วันที่ 08 ตุลาคม พ.ศ. 2553 ปีที่ 20 ฉบับที่ 7253 ข่าวสดรายวัน


พิลึกปั้นศิวลึงค์-โยนี

ขนาดยักษ์-ใกล้วัดดัง เจ้าคณะรุดดูสั่งทุบทิ้ง




วัดพิลึก - เสา ทำเป็นรูปศิวลึงค์เรียงรายกันอยู่บริเวณใกล้วัดป่าช่องกุ่ม จ.สระแก้ว ซึ่งก่อนหน้านี้มีรูปโยนีหรืออวัยวะเพศหญิงอยู่ด้วย แต่วัดทุบทิ้งไป ส่วนภาพเล็กเป็นปูนปั้นผู้หญิงนั่งในท่าไม่เหมาะสม โดยมีนาคปรกอยู่ด้านบน

พิลึก สร้างเทวรูปหญิงนั่งเหล่แท่งศิวลึงค์รายล้อมสระน้ำข้างละ 5 แท่ง ที่ปักล้อมรอบสระน้ำรูปศิวลึงค์หันหัวไปที่รูปโยนี ฮือฮาบริเวณหัวศิวลึงค์ทาด้วยสีแดง ส่วนรูปปากโยนีทาด้วยสีชมพู พระผู้ดูแลวัดระบุคนนอกมาสร้างแต่ไม่ได้อยู่บริเวณวัด ขณะนี้ทุบทำลายแล้วโดยเฉพาะรูปโยนี ส่วนศิวลึงค์อีก 10 แท่งก็จะทุบทำลายเช่นกัน หลังเจ้าคณะอำเภอเดินทางมาตรวจสอบแล้วสั่งให้ทำลาย

จาก กรณีชาวบ้าน ม.5 ต.ช่องกุ่ม อ.วัฒนา นคร จ.สระแก้ว ร้องเรียนว่าวัดป่าช่องกุ่ม ต.ช่องกุ่ม อ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว ที่สระน้ำขนาดใหญ่ ตรงกลางสระน้ำนั้นสร้างเป็นรูปผู้หญิงนั่งแหกขา ชันเข่า มือขวาถือลูกแก้ว บนหัวมีหัวพญานาค 7 ตัว ดวงตาถลนมองไปยังอวัยวะเพศชายที่เรียกว่าศิวลึงค์ ที่สร้างไว้ทั้ง 4 ทิศ ตรงกลางอวัยวะเพศชายปักรายล้อมอวัยวะเพศหญิงไว้ข้างละ 5 อัน บนอวัยวะเพศทาด้วยสีแดง ส่วนอวัยวะเพศหญิงตรงช่องคลอดทาด้วยสีชมพู

ต่อ มาผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปตรวจสอบพบว่า บริเวณวัดทั้งหมดร่มรื่นด้วยแมกไม้ ต้นไม้ขึ้นปกคลุมไปทั้งวัด พบกับพระศราวุธ เตชะธัมโม พระลูกวัด ผู้ดูแลวัดช่องกุ่มแทนเจ้าอาวาส ที่กำลังอาพาธอยู่

พระศราวุธได้ชี้ แจงถึงเรื่องที่เป็นข่าวว่า จริงๆ แล้วเรื่องนี้มีคณะกรรมการผู้มีจิตศรัทธา ที่นับถือศาสนาพราหมณ์ มาขอจัดสร้าง คือ อาจารย์หม่อม หรือนายจักรพรรดิ์ โพธิสัตว์ทองคำ พร้อมคณะลูกศิษย์มาจัดสร้างจริง โดยได้จัดสร้างพระโพธิสัตว์นาคา ซึ่งเป็นปางหนึ่งของพระพุทธเจ้าในอดีตชาติ ไว้ผมยาว แต่งองค์ทรงเครื่อง นั่งประทับอยู่บนพญานาคปรก 7 เศียร มือขวาถือลูกแก้วแกะสลักด้วยหินทรายทั้งก้อน สูงประมาณ 2 เมตร กว้าง 1 เมตร ตั้งอยู่ ที่แท่นปูน ปูด้วยหินอ่อน กลางสระน้ำ ที่ตกแต่งขอบสระด้วยปูน กว้างประมาณ 50 เมตร อีกทั้งยังก่อสร้างสัญลักษณ์ศิวลึงค์ และโยนี รอบสระน้ำ 4 จุด แต่ละจุดมีรูปศิวลึงค์ ขนาดสูง ระดับเอว 10 อัน ตั้งอยู่บนฐานปูน เรียงแถว 2 ข้าง ข้างละ 5 อัน ตรงกลางมีรูปปั้นโยนี พร้อมได้พาผู้สื่อข่าวไปดูสถานที่จัดสร้าง ซึ่งอยู่ห่างออกจากเขตวัดประมาณ 500 เมตร

