10 สุดยอดอาหารหรูยอดนิยมของโลก

อันดับ 10 Oysters




หอยนางรม หอยแพงต้องหอยสดๆที่มาจากมหาสมุทรแอตแลนติคไม่ว่าจะเป็นทางด้านฝั่งตะวันตก ของยุโรป หรือด้านชายฝั่งตะวันออกของอเมริกา  ที่ได้รับการยกย่องว่าหอยนางรมจากทั้ง สองแห่งนี้เลิศรสที่สุด เพราะสายพันธุ์และความหนาวเย็นของกระแสน้ำ ทำให้เนื้อหอยมีความมัน รสหวาน นุ่มนวล เป็นที่พึงใจของผู้บริโภค ส่งผลให้หอยนางรมกลายเป็นอาหารสุดหรูหราที่ชาวฝรั่งเศสนิยมนำขึ้นโต๊ะในวัน คริสต์มาส-อีฟ ซึ่งถือว่าเป็นวันรวมญาติต้องมีอาหารหรูหราที่จะมีไว้เลี้ยงฉลองในเทศกาล สำคัญประจำปี การกินหอยนางรมของชาวตะวันตก จะยึดถือความสด ใหม่ จะกินแบบสดๆ โดยมีมะนาวผ่ากลาง เกลือป่น และเนยสด เป็นเครื่องเคียง


อันดับ 9 Matsutake



เห็ดมัทซึตาเกะเป็นเห็ดสน ราชาแห่งเห็ด แห่งฤดูใบไม้ร่วง ที่ราคาแพง(หนึ่งหัวก็ประมาณพันเย็นหรือ 2000 ดอลลาห์)และได้รับความนิยมในประเทศญี่ปุ่นเป็นเห็ด ขึ้นตามไม้สนในภูเขา ของดีจะต้องมาจากเมืองทัมบะ. ชาวบ้านจะเก็บเห็ดในช่วงอาทิตย์แรกของเดือนตุลาคม หรือก่อนวันที่ 10 ซึ่งเห็ดชนิดนี้ไม่สามารถปลูกเองได้ ทำให้ผู้ผลิตบางรายต้องยึดภูเขาสำหรับปลูกไว้ขายโดยเฉพาะ และมีการติดกล้องวงจรปิดในภูเขากันคนมาขโมยด้วย!! ผลผลิตประมาณ 1000 ตันต่อปี ทำให้มีการนำเห็ดปลอมจากประเทศจีน แคนาดา มาหลอกขายในตลาดบ่อยๆ   

อันดับ 8 Lobster



http://pracob.blogspot.com/2009/04/lobster.html
กุ้งล็อบเตอร์หรือกุ้งทะเลใหญ่ จัดเป็นอาหารมีราคา แพงสุดก็ Audresselles จัดเป็นกุ้งที่มีราคาแพงกว่าและหายากจะเป็นที่ชื่นชอบของบรรดาราชวงศ์และชน ชั้นสูงในฝรั่งเศสและเนเธอแลนด์ ดังจะเห็นได้จากภาพวาดของอาหารในยุคศตวรรษที่ 16-17 แต่หารู้ไม่ว่าครั้งหนึ่งกุ้งชนิดนี้เป็นที่ดูถูกว่าเป็นอาหารชั้นต่ำ ในทวีปอเมริกาเหนือก่อนศตวรรษที่ 20 กุ้งทะเลใหญ่ไม่ใช่อาหารที่มีชื่อนักของชาวบ้าน โดยเฉพาะชาวทะเล การกินกุ้งต้องถือเป็นสัญลักษณ์ของความยากจน ในบางแห่งของแคนาดา มีบางแห่งที่ใช้กุ้งทะเลใหญ่ที่จับได้นี้ไปทำเป็นปุ๋ยสำหรับชาวนา หรือไม่ก็ใช้เป็นอาหารให้แก่พวกทาสหรือคนระดับล่างในสังคม แต่ปัจจุบันกุ้งชนิดนี้กลายเป็นสินค้าออกมีชื่อของอเมริกา  ซึ่งสินค้าอาหาร ประเภทนี้มีราคาสูงมาก   

