เมื่อวันที่ 29 กันยายนที่ผ่านมา สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ศาลออสเตรเลียได้หยิบเอาคดีของ ราชนี นารายันต์ สาวใหญ่วัย 46 ปีที่เผาอวัยวะเพศสามีจนเสียชีวิตเมื่อ 2 ปีที่แล้วขึ้นมาพิจารณาคดีในศาลอีกครั้ง หลังจากมีพยานออกมายืนยันว่าเธอตั้งใจก่อคดีดังกล่าวจริง

          โดยเหตุการณ์นี้ ได้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2551 ในบ้านของนารายันต์ในเมืองอาดีเลด ประเทศออสเตรเลีย เมื่อ ราชนี นารายันต์ จับได้ว่า สาทิช สามีของเธอที่ทำงานเป็นวิศวกรออกแบบเรือในออสเตรเลีย ไปมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับผู้หญิงคนอื่น เธอจึงเอาน้ำมันก๊าดราดบริเวณอวัยวะเพศสามีขณะเขากำหลังหลับ ก่อนจะจุดไฟเผาอวัยวะเพศสามี จนเขาดิ้นพล่านและทำให้น้ำมันก๊าดหกไปทั่ว กลายเป็นเชื้อเพลิงเผาไหม้ไปทั่วร่างกายของเขา รวมถึงบ้านทั้งหลังด้วย และจากเหตุการณ์ดังกล่าว ทำให้ร่างกายของสาทิชไหม้ไปกว่า 75% ก่อนจะเสียชีวิตหลังจากนั้นเพียงไม่กี่วัน

          จากการสอบสวน ราชนีได้ให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า เธอไม่ได้มีเจตนาเผาร่างกายสามีแบบนั้น เพียงแค่ต้องการเผาอวัยวะเพศสามีเท่านั้น เพราะคิดว่าเธอเป็นเจ้าของอวัยวะเพศสามีเธอแต่เพียงผู้เดียว ไม่ต้องการให้หญิงอื่นมาเห็นหรือแตะต้องมัน เธอไม่คิดว่าเรื่องราวมันจะบานปลายใหญ่โตได้ขนาดนี้

          หลังจากนั้น ศาลจึงสั่งจำคุกราชนี และส่งตัวให้จิตแพทย์เพื่อตรวจสอบว่าเธอมีความผิดปกติทางจิตหรือไม่ โดยคดีนี้ได้ยืดยาวมาจนบัดนี้ ศาลจึงได้พิจารณาอีกครั้ง และนำตัว จอห์น แชนด์เลอร์ เพื่อนบ้านของราชนีมาให้ปากคำในศาลด้วย โดยเขาก็ให้การว่า ราชนีได้ไปเห็นอีเมลของสามีที่ส่งโต้ตอบกับหญิงอื่น โดยสามีเธอบอกว่ารักหญิงคนนั้น และเธอก็ได้รู้ว่าสามีเธอมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับหญิงคนดังกล่าว จึงจุดไฟเผาอวัยวะเพศเพื่อเป็นการลงโทษ ซึ่งราชนีเองก็บอกว่าไม่มีใครเข้าใจเธอเลย เธอแค่ต้องการเผาอวัยวะเพศสามีเท่านั้น

          อย่างไรก็ดี คดีดังกล่าวก็ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาในศาลต่อไป ขณะที่ราชนีต้องโทษฐานทำร้ายร่างกาย และศาลได้เพิ่มโทษเป็นการฆาตกรรมหลังจากสามีเธอเสียชีวิต