พ.ต.ท.มานะ ชี้ว่า ในทางกฎหมายนั้นการทำแท้ง เป็นความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 301 บัญญัติว่า "หญิงใดทำให้ตนเองแท้งลูก หรือยอมให้ผู้อื่นทำให้ตนแท้งลูก ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหก พันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ" กรณีที่เกิดขึ้นนี้ จึงถือเป็นความผิดสำเร็จแล้วตาม มาตรา 301 แม้ผู้กระทำเป็นนักเรียนก็ถูกดำเนินคดี ตามกฎหมาย ซึ่งเป็นคดีอยู่ในอำนาจศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง
เมื่อแพทย์อนุญาตให้นักเรียนหญิง ดังกล่าวออกจากโรงพยาบาลได้แล้ว พนักงานสอบสวนต้องส่งตัวไปยังสถานพินิจและ คุ้มครองเด็กต่อไป ตาม พ.ร.บ.จัดตั้งศาลเยาวชนและ ครอบครัวฯ พ.ศ.2534 ทั้งนี้พนักงานสอบสวนต้องแจ้งข้อหาสอบปากคำต่อ หน้าสหวิชาชีพก่อนส่งตัว ไปสถานพินิจฯ หากทางการสอบสวนมีพยานหลักฐานฟังได้ว่ามีผู้สนับสนุนการกระทำผิดเช่น ช่วยเหลือโดยการจำหน่ายตัวยา เครื่องมือในการทำแท้ง ก็เป็นความผิดฐานสนับสนุนต้องระวางโทษสองในสามส่วน ของความผิดนั้น และอาจเป็นความผิดตามกฎหมายอื่นด้วย เช่น พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ร.บ.ยาเป็นต้น