จับพ่อข่มขืนลูกของลูก!!! กระตุกเตือนยุคศีลธรรมเสื่อม

 

จับพ่อข่มขืนลูกของลูก!!! กระตุกเตือนยุคศีลธรรมเสื่อม



 


"ดักรวบพ่อสุดหื่นข่มขืนลูกตั้งท้อง คลอดลูกสาว ออกมา ขยี้กามเลือดในอกรุ่น 2 ซ้ำ"   
  

         พาดหัวข่าวหนังสือพิมพ์หลายฉบับเมื่อ 2-3 สัปดาห์ก่อน เชื่อว่าทุกคนในสังคม ไม่ว่าจะอยู่ในฐานะใด พ่อ แม่ หรือลูก ต่างรู้สึกช็อก สลดใจ และตามด้วยคำถามว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับ "สังคมไทย" ยุคไอทีวันนี้ ที่ดูเหมือนจิตใจคน และศีลธรรมจะเสื่อมทรามลงทุกวัน สวนทางอย่างสิ้นเชิงกับความเจริญทางด้านวัตถุ 
   

         คดีนี้ถูกเปิดเผยขึ้นช่วงเย็นวันที่ 12 พ.ค. ที่ผ่านมา เมื่อ พ.ต.อ.ธีรศักดิ์ สุริวงศ์ ผกก.ศูนย์สวัสดิภาพเด็กเยาวชนและสตรี (ศดส.) กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พร้อม พ.ต.ต.สวัสดิ์ ภักดี สว.งานสืบตรวจตราและควบคุมฯ นำกำลัง พร้อมหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่ จ 531/2551 เข้าจับกุมนายณัฐ (สงวนนามสกุล) อายุ 53 ปี ได้ขณะกำลังขับรถแท็กซี่สีเขียวเหลือง ผ่านมาบนถนนโลคัล โรด บริเวณหน้าวัดเสมียนนารี แขวงลาดยาว เขตจตุจักร ในข้อหากระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 13 ปี ซึ่งมิใช่ภรรยาหรือสามีของตน ซึ่งเป็นผู้สืบสันดานหรืออยู่ในความปกครองของตน หรือ "ข่มขืนลูกตัวเอง" 
  

         พ.ต.อ.ธีรศักดิ์ หรือ "ผกก.แป้น" เล่าว่าคดีนี้เริ่มต้นจาก น.ส.แอล (นามสมมุติ) อายุ 18 ปี มาขอความช่วยเหลือจากสารวัตรสวัสดิ์ บอกว่าถูกพ่อข่มขืนมาตั้งแต่อายุ 9 ขวบ จนทนรับสภาพไม่ไหวแล้ว ท่านสารวัตรสวัสดิ์ก็พามาคุยกับผม เธอเล่ารายละเอียดให้ฟังเล่าไปก็ร้องไห้ไป  
   

         "หนูถูกพ่อแท้ๆ ข่มขืนมาตั้งแต่อายุ 9 ขวบ แรกๆ แม่ (น.ส.พิม นามสมมุติ ปัจจุบันอายุ 34 ปี ) ก็ยังไม่รู้ ต่อมาแม่เริ่มสงสัยเพราะเห็นหนูทุกข์ใจ จึงคาดคั้นถาม พอทราบความจริงแม่ก็ถึงกับช็อก เพราะแม่เองก็เป็นลูกสาวของพ่อเหมือนกัน และถูกพ่อข่มขืนจนตั้งท้อง แล้วก็คลอดลูกออกมาเป็นหนู พอแม่ฟังหนูเล่าจบ เราก็นั่งกอดกันร้องไห้น้อยใจในชะตาชีวิตที่ต้องมามีบ่วงกรรมเดียวกัน ทุกวันนี้หนูยังเรียงลำดับความสัมพันธ์ของพวกเราไม่ถูก ไม่รู้จะเรียกเค้าว่าพ่อหรือตาด้วยซ้ำ  
   

         แม่อดทนอยู่ร่วมชายคากับพ่อมาตลอด จนถึงวันที่รู้ว่าพ่อข่มขืนหนู แม่ก็ทนแบกรับความกดดันไม่ไหว และไม่รู้จะทำยังไง สุดท้ายตัดสินใจหนีไปแต่งงานมีครอบครัว หนูเคยหนีพ่อไปอยู่กับแม่ แต่ก็กลับถูกสามีของแม่แทะโลมลวนลามอีก จนต้องกลับไปอยู่กับพ่อ แต่ให้พ่อสัญญาว่าจะไม่ย่ำยีหนูอีก ตอนแรกพ่อก็รับปาก แต่อยู่ๆ ไปก็เหมือนเดิม หนูเลยตัดสินใจหนีไปอยู่กับเพื่อน พอหนูเล่าเรื่องเลวร้ายที่เผชิญมาให้เพื่อนฟัง เพื่อนคนนี้เค้ามีพ่อเป็นตำรวจเลยแนะนำให้หนูมาขอความช่วยเหลือที่นี่" เหยื่อผู้น่าสงสารเล่าอย่างเจ็บช้ำ 
   

