พีท เดอะสตาร์ .. ไม่น่าเลย

 

พี ท มีความฝันเยอะมาก อยากเป็นโน่นอยากเป็นนี่ พอฝันแล้วก็อยากทำให้เป็นความจริง บางครั้งดูเหมือนเพ้อเจ้อ ชอบคิดว่าตัวเองกำลังทำโน่นทำนี่ เช่น คิดว่าตัวเองอยู่บนเวทีคอนเสิร์ตใหญ่ๆ อย่างครั้งหนึ่งฝันอยากเป็นนายแบบ ก็ตัดสินใจทิ้งทุกอย่างแล้วไปเมืองนอกเลย ชอบไขว่คว้าโอกาสโดยไม่รอให้โอกาสมาหา...

นี่คือประโยคแรกของการพูดคุยกับ พีท เดอะสตาร์ (พล นพวิชัย) ด้วยคำถามที่ได้มาจากการบอกเล่าของเพื่อนสาวคนสนิทที่เขาและเรารักอย่างโอ ปอลล์ - ปาณิสรา พิมพ์ปรุ โอปอลล์บอกกับเราว่า “พีทเป็นตัวอย่างของคนที่มีความฝันและพยายามอย่างมากที่จะทำให้ฝันนั้นเป็น จริง เขาเป็นคนที่ปอลล์ยอม”

“พี ทเริดสุดๆ” “พีทเริดอย่างที่สุด” “แรงตรงนี้” “พี่พีทหล่อมาก แต่ไม่น่าเลย” “ชัดเจนกันไปเลยทีนี้” คือตัวอย่างของคอมเม้นต์ที่คนเขียนถึงเมื่อได้ดูตัวอย่าง
มิวสิควิดีโอ เพลง First Kiss ที่เขา featuring กับนักดนตรีวง Vie Trio ในอัลบั้มใหม่ Vie Trio & Friends ดูจากการใช้คำในคอมเม้นต์ก็พอรู้ว่า ในสายตาของแฟนเพลงและประชาชนเขาคนนี้ถูกจัดให้อยู่ในหมวดหมู่ใด

นอก จากการคืนสู่เวทีในฐานะนักร้องหลังห่างหายไปหลายปี สัมภาษณ์ครั้งนี้เรายังมีโอกาสได้พูดคุยกับเขาถึงบทบาทใหม่ในการเป็นนายแบบ อินเตอร์ที่ประเทศสิงคโปร์ และการเป็นนายแบบไทยเพียงคนเดียวที่ได้ไปทดลองใช้ชีวิตในนครแฟชั่นระดับโลก อย่างมิลาน

ไม่ กล้าโฆษณาว่านี่เป็นการเปิดใจแบบไม่มีแอ๊บหรือเปิดใจแบบหมดเปลือก เพราะขณะสัมภาษณ์ บางคำถามก็รู้สึกได้ว่าเขายังกั๊กที่จะพูดอะไรบางอย่างออกมา แต่ถ้าถามว่าบทสัมภาษณ์นี้จะทำให้คุณรู้จักเขามากขึ้นไหม...ยืนยันว่ามาก ขึ้นแน่นอน

“พี ทเริ่มทำงานตรงนี้ด้วยการถ่ายโฆษณา เริ่มจากเป็นเด็กกล้าแสดงออก ชอบการประกวด สนุกที่ได้แข่งขัน มีอยู่วันหนึ่งเต้นบนเวทีอยู่กับเพื่อนที่โรงเรียน ด้วยความที่เต้นสุดฤทธิ์ มีโมเดลลิ่งหนึ่งเห็น เขาไปสะกิดรุ่นพี่ บอกว่าเรียกเราให้หน่อย พอลงจากเวทีมา เขาบอกพีทว่าช่วยไปตามเพื่อนอีกสองคนที่เต้นอยู่ข้างๆ ให้หน่อย คือเขาไม่ได้ชอบเรา แค่เห็นเราเต้นอยู่ตรงกลางเลยจำเราได้คนเดียว แต่ตอนหลังเขาคงสงสาร เห็นว่ากล้าแสดงออก เลยชวนด้วย

