‘คำถามสำคัญไม่ใช่เราขาดอะไรไป แต่เป็นเรามีอะไรบ้าง’ อย่างที่รู้กันว่าไม่มีใครในโลกนี้ที่สมบูรณ์แบบ เราต่างมีบางสิ่งและขาดบางสิ่งไปด้วยกันแทบทั้งนั้น ด้วยความไม่สมบูรณ์ของแต่ละคนเราจึงชอบมี ‘ข้อแม้’ ต่างๆ นานากับตัวเอง เช่น ถ้าหล่อกว่านี้ฉันจะไปสมัครเป็นดาราให้ดู, ถ้าเก่งชีววิทยากว่านี้ฉันก็เป็นหมอไปแล้ว, ถ้ามีเวลามากกว่านี้ฉันก็ได้ซ้อมดนตรีออกอัลบั้มไปแล้ว, ถ้ารวยมากกว่านี้ฉันอาจไปเป็นขอทานแบบคนอยากจนดูแล้ว, ถ้าฉันหน้าตาโรคจิตกว่านี้ก็คงมีโอกาสได้เล่นละครบทโจรบ้ากามไปตั้งนานแล้ว, ถ้าผมเก่งภาษาอังกฤษมากกว่านี้ ตอนนี้ก็อาจได้เป็นเมียฝรั่งไปแล้ว ฯลฯ จึงดูเหมือนว่า ‘สิ่งที่คิดว่าตัวเองเป็นได้’ กับ ‘สิ่งที่ตัวเองเป็นอยู่’ นั้นจะไม่ค่อยสนับสนุนกันสักเท่าไหร่ เราจึงต้องใช้บานประตูที่เปิดไปสู่โลกสมมุติอย่างคำว่า ‘ถ้า’ มาวางข้างหน้าเงื่อนไขเสมอ เงื่อนไขที่มักแสดงข้อแม้ว่าเรา ‘ขาด’ สิ่งใดไปจึงไม่ได้ทำในสิ่งที่อยากทำ เมื่อไม่มีสิ่งนั้นหรือมีไม่เพียงพอเราก็เลยทำไม่ได้ ดูเหมือนจะเป็นเหตุผลที่น่ารับฟัง ในเมื่อไม่มีแล้วจะทำได้อย่างไร
เจสสิก้า ค็อกซ์ (Jessica Cox) เป็นนักบินไร้แขนคนแรกของโลก เธอพิการแขนทั้งสองข้างตั้งแต่กำเนิดโดยไม่รู้สาเหตุ แต่แทนที่จะรู้สึกว่าตัวเองขาดแขนทั้งสองข้างไป เธอกลับเติบโตขึ้นอย่างมั่นใจด้วยการใช้ขาทั้งสองของเธอดำเนินชีวิตามปกติ เธอหัดใช้ขาทั้งสองแทนแขนและใช้เท้าทั้งสองแทนมือตั้งแต่เด็ก เริ่มจากกิจวัตรประจำวันธรรมดาอย่างการเขียนหนังสือด้วยเท้า, ใช้เท้าหยิบหวีขึ้นมาแปรงผม, หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาพูดคุย, ใช้นิ้วเท้าทำงานคอมพิวเตอร์ นอกจากนั้น เธอยังมีกิจกรรมในเวลาว่างอย่างการเต้นแท็บ, ว่ายน้ำ, เล่นยิมนาสติก, เรียนเทควันโด ซึ่งเธอเป็นเจ้าของสายดำถึงสองสายด้วยกัน มิเพียงเท่านั้น การไม่มีแขนของเธอนั้นไม่ได้ทำให้เธอต้องพึ่งพาคนอื่นแต่อย่างใด เธอสามารถขับรถเองได้ สอบใบขับขี่ผ่าน แม้ว่าเธอจะเริ่มหัดจากรถ ยนต์พิเศษที่ทำขึ้นมาเพื่อให้เหมาะกับการใช้เท้าควบคุมพวงมาลัย แต่หลังจากขับคล่องแล้วเธอก็เลือกที่จะขับรถในแบบเดียวกับที่คนปกติทั่วไป ใช้กัน
ใช่! คำถามสำคัญไม่ใช่ “เราขาดอะไรไป” แต่น่าจะเป็น “เรามีอะไรบ้าง” สิ่งที่ไม่มี ต่อให้คร่ำครวญถึงมันแค่ไหนมันก็คงไม่สามารถปรากฏตัวหรืองอกขึ้นมาได้ และถ้าเอาแต่มองและพร่ำบ่นถึงมันในความว่างเปล่าก็คงไม่มีอะไรดีขึ้นมา ต่างจากการหันไปมองในสิ่งที่เรามีอยู่ และดึงศักยภาพทั้งหมดของมันขึ้นมาใช้อย่างเต็มที่อย่างสร้างสรรค์ อย่างมุ่งมั่นตั้งใจ และไร้ความหวาดกลัวว่าจะไม่สำเร็จ เติมเต็มความไม่มีด้วยสิ่งที่เรามี จริงอยู่ว่า โลกนี้ไม่มีใครสมบูรณ์แบบ แต่ก็ไม่มีใครบกพร่องไปเสียทุกอย่างเช่นกัน ทุกคนต่างมีบางสิ่งและ ขาดบางสิ่งด้วยกันทั้งนั้น อยู่ที่ใครจะใช้ในสิ่งที่ตัวเองมีได้อย่างเต็มที่แค่ไหน ถ้าใช้มันอย่างเต็มที่เราอาจได้รู้ว่าเรา‘มี’มากกว่าที่คิด