อันดับ 7 Foie gras


http://writer.dek-d.com/dek-d/writer/viewlongc.php?id=467856&chapter=34
ฟัวกราส์ (ฝรั่งเศส: Foie gras หรือ fat liver) คือตับห่านหรือเป็ดที่ถูกเลี้ยงให้อ้วนเกิน ฟัวกราส์ได้ชื่อว่าเป็นอาหารฝรั่งเศสที่ดีที่สุด เช่นเดียวกับทรัฟเฟิล มีลักษณะนุ่มมันและมีรสชาติที่แตกต่างจากตับของเป็ดหรือห่านธรรมดา และเป็นหนึ่งในอาหารฝรั่งเศสที่ทั่วโลกรู้จักมากที่สุดนอกเหนือจาก ไข่ปลาคาเวียร์

ฟัวกราส์เป็นอาหารราคาแพง  ราคาเริ่มต้นที่ เจ็ดสิบยูโรต่อกิโล ไปเรื่อย ๆ เคยเห็นสูงสุดที่ร้อยห้าสิบยูโร แต่คงมีสูงกว่านี้  แต่ยังแพงน้อยกว่าไข่ปลาคาเวียร์ รสชาติก็คงตามราคา กินตามงานเลี้ยง และร้านอาหารที่มีในเมนูที่สั่งบ้าง แต่บ่อยหรอก โดยฟัวกราส์ ถ้าคุณภาพดี เนื้อตับจะแน่น เนื้อละเอียด นุ่มลิ้นไม่ต้องเคี้ยว ใช้ลิ้นดันให้ละลายในปากได้

อันดับ 6 Fugu

http://www.pantown.com/board.php?id=14332&area=1&name=board2&topic=126&action=view
"ฟูกุ" เป็นอาหารที่ทำจากปลาปักเป้าที่หาทานยากที่สุดในญี่ปุ่น(ไม่ใช้เพราะมันมี จำนวนน้อยแต่เป็นเพราะหาคนทำยากต่างหาก) เป็นที่นิยมมากในญี่ปุ่นแต่ก็เป็นอาหารที่อันตรายที่สุดของโลก เพราะกินแล้วอาจตายได้ ในละปีชาวญี่ปุ่นบริโภคปลาชนิดนี้ถึง 20,000 ตัน สิ่งที่อาหารชนิดนี้มีราคาแพงก็เนื่องจากกว่าจะได้เป็นพ่อครัวฟุกุ พ่อครัวจะต้องสอบใบประกาศรับรองความสามารถในการเป็นพ่อครัวฟูกุของกระทรวง สาธารณสุขในแต่ละปีทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติคือต้องปรุงเองและชิมเองด้วย ถ้าผ่านจึงจะได้ใบประกาศ ซึ่งแต่ละปีมีผู้สอบผ่านเพียงร้อยละ 25 เท่านั้น นอกจากนี้การปรุงอาหารชนิดนี้ต้องมีระมัดระวังและต้องมีความชำนาญสูง มาก  โดยปลาปักเป้าที่นิยมเอามาทำฟุกุคือปักเป้าเสือ (Torafugu ; Tiger puffer ; Takifugu rubripes) เพราะตัวใหญ่เนื้อกรุบเหนียว มีรสชาติดี โดยส่วนมากจะเอามาทำเป็นซาซิมิ(ชุดหนึ่งราคาประมาณ 3,000 – 6,000 เยน)

อันดับ 5 Bird’s Nest



รังนกขึ้นชื่อว่าเป็นผลิตภัณฑ์จากสัตว์ที่มนุษย์กินที่แพงที่สุดของโลก รังที่ราคาแพงที่สุดต้องรังนกสีแดงที่ผสมมาจากน้ำลายของนกนางแอ่น ปัจจุบันนี้มีการทำฟาร์มเลี้ยงครับทางภาคใต้ของไทยและจีน มีความเชื่อว่าหากได้กินรังนกที่ทำจากน้ำลายนกจะช่วยให้ปอดและหลอดลมของคน ที่กินแข็งแรงหรือช่วยรักษาโรคปอด ความเชื่อนี้มีมากในหมู่คนจีนตั้งแต่สมัยโบราณนานแล้วยุดจักรพรรดิจีนส่งคน มาทางใต้(เขตร้อนแหลมมาลายู)มาเสาะหารังนกกลับไปให้ฮ่องแต้ คนสามัญชนไม่มีสิทธิกินเนื่องจากหายากเดินทางไกลกว่าจะได้รังนกมาปัจจุบัน ยังเป็นที่นิยมรับประทานกันในหมู่ชาวจีน ตลาดสำคัญจึงเป็นจีนมีราคาประมาณ8-9หมื่นในจีน สรรพคุณรังนกหมอจีนระบุเป็นยาอายุวัฒนะ สมุนไพร ส่วนมากนำไปทำซุป หรือทำเป็นของหวานรสชาติเหมือนเจลาติน หวานๆ