“ช่วง แรกพีทไปแคสต์งานโฆษณาบ่อยมาก แต่ไม่ได้เลย จนตอนหลังไปดัดฟัน เริ่มมีงานเข้า เริ่มจากไปเล่นเป็นเอกซ์ตร้า ได้เงินมาสี่พันบาท ดีใจมาก หลังได้งานแรกไม่นานก็ได้เล่นโฆษณาน้ำอัดลมยี่ห้อหนึ่งซึ่งเป็นโปรเจ็ค ท์ใหญ่ ตอนเขาโทร.มาบอกว่าได้ ดีใจมาก ไม่คิดว่าจะได้ เพราะคนไปแคสต์เยอะเป็นงานชิ้นแรกที่เห็นเราและทำให้คนในแวดวงโฆษณารู้จัก

“เล่น โฆษณาอยู่หลายเรื่อง จนวันหนึ่งมีโอกาสได้ไปแคสต์ละครเรื่อง วายร้ายเฟรชชี่ของอาร์เอส จำได้ว่าแคสต์คู่กับแพท - ณปภา แต่ไม่ได้ทั้งคู่ ตอนหลังมีละครของค่ายบรอดคาซท์ติดต่อมา เรื่อง ทีเด็ด ครูพันธ์ุใหม่ จิตพิสัยเดือด มีพี่แท่ง - ศักดิ์สิทธิ์และศรีริต้า เป็นพระเอก - นางเอก พีทเล่นเป็นหนึ่งในนักเรียนหลายๆ คน แต่ปัญหาในการเล่นละครของพีทคือ ในการเล่นโฆษณาต้องโอเวอร์แอ๊คติ้ง แต่ละครต้องน้อยๆ เล่นตามบทที่ได้รับ พอเล่นเยอะหรือมีข้อสงสัยมากๆ ผู้กำกับก็ตราหน้าว่า ‘อย่าคิดว่าคุณดังในวงการโฆษณาแล้วคนจะรู้จักในวงการละครนะ’

“มี ครั้งหนึ่งในบทต้องพูดคำว่า ‘โชะ’ แต่เราไม่เชื่อ รู้สึกว่าคนบ้าอะไร พูดคำว่าโชะเลยแอบแอนตี้ ทำให้จากที่มีบทเยอะตอนหลังถูกตัดจนไม่มีบทพูด ไปถ่ายแต่ละครั้งได้แค่ทำหน้าเหลอหลาๆ อยู่ข้างหลัง ตอนหลังเลยเฟดตัวออกมา แต่ทางบริษัทก็ยังใจดีให้ไปเล่นละครเรื่อง น้องใหม่ร้ายบริสุทธิ์

“ใน ระหว่างนั้นมีประกวดเดอะสตาร์ปีแรก พอได้ดูก็รู้สึกว่าเราชอบพี่จิ๋ว (ปิยนุช เสือจงพรู) จัง เขาเท่มาก เลยเป็นแฟนคลับ พยายามหาเบอร์แล้วโทรศัพท์ไปหา จนมีโอกาสได้เจอตัวจริงและรู้จักกัน ชวนกันไปดูหนัง พี่จิ๋วบอกว่ากำลังจะมีประกวดเดอะสตาร์ 2 นะ ไปแข่งสิ พีทเลยไปบอกแม่ แต่แม่ไม่ให้ไป เพราะท่านไม่ชอบให้ลูกไปสมัครแข่งนู่นนี่ กลัวแพ้แล้วจะเสียใจ แต่พีทก็แอบไปแข่งจนได้ จนได้เข้ารอบเป็นตัวแทนภาคกลางถึงบอกแม่”

++อ่านต่อในเล่ม++

http://www.sudsapda.com/SudSapDa2007/outstanding.aspx

8 ต.ค. 53 เวลา 13:08 25,529 92 706
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...