.
.
.
แคท'เนียนบทกะเทย การันตี'แฝดนะยะ'อลังการ
พิฐชญาณ์ เพชรธีระโรจน์ เรื่อง
กลับ มาทวงตำแหน่งนางเอกขวัญใจแฟนๆ อีกครั้ง หลังหายไปนาน 4 ปีเต็ม สำหรับนางเอกสาว 'แคท'แคทรียา อิงลิช โดยการกลับมาครั้งนี้ไม่ธรรมดา เพราะเธอต้องรับบทบาทการแสดงเป็นแฝดชาย-หญิงในละคร "แฝดนะยะ" ทางช่อง 3
ประชัน บทบาทกับพระเอกหนุ่ม 'ปอ'ทฤษฎี สหวงษ์ ร่วมด้วย 'โบว์'สาวิตรี สุทธิชานนท์, 'โอ๋'ภัคจีรา วรรณสุทธิ์, เอกชัย เอื้อสังคมเศรษฐ์ ฯลฯ และสาวประเภท 2 ใน "แก๊งทิฟฟานี่" ที่นำโดย ธัญญรัศมิ์ จิราภัทรภากร หรือ 'ฟิล์ม ทิฟฟานี่' ฝีมือการกำกับฯของ 'ชูศักดิ์ สุธีรธรรม'
ทั้งนี้ 'ไก่'วรายุธ มิลินทจินดา ผู้จัด เผยว่า
"แฝด นะยะ" เป็นละครแนวโรแมนติก-คอมเมดี้ เป็นเรื่องแฝดชาย-หญิง 'ป้าง' กับ 'แป้ง' ที่พ่อแม่เลิกกัน พ่อที่มีนิสัยนักเลงหัวไม้ ติดการพนัน ได้เอา 'แป้ง' ลูกแฝดหญิงไปเลี้ยง ทำให้แป้งมีนิสัยห้าวไม่กลัวใคร ส่วนแม่เอา 'ป้าง' ลูกแฝดชายไปเลี้ยง ป้างอยากอ่อนโยนเหมือนแม่ทำให้เขากระตุ้งกระติ้งและพัฒนากลายเป็นสาวประเภท สองและเปลี่ยนชื่อเป็น 'ปรางค์'
เรื่องชุลมุนเมื่อปรางค์ประกวดมิส เรนโบว์ ควีน แต่ถูกผู้เข้าประกวดคนอื่นเอาน้ำกรดใส่ในครีมล้างหน้าทำให้หน้าพัง ร้อนถึงน้องสาวแฝดต้องมาประกวดแทน
ซึ่งการเลือกดาราสาว 'แคทรียา อิงลิช' มารับบทสาวประเภทสองนั้น ผู้จัดฝีปากคมบอกเหตุผล
"อย่าง แรกเขาหายไปนาน ที่สำคัญเขาร้องได้ เต้นได้ โชว์ได้ และเขาเรียนมวย กังฟู ลุกส์เขาเป็นนักกีฬา เฮลตี้อยู่แล้ว ซึ่งในตัวเขาจะมีความค้านกันอยู่ในตัว เราเลยจับ 2 ตัวมาแยกกันเป็น 2 คน ก็ตรงกับบุคลิกตัวละครทั้งคู่ ซึ่งถ้าเราไปหาคนอื่นก็ต้องเอามาฝึกอีก และแคทมีความตั้งใจ พอรู้ว่าคาแร็กเตอร์แบบนี้ เขาก็ไปเรียนมวยไทยเพิ่มเพื่อให้ร่างกายและท่าทางออกมาสวยงาม"
กลัว ไหมว่าคนอื่นจะไม่เชื่อที่ให้แคทมารับบทสาวประเภทสอง ไก่อธิบายว่า "ในตอนที่คุยกับแคทครั้งที่เลือกตัวละคร บอกเขาว่าถ้าแคทสร้างตัวละครขึ้นมาใหม่ 2 ตัวจะยาก ตัวกะเทย 1 ตัว ตัวผู้หญิง 1 ตัว ถ้าสร้างทั้ง 2 ตัวอาจสับสนได้"
"เลยบอกว่าคา แร็กเตอร์แคทที่เป็นอยู่จะยืนพื้นตัวไหน ระหว่างกะเทยหรือผู้หญิง แคทเขาเลือกคาแร็กเตอร์ที่เป็นผู้หญิง เขาบอกตัวเขาห้าวอยู่แล้ว ฉะนั้นเราต้องสร้างคาแร็กเตอร์ตัวกะเทยให้เขา อีกอย่างในกองถ่ายมีแต่กะเทยไก่ไม่ห่วงเลย และเขาเป็นผู้หญิงที่ดัดจริตก็ได้ เรียกว่าดูเป็นกะเทยที่ดัดจริต"
"กะเทย ทุกคนคิดว่าตัวเองสวย เพราะฉะนั้นให้มั่นใจในความสวยของตัวเองที่เป็นกะเทย ว่าชั้นสวย ชั้นเริ่ด มีมงกุฎอยู่บนหัว จะทำอะไรต้องทำมากกว่าผู้หญิงเพราะตัวเองเป็นผู้ชาย ต้องแสดงออกเยอะกว่าเพื่อแสดงให้เห็นถึงความต่าง"
หลังบอกอย่างนี้ไป พอดาราสาวแสดงออกมา ผู้จัดมือดีบอกเขาถูกใจ และรู้สึกว่าดีกว่าที่คิด