อันดับ 4 Kobe Beef



ญี่ปุ่นขึ้นชื่อว่าเป็นประเทศที่พึ่งรู้จักเลี้ยงวัวไม่กี่ปีหลังไทยด้วยซ้ำ แต่ด้วยความที่มีความคิดสร้างสวรรค์ตอนนี้เนื้อวัวญี่ปุ่นมีคุณภาพล้ำหน้า กว่าไทยเสียแล้ว และผลิตภัณฑ์ที่ญี่ป่านนำมาเสนอที่แสนภาคภูมิใจคือเนื้อโคโกเบ ที่เริ่มเป็นที่รู้จักของชาวโลกก็ตอนที่เมืองโกเบเริ่มเปิดท่าเรือพาณิชย์ เป็นครั้งแรกในเดือนธันวาคม ปี 1868 และร่ำลือกันว่าเป็นเนื้อชั้นดีที่นุ่มน่ารับประทานมากๆ ถึงขนาดได้ชื่อว่าเป็น ราชินีแห่งเนื้อ ที่มีชื่อเสียงในเรื่องของลักษณะไขมันแทรก ซึ่งเพิ่มรสชาติ และความน่ากิน เนื้อมีลักษณะน่ากินสูง นุ่ม ฉ่ำน้ำ ด้วยลักษณะเหล่านี้ ทำให้เนื้อโกเบเกรดยอดเยี่ยม มีราคาสูง ในประเทศสหรัฐอเมริกา ที่ราคาแพงก็เพราะพันธุกรรม และ อาหารและการดูแลที่ทำให้ต้นทุนการผลิตสูง  เกษตรกรใช้ เบียร์ และเหล้าสาเก มีการนวดตัว และแปรงขน ทำให้โคขุนสงบ ไม่เครียด ทำให้ขบวนการเผาผลาญในร่างกายอย่างสมบูรณ์  เนื้อโคก็ปลอดภัยต่อผู้บริโภค เพราะการที่สัตว์เครียดระยะหนึ่งก่อนเข้าโรงฆ่าสัตว์ สัตว์จะหลั่งสารบางตัวที่มีผลในการก่อมะเร็งต่อผู้บริโภค นอกจากนี้ เนื้อโคโกเบมีคอเลสเตอรอลต่ำ ถ้านำเนื้อเข้าประเทศไทยจะมีราคาสูงกิโลกรัมละ 18,000 – 20,000 บาท ส่วนมากกินดิบๆ จะคุ้มกว่า

อันดับ 3 White Truffles



http://bangkok-guide.z-xxl.com/?tag=white-truffle

เห็ดทรัฟเฟิล เป็นเห็ดจำพวกรามีรูปร่าง ผิวขรุขระเป็นปุ่มหนาม  ขนาดเท่าลูกกอล์ฟ แข็งเหมือนท่อนไม้ มีกลิ่นหอมสดชื่นคล้ายกลิ่นผลไม้สุก ฝังตัวและเจริญเติบโตได้ดีใต้ดิน โดยพึ่งพารากของต้นไม้ใหญ่ที่(ต้นโอ๊ก, เกาลัด, สน) ในการเจริญเติบโต) มันขึ้นอยู่ เช่น ต้นโอ๊ก ต้นเชสนัท(เกาลัด) สนบางชนิด และต้นบีช เป็นต้น เห็ดทรัฟเฟิลที่ราคาดีอยู่ที่ ยอดเขาอุมเบรีย (Umbria) แคว้นหนึ่งซึ่งอยู่เหนือขึ้นไปจากกรุงโรม ด้วยรสชาติที่มีเอกลักษณ์ กลิ่นหอมสุดมหัศจรรย์ และหายาก ไม่สามารถปลูกได้ จะขึ้นเองตามธรรมชาติ และในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมเท่านั้น รวมไปถึงวิธีการเก็บที่แปลกประหลาด ทำให้มันได้ขนานนามว่าเป็นหัวใจสีเขียวของอิตาลี เพราะหายากราวทองคำ(อีกทั้งรัฐบาลออกกฎหมายควบคุมการเก็บเกี่ยวเห็ดด้วย) ราคาจึงแพงเป็นธรรมดา ตีเป็นเงินไทยราคาประมาณ 15000 บาทต่อหัวเท่าลูกกอล์ฟ    เห็ดทรัฟเฟิลมีมากมายหลายชนิด แต่มีเพียงสองสายพันธุ์ที่ขึ้นชื่อและจัดว่าเป็นราชาแห่งเห็ด คือ เห็ดทรัฟเฟิลดำ และเห็ดทรัฟเฟิลขาว ซึ่งมีค่าราวทองคำ เวลาจะนำไปทำอาหารจะสไลด์บางๆ  ลงไปสองสามแผ่นบนหน้าอาหาร ซึ่งกลิ่นหอมของแรงของเห็นจะทำให้กลิ่นอาหารชนิดนั้นมีคุ้นค่ามาทันที      

