.
ยังจำเขา ได้อยู่ไหม ตำรวจผู้อดทน สูง 180 เซนติเมตร สูงยาวเข่าดี แถมตากแดด ตากลม ตากฝน แค่ไหนก็ไม่เคยปริปากบ่น ยังคงยืนยิ้มอยู่ยั่งยืนยง เฝ้าตามสี่แยกและป้อมตำรวจทั้งวันทั้งคืน ผู้ไม่เคยจับ ไม่เคยปรับ ไม่เคยไถ จนเป็นทอล์ก ออฟ เดอะ ทาวน์ กันอยู่พักใหญ่ จนชาวบ้านร้านช่อง ผู้ขับรถขับราเรียกขานเขาว่า 'จ่าเฉย'
.
.
.
2-10-10 รายงานข่าวแจ้งว่า วานนี้ พล.ต.ต.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ รรท.ผบช.ก. ได้กล่าวในการชุมนุมร่างแผนปฏิบัติการของกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ที่ห้องประชุมจูบิลี่ บอลรูม อาคารชาเลนเจอร์ อิมแพค เมืองทองธานี จ.นนทบุรี ผ่านผู้สื่อข่าวไทยรัฐออนไลน์ในช่วงหนึ่งว่า
หลังจากการเดินชมนิทรรศการบริเวณด้านหน้าห้องประชุม ตนมีความรู้สึกพอใจกับรูปปั้นจ่าเฉย ที่เป็นหนึ่งในผลงานที่ถูกนำเสนอในครั้งนี้
ทำ ให้ตนมีแนวคิดที่จะขอจ่าเฉย กลับมาปฏิบัติหน้าที่อีกครั้ง แต่ย้ายสังกัดจากผบช.น. เป็น บช.ก. แทน เนื่องจากตนมองว่า จ่าเฉยถูกสั่งเก็บเข้ากรุอย่างไม่เป็นธรรม เพราะจากการตรวจสอบ จ่าเฉยไม่เคยมีเรื่องอื้อฉาวจนถูกถ่ายคลิป หรือถูกร้องเรียนเกี่ยวกับเรื่องส่วย
ตนจึงอยากจะทำเรื่องขอนำจ่า เฉยกลับเข้าทำงานในเชิงสัญลักษณ์เพื่อป้องกันปราบปราม อาชญากรรม และเพื่อเป็นการสะท้อนภาพลักษณ์ที่ดีให้กับองค์กรต่อไป ส่วนการจะนำจ่าเฉยไปใช้ในหน่วยงานใดบ้างนั้น ยังต้องปรึกษากันก่อน รรท.ผบช.ก.กล่าว
สำหรับความเป็นมาของจ่าเฉยนั้น เกิดขึ้นเมื่อปี 50 เมื่อผู้บริหารของโรงพยาบาลวิภาวดีร่วมกับภาคเอกชนต่างๆ สร้างหุ่นจำลองตำรวจจราจร ส่งมอบให้ พล.ต.ต.ภาณุ เกิดลาภผล รอง ผบช.น.ดูแลงานด้านจราจร หวังช่วยแบ่งเบาภาระของตำรวจจราจร และป้องปรามผู้ขับขี่รถไม่ให้กระทำผิดและลดอุบัติเหตุ
แต่ในปี 52 จ่าเฉยก็ถูก พล.ต.ท.สัณฐาน ชยนนท์ อดีต ผบช.น. สั่งเก็บเข้ากรุ โดยให้เหตุผลว่ามีชาวบ้านร้องเรียนว่าตำรวจไม่ปฏิบัติหน้าที่ ชอบแอบอยู่ ในป้อมหรือหลังเสาไฟฟ้า “จ่าเฉยยืนอยู่ จ่าจริงไม่มา” ซึ่งเห็นว่าไม่เหมาะสม จึงสั่งเข้ากรุดังกล่าว
จ่าเฉยกลับมาชาวประชาว่าไง?