"ที่ คิดไว้อยากให้ตัวกะเทยตัวนี้ออกเป็นการ์ตูนนิดๆ แบ๊วๆ นิดนึง เพราะถ้าไม่แบ๊วคนก็จะไม่รู้ ดูไม่ออก แล้วตัวที่แต่งเป็นกะเทย เราใส่ขนตาเพิ่มอีกหลายวอลลุ่มทำให้ตาวาวขึ้น และตัวที่เป็นผู้หญิงไม่ต้องใส่ขนตาเลย รองพื้นอย่างเดียวจบ พอแคทแต่งออกมาก็เหมือนกะเทยเลย ยิ่งเวลาอยู่บนเวทีกับกะเทยแล้วดูกลมกลืน"
ส่วน พระเอก 'ปอ-ทฤษฎี' ที่รับบท 'นักรบ' มาพัวพันกับเหตุการณ์แล้วเกิดความสับสนว่านางเอกตกลงเป็นผู้หญิงหรือว่า กะเทยกันแน่นั้นไก่กล่าวว่า "ในเรื่องปอจะรับบทช่างภาพและโปรดิวเซอร์รายการ ซึ่งปอพลิ้วอยู่แล้ว เป็นคนที่เล่นบทกุ๊กกิ๊กน่ารัก มีเสน่ห์ เวลาที่เขาทะเลาะกับนางเอกแต่ก็ยังแฝงด้วยความรักของเขา ซึ่งไม่ค่อยเหมือนคนอื่น เขาเล่นได้ดี"
"เรื่องนี้เปลี่ยนคา แร็กเตอร์ปอเลย เสื้อผ้าจะเป็นหนุ่มเกาหลีดูแฟชั่นมากขึ้น วันแรกที่ปอใส่เสื้อผ้าแนวนี้เขายังขำตัวเองเพราะไม่เคย ต้องมาใส่กางเกงฟิตขาลีบ พับขาขึ้นมา แล้วไหนจะต้องต่อผมด้านหน้าให้ตกมาอีก สไตล์เกาหลีนิดนึง เขาก็เขินๆ"
ขึ้นชื่อว่าเป็นละครของ 'เจ๊ไก่-วรายุธ' แล้ว ล่ะก็ เล็กๆ ไม่ ใหญ่ๆ ทำ ถ้าไม่อลังการไม่ใช่ของแท้ ทุกอย่างต้องฟูลออปชั่น ถามว่าเรื่องนี้ฟูล ออปชั่นขนาดไหน เจ๊ไก่กล่าวว่า
"เยอะเท่ากะเทยที่ประกวดบนเวทีประกวดจริง เพราะก่อนเล่นเรื่องนี้ ไก่ได้พาแคทไปดูประกวดมิสทิฟฟานี่ ดูว่าเขาเดิน แต่งตัวกันอย่างไร ไปดูของจริงเลย แคทต้องใส่รองเท้าส้นหน้าสูงหลังสูงตอนประกวด ไม่อย่างนั้นจะสู้เขาไม่ได้"
"หน้าอกก็ต้องตู้มขึ้น ต้องเพิ่มไซซ์กันไป แต่งหน้าก็ต้องเยอะขึ้นนิดนึงตอนประกวด แต่ถ้าปกติจะแต่งหน้าเบาๆ เพราะกะเทยสมัยนี้จะแอ๊บใสอย่างเดียว ใส่ขนตาอย่างเดียวเลย"
'ไก่-วรายุธ' ยอมรับว่า การทำละครที่นำเสนอเรื่องราวของกะเทยนั้น ถ้าเป็นเมื่อก่อนจะกลัวโดนแอนตี้ แต่มาปัจจุบัน เขาบอกว่า "เดี๋ยวนี้สังคมเปิดกว้างมาก มีใครไม่รู้จักกะเทยบ้าง ทุกคนรู้จักหมด แต่เรานำเสนอในสิ่งที่ดีงาม อยากให้เห็นว่าคนดีมีอยู่ทุกสังคมทุกที่"
ถามว่าแล้วอย่างนี้ทำไมไม่ เลือกสาวประเภทสองมาเล่น เขาให้เหตุผลว่า "ไก่ว่าคนไทยไม่ยอมรับในความเป็นพระเอก-นางเอก มันดูขัดตาไป ในความที่ 'ปอ-ทฤษฎี' เป็นผู้ชายแท้ๆ จะให้ไปรักกับกะเทยแท้ๆ ไก่ว่าคนดูคงไม่รับมันจะแปลก"
สำหรับจุดเด่นของ "แฝดนะยะ" นอกจากจะเด่นที่เนื้อเรื่องและการแสดงที่ใช้ผู้หญิงจริงเล่นเป็นกะเทยแล้ว เรื่องนี้ยังให้แง่คิดในการเลี้ยงดูลูก รวมถึงผลจากการกระทำที่ตามมา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องโกหกสื่อมวลชน โกหกประชาชนทั้งๆ ที่ตัวเองเป็นผู้หญิงแต่ปลอมมาเป็นกะเทย
"การเป็นกะเทยไม่ใช่สิ่งผิดหรือเสียหาย ซึ่งในเรื่องก็มีบอกขอแค่เป็นคนดี ทำในสิ่งที่ถูกต้อง ไม่ว่าจะเป็นเพศไหนก็จะได้รับแต่สิ่งดีๆ ตามมา" ไก่-วรายุธ กล่าวทิ้งท้าย