พระศราวุธกล่าวถึงกรณีระบุรูปกลางสระน้ำเป็นรูปผู้หญิงแก้ ผ้าว่าไม่จริง แต่เป็นรูปพระโพธิสัตว์ไตรภูมิ เป็นปางชาติหนึ่งของพระโพธิสัตว์ เรียกว่า ปางนาคา มือขวาถือลูกแก้วสารพัดนึก และมองดูให้ดีๆ จะเป็นรูปที่แต่งองค์ทรงเครื่อง มีกางเกงนุ่ง ส่วนศิวลึงค์และโยนี ที่ทำขึ้นนั้นก็เพื่อประกอบพิธีเท่านั้น เมื่อเสร็จพิธีก็จะรื้อทิ้งไป และพิธีที่อาจารย์หม่อมทำนั้น ทำอยู่นอกเขตพื้นที่วัดป่าช่องกุ่ม แต่อยู่ติดกับเขตวัดทางด้านทิศใต้ พิธีดังกล่าวเป็นพิธีไหว้ครู ประจำปี ตามความเชื่อของพราหมณ์ฮินดู ทางวัดไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องเลย

"ส่วนวัตถุมงคลเป็นพระแม่อุมาเทวี นั่งอยู่บนศิวลึงค์ หรือพระแม่ยั่วเมือง กับลูกแก้วสารพัดนึกนั้น อาจารย์หม่อมได้จัดทำพิธีเทวาภิเษกที่บ้านท่าช้าง เมื่อวันที่ 1 ต.ค. และแจกให้ลูกศิษย์ที่ไปร่วมพิธีกว่า 20,000 องค์ โดยแจกให้ฟรี ไม่มีซื้อขาย ไม่มีการเรี่ยไรเงินแต่อย่างใด จึงชี้แจงให้ทราบโดยทั่วกัน" พระศราวุธกล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าก่อนหน้านี้ พระครูวัฒนานครกิจ เจ้าคณะอำเภอวัฒนานคร กับนายจีระวิทย์ นิยมธรรม ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนา จ.ปราจีนบุรี ก็ได้เดินทางมาตรวจสอบ พร้อมได้สั่งให้ทุบทำลายทิ้งทั้งหมด ตอนนี้ก็ได้ทุบโยนีทิ้งไปแล้ว คงเหลือแต่รูปศิวลึงค์ แต่ก็จะทำลายทิ้งเช่นกัน เพียงรอคนงานก่อสร้างมาดำเนินการ

จากนั้นผู้สื่อข่าวจึงได้เดินทางเข้าไปในหมู่บ้าน พร้อมสอบถามชาวบ้านใกล้เคียงวัด ซึ่งกำลังรวมตัวกันกวนข้าวกระยาสารทอยู่

นาง สมจิตร ผินนอก อายุ 54 ปี ชาวบ้าน ม.5 กล่าวว่า ตนไปทำบุญที่วัดนี้เป็นประจำ ซึ่งเกี่ยวกับเรื่องที่เป็นข่าวนั้นตนก็ได้เดินทางไปดูด้วย ก็ไม่เห็นมีอะไรแปลก เพราะทางวัดและกรรมการวัดไม่ได้เป็นผู้จัดทำพิธีนี้ มีคณะกรรมการมาจากที่อื่นมาทำกัน และพื้นที่ที่ทำก็ไม่ได้อยู่ในเขตวัด เมื่อทำพิธีเสร็จเขาก็ได้ทุบทิ้ง

นายจินดา งามบุญช่วย ผู้ใหญ่บ้าน ม.9 บ้านซับมล ซึ่งอยู่ใกล้วัด กล่าวว่า การก่อสร้างรูปศิวลึงค์ กับรูปโยนีนี้ตอนก่อสร้างตนก็ไม่ได้เข้าไปดู เพราะเห็นว่าไม่ใช่พื้นที่ของวัด แต่เป็นพื้นที่ป่าสาธารณประโยชน์ป่าชุมชน และเครื่องวัสดุก่อสร้างต่างๆ ทางวัดก็ไม่ได้จัดการ มีลูกศิษย์ของท่านเป็นคนดำเนินการทั้งหมด อีกทั้งยังไม่มีการเรี่ยไรเงินแต่อย่างใด

นายจินดาเปิดเผยว่า ในวันทำพิธีตนก็ไปดูอยู่ด้วย ก็ไม่เห็นมีอะไรแปลก คงมีแต่รูปศิวลึงค์ และรูปโยนีเท่านั้น แต่หลังทำพิธีเห็นว่าจะรื้อถอนทิ้งทั้งหมด ซึ่งขณะนี้ก็เห็นว่าทุบรูปโยนีทิ้งไปหมดแล้ว ส่วนการทำพิธีแบบนี้ก็ไม่รู้จะไปห้ามกันอย่างไร เพราะเมืองไทยเรามันหลายศาสนา ก็แล้วแต่บุคคลที่นับถือ อีกอย่างก็เป็นเขตนอกวัด และก็ไม่เห็นว่ามีชาวบ้านว่ากล่าวกัน

หน้า 1