ซาราห์ เบคเวลล์ นักวิจัยชาวอังกฤษ ได้เขียนถึงสรรพคุณทางยาของ "มัมมี่อียิปต์" ลงตีพิมพ์นิตยาสาร "ไฟท์ทีนไทมส์" เมื่อไม่นานมานี้ โดยระบุว่าไม่เพียงชาวตะวันออกกลางชาวอียิปต์เท่านั้น ที่ใช้ผงมัมมี่รักษาโรค ชาวยุโรปเมื่อ 200-300 ปีก่อน ก็นิยมเช่นกัน
เธอบอกว่า มันเป็นแฟชั่นในยุคก่อนที่บรรดาขุนนางหรือผู้มีศักดิ์สูง ในสังคมนิยมพกถุงผ้าเล็กๆ โดยเย็บติดกับชายเสื้อ เพื่อเป็นของรางของขลัง หรือยาสำหรับพกไปไหนมาไหนด้วย ชาวยุโรปเมื่อ 200 ปีก่อนเชื่อว่า ผงมัมมี่และขี้ผึ้งมัมมี่สามารถรักษาโรคต่างๆ ได้ เช่น ลมชัก ลมพิษ กระดูกหัก อัมพาต ปวดหัวไมเกรน เจ็บคอ ไข้หวัด โรคหัวใจ ปวดท้อง และโรคประสาท รวมทั้งเชื่อว่าผงมัมมี่มีการป้องกันการถูกพิษร้าย หรือโรคไข้ดำได้อีกด้วย
ซาราห์ระบุว่าในตลาดมืดจากร้านขายของเก่า ยังพอมีผงมัมมี่ขายอยู่ แต่ว่าลูกค้าต้องจ่ายหนักซักหน่อย ราคาตั้งไว้ราวๆ 1,100 ดอลลาร์ หรือเกือบ 50,000 บาท ต่อ 1 ออนซ์ เพราะผงมัมมี่มีสรรพคุณทางยาเปรียบได้กับโอสถทิพย์นี่เอง เมื่อหลายร้อยปีก่อน จึงมีโจรลักลอบขุดสุสานฟาโรห์อียิปต์ ส่วนหนึ่งขโมยสมบัติมีค่าไป อีกส่วนหนึ่งก็เอามัมมี่ไปทำเป็นตัวยา
วิธีทำฝงมัมมี่นั้น จะแก้เอาผ้าลินินที่ห่อศพออกทั้งหมด ซากมัมมี่จะอยู่ในสภาพแห้งกรัง มีผงน้ำมันดินและสารอื่นๆ ปะปนอยู่ นำทั้งหมดมาตั้มเคี่ยวด้วยไฟอ่อนๆ จนเปื่อยยุ่ย ขณะเดียวกันจะมีตัวยาผสมน้ำมันผืชหอม น้ำมันโอลีฟ และเครื่องเทศที่ให้ความร้อน เคี่ยวจนเปื่อยยุ่ยเช่นกัน และนำไปตากแห้ง บดจนกลายเปนผง หรือเป็นขี้ผึ้งก็ได้
การใช้ผงมัมมี่บำบัดโรคในสัมยก่อน มี่ทั้งการผสมน้ำดื่ม และใช้ทาในกรณีที่เป็นโรคลมพิษ หรือแผลเน่าเปื่อย ในปัจจุบัน ซาราห์เองก็ได้เตือนว่าผงมัมมี่ในเวลานี้ หากเป็นของจริงจะมีราคาสูงมาก เมื่อใดที่มีราคาถูก ก็จะเป็นของปลอม ซึ่งนำซากสัตว์ หรือซากศพของมนุษย์มาทำ ไม่ใช่มัมมี่ของจริงเหมือนในสมัยก่อนๆ ซึ่งผู้ซื้อควรระวังให้มาก
หายไปนาน..คราวนี้เลยเอาสาระแบบแปลกๆ มาให้อ่านกันนะคะ (ถ้ารู้แล้วก็ขอโทดด้วยนะ)