         ผกก.แป้น บอกว่าหลังพาตัวเธอไปแจ้งความที่ สน.วัดพระยาไกร ท้องที่เกิดเหตุ ประมาณ 1 อาทิตย์เศษ ก็มีการออกหมายจับ ผู้ต้องหาคงเริ่มรู้ตัวแล้วจึงไม่ค่อยกลับไปนอนบ้าน แต่สุดท้ายก็หนีไม่รอด โดยผู้ต้องหาอ้างว่าเมาสุรา แต่คงเป็นแค่ข้อแก้ตัว เพราะการข่มขืนลูกถึง "2 เจเนอเรชั่น" มายาวนาน คงไม่ใช่แค่เมาแน่ ที่สำคัญผู้ต้องหามีการเปลี่ยนชื่อตัวเองถึง 6 ครั้ง รวมทั้งชื่อของลูกสาวที่ตกเป็นเหยื่อทั้ง 2 คนอีกหลายครั้ง เพื่อป้องกันสืบสาวราวเรื่องและถูกจับกุม แต่เราตรวจสอบได้จากเลขบัตรประจำตัวประชาชน 13 หลัก เพราะจะเปลี่ยนชื่อกี่ครั้ง แต่เลข 13 หลัก มันเปลี่ยนไม่ได้  
   

         "มันน่าเศร้ามาก เพราะแนวทางการสืบสวนพบว่า ตัวนายณัฐเอง ก่อนหน้ามีภรรยาอยู่แล้ว และคลอดลูกออกมาเป็น น.ส.พิม ต่อมาภรรยารู้ว่านายณัฐข่มขืน น.ส.พิม ลูกสาวในไส้ ก็ทนไม่ไหวหนีออกจากบ้านไป จากนั้น น.ส.พิมก็ตกเป็นเหยื่อถูกพ่อตัวเองข่มขืนมาตลอดจนตั้งท้องคลอดลูกคนแรกออกมา แต่ลูกอายุ 3 ขวบก็เสียชีวิต กระทั่งมาตั้งท้องและคลอดลูกมาเป็น น.ส.แอล และต้องมาประสบชะตากรรมเดียวกับแม่ ด้วยน้ำมือของพ่อตัวเอง"     
  

         พ.ต.อ.ธีรศักดิ์ ยังบอกว่าคดีนี้มีโทษหนักถึงจำคุก 7- 20 ปี และเชื่อว่าการใช้ตัวบทกฎหมาย และมาตรการลงโทษที่เฉียบขาดรุนแรง เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง จะช่วยลดคดีในลักษณะนี้ได้ เช่นเดียวกับในสหรัฐอเมริกา ที่กฎหมายรุนแรงมาก แต่ยังเชื่อว่าคดีพ่อข่มขืนลูก หรือบุคคลในครอบครัวข่มขืนกันเอง เป็นเพียงส่วนน้อยที่เกิดขึ้นในสังคมไทย แต่มันก็เหมือนกระตุกเตือนสังคมให้ต้องหันมาใส่ใจและป้องกันแก้ไขอย่างจริงจัง ไม่ใช่แค่มองผ่าน  
  

         ทางด้าน ดร.วัลลภ ปิยะมโนธรรม นักจิตวิทยาชื่อดังชี้ว่า คนประเภทนี้เป็นคนเบี่ยงทางเพศ ไม่ไว้ใจสังคม ไม่ไว้ใจคนภายนอก จะรับเฉพาะคนในครอบครัว หรือญาติเท่านั้น จะแยกตัวออกมาคนเดียว ไม่มีทักษะทางสังคม ไม่เข้ากับคนอื่น ไม่รู้กฎเกณฑ์กติกามารยาทสังคม จึงกระทำกับคนในครอบครัว ถัดมาเรียกว่าบุคลิกภาพแปรปรวน คือไม่มีสติ สังคมอธิบายว่า ในคนเราจะมีสัตว์ 3 ประเภทในตัว คือสัตว์ตัณหา สัตว์สังคม และสัตว์ศาสนา โดยทั่วไปคนคือสัตว์สังคม มีสัตว์ศาสนาหรือมโนธรรมเป็นสิ่งควบคุม ถ้าไม่มีจะเป็นสัตว์ตัณหาทันที สุดท้ายคือประเภทคนบ้าๆ บอๆ ควบคุมอารมณ์ไม่ได้ สับสน ไม่รู้ตัว ไม่มีสติสัมปชัญญะ ถ้ามีสิ่งเร้ามากระทบตาจะแสดงพฤติกรรมทันที อันดับแรกคือพฤติกรรมทางเพศ บวกกับไม่มีทักษะทางสังคม ระแวงสังคมก็มาออกที่คนในครอบครัว เป็นเรื่องน่ากลัว อันตรายมากๆ คนพวกนี้ส่วนใหญ่ไม่มีการศึกษา ไม่มีงานทำ จึงไม่มีกลุ่มเพื่อน กลุ่มสังคม ทางแก้ไขคือ การพยายามให้คนได้เรียนหนังสือจึงเป็นทางแก้ไขปัญหาอีกทางหนึ่ง      
  

         ...เชื่อว่าปัญหาเหล่านี้จะหมดไป หากเราจะเริ่มต้นด้วยการให้การศึกษา ปลูกจิตสำนึกด้านศีลธรรม และสร้างครอบครัวที่อบอุ่น เพราะคดีที่เกิดขึ้นไม่ได้แค่ถูกทิ้งไว้เฉพาะบนหน้าหนังสือพิมพ์ หรือแค่ตัวเลขสถิติข้อมูลทางคดีเท่านั้น แต่มันได้ถูกบันทึกลงในจิตใจของผู้หญิงทุกคนที่ถูกเรียกว่า "เหยื่อ" และมันยากเหลือเกินที่จะลบเลือนจากจิตใจได้หมด แม้เวลาจะผ่านไปนานแค่ไหนก็ตาม 
 

Credit: http://www.konmun.com/X-Files/id34.aspx
#เรื่องแปลก
sealotkung12
นักแสดงรับเชิญ
19 ต.ค. 53 เวลา 18:26 1,978 2 18
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...