อันดับที่ 1 Wal-Mart Stores
ธุรกิจค้าปลีกยักษ์ใหญ่ของโลก สัญชาติอเมริกันปีนี้สามารถทวงแชมป์จากบริษัทExxon Mobilบริษัทน้ำมันรายใหญ่ที่สุดสัญชาติเดียวกันได้เป็นที่เรียบร้อย ด้วยรายได้รวมปี2006กว่า351,139พันล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งมากกว่าปีก่อนถึง11% และด้วยจำนวนของลูกจ้างกว่า1.9พันล้านคนทั่วโลกจึงทำให้วอล์มาร์ทผงาดเป็นที่หนึ่งในการจัดอันดับในครั้งนี้อย่างมิต้องสงสัย นอกจากนี้ วอล์มาร์ทยังเป็นธุรกิจค้าปลีกชื่อดังที่ใหญ่ที่สุดในโลก และสามารถครองอันดับที่หนึ่งได้ถึง5สมัย ตลอด6ปีล่าสุดที่ผ่านมา ยอดเยี่ยมจริง ๆ
อันดับที่2 Exxon Mobil
โดนทวงแชมป์อันดับที่1ในปีที่แล้วเป็นอันเรียบร้อยจากบริษัทวอล์มาร์ท บริษัทสัญชาติเดียวกัน ซึ่งปีที่ผ่านมาExxon Mobilมีรายรวมราว347,254พันล้านเหรียญสหรัฐ แต่อย่างไรก็ดีExxon Mobilก็ยังเป็นบริษัทที่มีกำไรมากที่สุดในโลก คือประมาณ39.5พันล้านเหรียญสหรัฐ (ก็ยังดีน่าอย่าเสียใจไปเลยนะ เพราะว่าปีที่ผ่านมานายก็มีเคราะห์หลายเรื่องไม่ใช่เหรอ)
อันดับที่3 Royal Dutch Shell
ยังรั้งอันดับที่สามเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลงจากการจัดอันดับในปีที่แล้วด้วยรายได้รวมที่318,845พันล้านเหรียญสหรัฐ ด้วยจุดแข็งของบริษัทด้านก๊าซธรรมชาติ ทั้งนี้ บริษัทRoyal Dutch Shellเชนน้ำมันรายใหญ่ที่สุดของยุโรป สัญชาติเนเธอร์แลนด์ ก็ยังถือว่ามีผลประกอบการที่ดี โดยมีรายได้ในภาพรวมโตกว่า3.9% และยังเป็นบริษัทที่มีกำไรสูงที่สุดเป็นอันดับที่สองของโลก รองจากExxon Mobilอีกด้วย โดยฟันกำไรปีที่แล้วกว่า25.4พันล้านเหรียญสหรัฐ (แหม.. แต่ตลาดในเมืองไทยนายน่าจะรุกคืบมากกว่านี้นะ เพราะที่ผ่านมากลยุทธ์ทางการตลาดดูจะแผ่วไปหน่อย)
อันดับที่4 BP
บริษัทน้ำมันรายใหญ่สัญชาติอังกฤษ ปีที่ผ่านมาโกยรายได้รวมไปกว่า274,316พันล้านเหรียญสหรัฐเท่านั้น ก็เพราะโชคไม่ดีของบริษัทที่ทำให้โรงกลั่นในรัฐเท็กซัสของสหรัฐระเบิดเมื่อปี2005ซ้ำร้ายเข้าไปอีกเมื่อบริษัทฯ ได้ทำน้ำมันรั่วเมื่อเดือนมีนาคม ปี2006ในอลาสก้า ซึ่งนำไปสู่การปิดท่อส่งก๊าซ2แห่ง แต่อย่างไรก็ดีกำไรโดยรวมของBPตกลงเพียงแค่1.5% เท่านั้น ในปีที่แล้ว ถือว่ายังดีนะเนี่ยที่ยังครองอันดับ4ไว้ได้ นายแน่มาก..
