ด.ช.หม่อง ทองดี อายุ 12 ปี นักเรียน ป.4 โรงเรียนบ้านห้วยทราย ต.สุเทพ อ.เมืองเชียงใหม่
ซึ่งคว้ารางวัลที่ 3 ประเภทบุคคลเยาวชนชายอายุไม่เกิน 12 ปี จากการร่อนเครื่องบินกระดาษนาน 10.53 วินาที ที่เมืองชิบะ ประเทศญี่ปุ่น เดินทางกลับถึงประเทศไทย พร้อมคณะเจ้าหน้าที่ศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ (เอ็มเทค) เมื่อเวลา 15.10 น. วันที่ 21 กันยายน ด้วยสายการบินเจแปน แอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ JL717 โดยมีคุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์ (วท.) พร้อมด้วยนางเตือนใจ ดีเทศน์ อดีต ส.ว.เชียงราย ไปรับที่ห้องรับรองพิเศษ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ขณะที่นางวินัสรินทร์ มีทรัพย์ ครูโรงเรียนบ้านห้วยทราย นำนายยุ้น และนางมอย ทองดี บิดาและมารดาของ ด.ช.หม่อง จาก จ.เชียงใหม่ มาร่วมต้อนรับด้วย
ด.ช.หม่องในชุดเสื้อสีเหลือง มีตราสัญลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เดินนำขบวน พร้อมชูพระบรมฉายาลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในคอห้อยเหรียญรางวัล 2 เหรียญ เมื่อเห็นนายยุ้นและนางมอย ต่างโผเข้ากอดและหอมแก้มกัน และร้องไห้ด้วยความดีใจ
คุณหญิงกัลยาให้สัมภาษณ์ว่า วท.จะแต่งตั้งให้เป็น ยุวทูตประจำกระทรวง และจะให้ทุนเรียนจนถึงระดับปริญญาเอก ส่วนเรื่องการขอสัญชาติไทยนั้น จะช่วยเหลือต่อไป
ด้าน ด.ช.หม่องกล่าวว่า จะนำเหรียญรางวัลที่ได้ทูลเกล้าฯ ถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่โรงพยาบาลศิริราช ส่วนเรื่องสัญชาตินั้น หากไม่ได้สัญชาติไทย ก็ไม่เป็นอะไร แต่ถ้าได้ก็ขอขอบคุณ นางเตือนใจ ดีเทศน์ ในฐานะอนุกรรมาธิการพิจารณาศึกษาปัญหาชนกลุ่มน้อย และกลุ่มชาติพันธุ์ในประเทศไทย กล่าวว่า ด.ช.หม่องมีโอกาสได้สัญชาติไทย เพราะมีคุณสมบัติใน 2 กลุ่ม จาก 6 กลุ่มยุทธศาสตร์การจัดการการไร้สถานะทางกฎหมาย คือ 1.เรียนอยู่ในหลักสูตรของกระทรวงศึกษาธิการ 2.กลุ่มบุคคลทำคุณประโยชน์ให้ประเทศชาติ ขณะเดียวกัน หาก ด.ช.หม่องได้สัญชาติ พ่อแม่ก็สามารถได้สัญชาติไทยด้วยเช่นกัน ในฐานะอนุโลมเพื่อได้ดูแลลูก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ด.ช.หม่องยังได้รางวัลชนะเลิศประเภททีม ร่วมกับนายประเสริฐ เฉลิมการนนท์ หัวหน้าโครงการกิจกรรมเครื่องบินกระดาษ เอ็มเทค และนายสุรินทร์ อินทโชติ
ส่วน น.ส.ฝอยฝน ศรีสว***ิ์ นักวิจัยเอ็มเทค ยังคว้ารางวัลที่ 1 ประเภทบุคคลรุ่นใหญ่หญิงด้วย นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า จะให้สัญชาติ ด.ช.หม่องหลังสร้างชื่อเสียงให้ไทยหรือไม่ขึ้นอยู่กับการพิจารณาหลายอย่าง ไม่เช่นนั้นจะกลายเป็นตัวอย่าง คนไม่มีสัญชาติเป็นแสนก็มาขอสัญชาติไทย จึงต้องพิจารณาให้ถี่ถ้วน
ที่มา มติชน