขา
แต่หน้าที่เขาคือ พยายามหาจุดเด่น ให้ความมั่นใจในความสวยที่มีอยู่เป็นทุนเดิม ถ้าเป็นไปได้ อย่าทำเยอะ เพราะสิ่งที่พระเจ้าให้มานั้นเหมาะสมอยู่แล้ว
“ตอนนี้ศัลยกรรมเกาหลีดังมาก แม้กระทั่งในประเทศจีน อย่างที่เห็นเป็นข่าวก็คือ ผู้หญิงจีน ยืนถือเงินต่อคิวยาวเพื่อจะทำศัลยกรรม อันนี้ก็มีส่วนความจริงนิดหน่อยเท่านั้นเองแต่ไม่ใช่ทั้งหมด ในประเทศเกาหลีก็เหมือนกัน ตอนนี้คนทั่วโลกอาจจะเข้าใจผิดว่าผู้หญิงเกาหลีส่วนใหญ่ทำศัลยกรรม หรือเด็กรุ่นใหม่พอเรียนจบ สิ่งแรกที่จะขอพ่อแม่คือทำศัลยกรรม ยอมรับว่าสิ่งนี้ก็มีบ้าง แต่ไม่ใช่ทั้งหมด อย่างลูกสาวของผม เขาก็ขอเหมือนกันเพราะตาเขาเล็ก อยากทำตาสองชั้น ผมก็ทำให้ แต่ไม่ได้หมายถึงว่าต้องทำทั้งตัว ส่วนใหญ่จะทำเล็กๆ ไม่ได้ผ่าตัดใหญ่ ทำเพื่อสร้างความมั่นใจให้ตัวเองเท่านั้น”
และเท่าที่ผ่านมือมา คุณหมอตอบว่ามีน้อยมากที่จะมา "โมดิฟาย" ตั้งแต่หัวจรดเท้า (ถึงจะมีมาขอร้องแต่หมอไม่ทำให้) ลูกค้าส่วนใหญ่จึงเดินกลับไปพร้อมกับความเปลี่ยนแปลงแค่บางส่วน เช่น ตา จมูก แก้ม
จากประสบการณ์ หมอจองว่า ดาราสาวแดนโสมขาว จำนวนไม่น้อยมีความสวยเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เพียงแต่ไม่มีความมั่นใจ เช่น อยากมีตาสองชั้นที่เห็นชัดกว่านี้ เวลาถ่ายรูปแล้วจะได้สวยขึ้น จึงต้องมาพึ่งพามีดหมอ
คุณหมอเปรียบเทียบให้ฟังว่าจะไม่มีถึงขนาด "ดูไม่ได้" แล้วรายที่หวังให้ศัลยกรรมเปลี่ยนตัวเองเป็นคนใหม่ คุณหมอตอบแบบไม่รักษาน้ำใจเลยว่า "ไม่มีทาง"
"สมมุติว่ามาหาหมอแล้วบอกว่าช่วยทำหน้าให้สวยเหมือนลียองเอ (นางเอกสาวซีรีส์แดจังกึม) เป็นไปไม่ได้เพราะรูปหน้าของคนเราไม่เหมือนกัน ต้องเข้าใจให้ถูกต้อง ศัลยกรรมเปลี่ยนคนเก่าให้เป็นคนใหม่ไม่ได้ ยิ่งผ่าตัดเปลี่ยนโครงหน้าให้คนไทยกลายเป็นคนเกาหลี อันนี้ยิ่งอันตราย"
ศัลยแพทย์ที่มีจรรยาบรรณ เมื่อมีลูกค้าเดินเข้ามาหา แม้ความต้องการจะชัดเจนแน่วแน่แค่ไหน แต่สิ่งที่ต้องทำเป็นอันดับแรกคือ จับเข่าคุย วิเคราะห์ ให้คำปรึกษา ไม่ใช่สักแต่ว่าทำตามใบสั่ง
“สมมุติมีคนเอารูปดาราคนหนึ่งมาให้ดู แล้วบอกว่าอยากสวยแบบนี้ ก็ต้องดูที่หน้าเขาว่า เขามีจุดเด่นหรือสวยตรงไหน ก็ต้องบอกเขาว่า จมูกคุณกับหน้าคุณเข้ากันดีอยู่แล้ว ถ้าคุณจะทำจมูกเหมือนอย่างในรูปนี้ จะทำให้หน้าคุณเปลี่ยนไป ไม่สวยนะ ไม่ใช่ทำตามสั่งลูกค้าเสมอไป และต้องหาหมอที่เชี่ยวชาญจริงๆ ไม่ใช่หมอที่เอาแต่เงิน จะมีปัญหาตามมาอีกเยอะ ถ้าเป็นหมอที่ทำตามแค่คำสั่งไม่พิจารณาความเหมาะสม คนคนนั้นไม่ใช่หมอ”
ตอบคำถามไปหลายข้อ ถึงคิวหมอจองถามกลับบ้างว่า "แล้วคนไทยเข้าใจคำว่า Surgery ว่าเป็นแบบไหน ถ้าคิดว่าคือการทำให้สวยขึ้นอย่างเดียว ก็คงเป็นการเข้าใจผิด"
“ตอนนี้ทุกคนคิดว่าการทำ Surgery คือการทำให้เป็นคนใหม่ ยกตัวอย่าง เราอยู่บ้านหลังหนึ่งมาตั้งแต่เกิด วันหนึ่งฝนตก หลังคารั่ว ก็แค่ขึ้นไปซ่อมหลังคา ไม่ได้ทุบบ้านทั้งหลังทิ้งแล้วสร้างใหม่ Surgery ในความหมายของผมก็เช่นเดียวกัน เท่าที่ผมทราบคนเกาหลี 70 เปอร์เซ็นต์ทำศัลยกรรมเฉพาะที่ตา รองลงมาก็เป็นจมูก นิดหน่อยเท่านั้นเอง”
นอกจากนั้นเขายังแสดงความเป็นห่วงที่คนไทยจัดทัวร์มาทำศัลยกรรมถึงเกาหลีว่า
"ตอนนี้ในสายตานานาชาติ ศัลยกรรมเกาหลีดังมาก เป็นภาพที่ผิดมาก หรือมองว่าคนเกาหลีที่สวยๆ ทุกคนทำศัลยกรรมมาแล้วก็ไม่ใช่ทั้งหมดเพราะบางคนเขาสวยธรรมชาติ ดาราเกาหลีก็ไม่ได้ทำศัลยกรรมเยอะ บางคนไม่ได้ทำเลยก็มี ยิ่งดาราวัยรุ่นสวยอยู่แล้ว ยกเว้นรุ่นที่อายุ 30 ปีขึ้นไปอาจจะมาทำศัลยกรรมบ้าง เช่น เอาเซลล์มาเพิ่มให้เต่งตึงขึ้นเท่านั้นเอง เรียกว่าทำ Fat Graft (เอาไขมันของตัวเราเองมาเติมริ้วรอย) ผมว่าดาราทุกประเทศอยากสวยกันทุกคน”