กลิ่นกายที่หอมอ่อนๆ บ่งบอกความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะบุคคล จาก การศึกษาของมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย เบิร์กลีย์ ยังพบว่ากลิ่นกายของเพศชายนอกจากจะมีเสน่ห์ชวนดมแล้ว ยังสามารถกระตุ้นความรู้สึกทางเพศของผู้หญิงได้ ด้วยเหตุนี้จึงทำให้คุณสาวๆ บางคนเกิดอาการ “ติดกลิ่น” ต้องหาของมาดมต่างหน้าหากหวานใจต้องไกลตา

 

 

แต่อารมณ์เคลิบเคลิ้มของสาวเจ้าก็พร้อมจะหมดไปได้ทุกเวลาหากต่อมกลิ่นและ ต่อมเหงื่อของแฟนหนุ่มเกิดรวมกับเจ้าจุลินทรีย์ที่อาศัยอยู่บนผิวหนัง ผลลัพธ์คือกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์จนเต่าต้องเรียกพี่ คุณหนุ่มๆ จึงไม่ควรมองข้ามการบริหารเสน่ห์ด้วยการรักษากลิ่นกายที่หอมอ่อนๆ นี้ให้เย้ายวนใจอยู่เสมอ เพราะหากปล่อยให้มันเปลี่ยนเป็นอาวุธร้าย นอกจากจะพานทำให้เสียบุคลิกและกลายเป็นบุคคลที่ใครๆ ก็พากันเมินแล้ว ปัญหาอาจลุกลามใหญ่โตจนทำให้คนข้างกายต้องโบกมืออำลาแบบถาวร

การมีกลิ่นตัวเป็นภาวะที่เจ้าของกลิ่นเองมักไม่ค่อยรู้สึก แถมจุดปล่อยกลิ่นยังมีได้ตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า ตัวการร้ายที่ทำให้เกิดกลิ่นตัวคือ ต่อมเหงื่อ ซึ่งมีประมาณสามถึงสี่ล้านต่อม กระจายอยู่ทั่วร่างกาย และมีหน้าที่ขับเหงื่อให้อุณหภูมิของร่างกายปกติในยามที่ร่างกายทำกิจกรรม ที่เกิดความร้อนมาก หรือเกิดจากสภาวะทางอารมณ์ต่างๆ เช่น ภาวะเครียด ตื่นเต้น หรือเขินอาย หรืออาจมาจากอาการเจ็บป่วยทางร่างกาย ความผิดปกติของต่อมไร้ท่อหรือสมอง รวมถึงการใช้ยาบางประเภท โดยเหงื่อที่ขับออกมาใหม่ๆ จะมีลักษณะเหลวใสและไม่มีกลิ่น แต่หากขับออกมามากและหมักหมมรวมตัวกับจุลินทรีย์บนผิวหนัง เหงื่อก็จะกลายเป็นอาหารอันโอชะของเชื้อจุลินทรีย์ ก่อให้เกิดการย่อยสลายกลายเป็นกลิ่นเหม็นในที่สุด

บริเวณที่จะเกิดกลิ่นตัวได้ง่ายคือ บริเวณขาหนีบ รักแร้ ซอกขา และซอกนิ้ว เนื่องจากเป็นบริเวณที่ผิวหนังมีการอับชื้น จึงเกิดการหมักหมมและเกิดกลิ่นที่รุนแรงได้ ซึ่ง ปัจจัยที่จะส่งเสริมให้มีการหลั่งเหงื่อออกมามากขึ้นนั้น ได้แก่ สภาวะอากาศร้อน การออกกำลังกาย ความวิตกกังวล รวมถึงการรับประทานอาหารบางประเภทมากเกินไป เช่น เครื่องเทศ อาหารที่มีกรดไขมันสูง และภาวะร่างกายที่ผิดปกติหรือการเจ็บป่วยจากโรคบางชนิด เช่น โรคตับ เบาหวาน และโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหาร รวมถึงการติดเชื้อบางอย่าง
 

 

 

หนุ่มๆ อย่างเรา จึงควรหมั่นสังเกตว่าคนรอบข้างเกิดแสดงอาการรังเกียจกลิ่นตัวของตนบ้างหรือ ไม่ หากสาวๆ ทำท่าปิดปากปิดจมูกหรือต้องกลั้นหายใจเมื่ออยู่ใกล้ นั้นแหละคือสัญญาณอันตราย แต่ปัญหากลิ่นตัวไม่ใช่ปัญหาโลกแตก และมีวิธีที่สามารถแก้ไขได้ง่ายๆ ดังนี้

-ใช้ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายเป็นประจำ ทั้งนี้ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายโดยทั่วไปมักมีกลิ่นหอมเพื่อดับกลิ่นตัว เพื่อให้ได้ผลดีควรเลือกผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายที่มีคุณสมบัติในการควบคุม เหงื่อเพื่อแก้ปัญหาให้ตรงจุด

-ใช้แป้งฝุ่นโรยเพื่อดูดซับความชื้นบริเวณปล่อยกลิ่น โดยเฉพาะที่เท้าและขาหนีบ

-หากรู้ว่าเป็นคนเหงื่อออกง่าย ควรใส่เสื้อผ้าที่โปร่งสบาย ไม่หนาจนเกินไป หากต้องอยู่กลางแจ้ง ควรสวมหมวกและเสื้อผ้าสีขาวหรือสีอ่อนๆ เพื่อช่วยสะท้อนแสงแดด

-ดื่มน้ำมากๆ และหมั่นออกกำลังกายอยู่เสมอ ร่างกายที่แข็งแรงและการได้รับน้ำในปริมาณพอเหมาะจะช่วยรักษาระดับอุณหภูมิ ร่างกายให้เป็นปกติ และสามารถช่วยลดปริมาณเหงื่อ

-หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่ไม่เหมาะสม เช่น อาหารประเภทไขมัน น้ำตาล และเนื้อแดงในปริมาณสูง หรือการรับประทานอาหารประเภทกากใยในปริมาณต่ำ ซึ่งจะส่งผลให้การขจัดสารพิษไม่สมบูรณ์ และก่อให้เกิดภาวะการมีแร่ธาตุไม่สมดุล นำไปสู่การเกิดกลิ่นตัวที่ไม่พึงประสงค์

-ผ่อนคลายร่างกายและจิตใจอยู่เสมอ โดยการฝึกสมาธิหรือโยคะ เพื่อลดปัญหาความเครียด ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งของการเกิดกลิ่นตัว

อย่าง ไรก็ตาม หากมีเหงื่อออกในปริมาณมาก ทั้งๆ ที่ไม่ได้ทำกิจกรรมใดๆ ควรรีบไปปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจหาความผิดปกติไว้แต่เนิ่นๆ เพราะปัญหากลิ่นตัวสามารถแก้ไขได้ที่สาเหตุ และที่สำคัญคือ การมีกลิ่นกายที่หอมสะอาดยังเสริมให้เป็นคนมั่นใจในบุคลิกภาพ และสามารถเพิ่มเสน่ห์ให้ตัวเองอีกด้วย

 

 

ที่มา : thaihealth

Credit: เอ็มไทยด็อดคอม