อันดับที่5 General Motors
GMยักษ์ใหญ่ด้านยานยนต์จากสหรัฐ โกยรายได้รวมในปี2006กว่า207,349พันล้านเหรียญสหรัฐ โดยในปีนี้ครองแชมป์อันดับที่5เหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลงจากปีที่แล้ว ถึงแม้ปีที่แล้วบริษัทจะขายหุ้นในส่วนที่ทำกำไรมากที่สุดออกไป บวกกับการที่ต้องจ่ายเงินชดเชยจำนวนมหาศาลให้กับการลดคนงานกว่า10,000คน (ปีนี้แย่หน่อยนะสำหรับจีเอ็ม ยิ่งไปกว่านั้นในอนาคตอาจจะแย่กว่า เพราะอีกไม่ช้าไม่นาน นายต้องโดนโตโยต้าจากฝั่งเอเชียของเราแซงหน้าแน่ ๆ อย่างน้อยก็เรื่องรถยนต์ไฮบริดล่ะว่ะ.. อิอิ)
อันดับที่6 Toyota Motor
ปีนี้บริษัทToyota Motorจากญี่ปุ่น ได้ขยับขึ้นมาสองอันดับ จากปีที่แล้วอันดับที่8มาเป็นที่6ในปีนี้ ด้วยรายได้รวม204,746พันล้านเหรียญสหรัฐ ทั้งนี้Toyotaถือเป็นบริษัทที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย และยังเป็นบริษัทที่มีกำไรมากที่สุดอีกด้วย โดยมีกำไรเพิ่มขึ้นกว่า16% จากเมื่อปี2005ด้วยกำไรในปี2006กว่า14พันล้านเหรียญสหรัฐในปีที่ผ่านมา โดยToyotaมีกำไรเฉลี่ยต่อรถยนต์หนึ่งคัน (เทียบในปี2006)อยู่ที่1,200เหรียญสหรัฐ นอกจากนี้ToyotaยังแซงFordมารั้งอันดับ2ด้านยอดขายรถยนต์ในปี2003และยังเบียดGMขึ้นมาเป็นอันดับหนึ่งด้านยอดขาย ในไตรมาสแรกของปี2007อีกด้วย มาแรงจริง ๆ ครับToyotaในทศวรรษนี้ (เป็นบริษัทเอเชียบริษัทเดียวในท็อปเท็นนะเนี่ย เย่ ๆ ๆ ยินดีจัง อย่างน้อยเราก็คนเอเชียเหมือนกัน ไม่ยอมให้พวกฝรั่งมันเจ๋งกว่าหรอก.. ใช่ม่ะ)
อันดับที่7 Chevron
ตกมาหนึ่งอันดับจากปีที่แล้วด้วยรายได้รวม200,567พันล้านเหรียญสหรัฐ ทั้งนี้ บริษัทน้ำมันรายใหญ่ของสหรัฐได้ควบรวมกิจการกับUnocalเมื่อปีที่แล้ว และในขณะนี้Chevronก็ถือเป็นบริษัทน้ำมันรายใหญ่อันดับสองของประเทศไปแล้วอีกด้วย ต้องขอบคุณการควบรวมกิจการดังกล่าวที่ทำให้Chevronมีกำไรเติบโตกว่า21.7%โดยมีกำไรถึง17.1 พันล้านเหรีญสหรัฐ (ยังไงก็ต้องขอบคุณสำหรับเชพรอนนะเนี่ย ที่อย่างน้อยนายก็ยังไม่ลืมที่จะให้สมุดไดอารี่เราเป็นของขวัญปีใหม่ เมื่อต้นปีที่ผ่านมา)
อันดับที่8 DaimlerChrysler
Mercedesบริษัทร่วมกิจการระหว่างยุโรปกับอเมริกันรายนี้ ปีนี้ทำได้ไม่ดีสักเท่าไร แถมยังตกมาหนึ่งอันดับจากปีที่แล้ว แต่อย่างไรก็ดีรายได้รวมของบริษัทก็ยังเพิ่มขึ้นถึง9% ในปี2006โดยมีรายได้รวมราว190,191พันล้านเหรียญสหรัฐ แต่Chryslerนะซิรายได้หดลงกว่า6%แต่ก็เอาน่าเปิดตัวบริษัทChryslerก็ได้เปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่กว่า10รุ่น เมื่อปีที่แล้ว แถมยังมีแผนที่จะปล่อยอีกมากว่า8รุ่น ขอให้นายโชคดีนะ..
อันดับที่9 ConocoPhillips
ถึงแม้ว่าจะเป็นบริษัทในเล็กในสุดในBig Fiveด้านปิโตรเลียม แต่อย่างไรก็ดี บริษัทฯ ก็ยังเป็นผู้ผลิตก๊าซธรรมชาติรายใหญ่ที่สุดในNorth Americaนะจะบอกให้ ต้องขอบคุณการเข้ายึดกิจการของBurlington Resourcesเมื่อปี2005ด้วยนะเนี่ย นอกจากนี้ConocoPhillipsยังเป็นบริษัทกลั่นน้ำมันในใหญ่ที่สุดของสหรัฐอีกต่างหาก ปีนี้จึงทำรายได้รวมถึง172,451พันล้านเหรียญสหรัฐ (แต่รายได้ก็ยังตามหลังBPอยู่ดี ปีหน้าขอให้นายโชคดีนะ)
อันดับที่10 Total
อ่านว่า"โทแทล"นะครับ ไม่ใช่"โทเทิล"เพราะเป็นบริษัทน้ำมันสัญชาติฝรั่งเศส ซึ่งปีนี้มีรายได้รวม168,357พันล้านเหรียญสหรัฐ ขยับขึ้นมาสองอันดับจากปีที่แล้วมาอยู่อันดับที่10ในปีนี้ ด้วยปริมาณปั้มน้ำมันกว่า17,000แห่งในยุโรป และแอฟริกา ซึ่งโทแทลขายน้ำมันให้กับสองทวีปนี้มากกว่าบริษัทอื่น ๆ แต่ด้วยปริมาณการผลิตน้ำมันและก๊าซธรรมชาติที่ลดลงราว5%ก็ทำให้นายChristophe de Margerie CEOของบริษัทฯ ได้ออกมาประกาศโครงการใหม่11โครงการ ที่บริษัทจะดำเนินการจากประเทศไนจีเรีย ถึงซาอุดิอาราเบีย เลยนะเนี่ย (เราดูข่าวนายที่ผ่านมา ได้ยินว่าจะมีความร่วมมือกับก๊าซพรอมที่รัสเซียอีกนี่น่า... แหม ก้าวหน้าไปไกลเกินเพื่อน ๆ ทวีปเดียวกันเลยนะเนี่ย)
อ่านต่อ :http://www.dek-d.com/board/view.php?id=1548545#ixzz136Tm7Ro9