อันดับ 2 Saffron

อันดับ 1 Beluge Caviar



http://wowboom.blogspot.com/2009/04/most-expensive-caviar-eggs.html
ไข่ปลาคาร์เวียร์ขึ้นชื่อว่าเป็นไข่ที่แพงที่สุดในโลก แม้จะเรียกว่าไข่ปลาคาร์เวียร์แต่กระนั้นก็ไม่ใช้ผลิตจากปลาคาร์เวียร์ เพราะคำว่าคาร์เวียร์เป็นชื่อเรียกโดยรวมของไข่ปลาแซลมอน(ไข่มีสีแดง) และปลาสเตอร์เจียน(ไข่มีสีดำ)ที่ผ่านในการแช่น้ำเกลือ มีหลายยี่ห้อ แต่ยี่ห้อที่แพงที่สุดเป็นยี่ห้อ " Almas " ที่ผลิตจากปลา Beluga Sturgeon ที่จับได้จากทะเลแคสเปียนทะเลสาปที่ใหญ่ที่สุดของโลก ในประเทศอิหร่าน  ผลิตเพียง 21,000 กิโลกรัมต่อปี เป็นไข่ปลาคาร์เวียร์สีเหลืองสุกสว่าง ส่วนส่วนใหญ่แล้วไข่ปลาคาร์เวียร์มักมีสีดำ ทำให้ราคาแพงเข้าไปใหญ่(ไข่ปลาคาร์เวียร์แบ่งเกรดได้ 3 เกรด เกรด O คือไข่ปลาคาร์เวียร์สีดำ  เกรด OO ไข่ปลาคาร์เวียร์สีปานกลาง และ เกรด OOO ไข่ปลาคาร์เวียร์สีเหลืองสุกสว่างซึ่งเป็นเกรดที่ดีที่สุด ) และยี่ห้อนี้วางจำหน่ายที่เดียวเท่านั้นคือร้าน Caviar House & Prunier ที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ โดย Almas จะบรรจุในตลับทองคำ 24 กะรัต โดยขายตลับละ 875,000 บาทต่อตลับ แต่ถ้ายี่ห้อปกติราคาประมาณ $5000 ต่อ 1000 กรัม  ส่วนข้อเสียคือไข่ปลาคาร์เวียหมดอายุเร็วมาก ส่วนรสชาติเขาบอกว่าคล้ายปลามีกลิ่นเค็มเล็กน้อย ใช้ตกแต่งอาหาร และทาขนมปัง

http://www.gotomanager.com/news/details.aspx?id=11292
แซฟเริน หรือในเมืองไทยเรียกว่าหญ้าฝรั่น เครื่องเทศที่มีราคาแพงที่สุดในโลก คุณภาพดีเลิศต้องเป็นของประเทศอิหร่าน เป็นเครื่องเทศสีแดง ที่ผลิตจากเกสรดอกแซฟเริน (saffron crocu)s โดยนำส่วนเกสรมาตากให้แห้ง โดยกว่าจะได้แซฟเรินจำนวน 0.45 กิโลกรัม นั้นจึงเป็นต้องใช้ดอกไม้จำนวน 50,000 ถึง 75,000 ดอก หรือต้องใช้พื้นที่ปลูกเท่ากับสนามฟุตบอล ทำให้ต้องใช้ทรัพยากร และแรงงานเป็นจำนวนมาก  จนทำให้ราคามันสูงลิบลิ่ว  ด้วยราคา 38,500 - 385,000 บาท/กิโลกรัม (ขึ้นอยู่กับคุณภาพของเครื่องเทศ)

หญ้าฝรั่นนั้นเป็นพืชที่มีการใช้ตั้งแต่สมัยกรีกและโรมันโบราณ นิยมใช้ทั้งเพื่อย้อมผ้า ถ้านำมาใช้เป็นอาหารหญ้าฝรั่งจะเป็นเครื่องเทศที่ให้กลิ่นหอมและกลิ่นติด นาน(กลิ่นเหมือนหญ้าแห้งที่ให้สัตว์กิน) ชาวสเปน แอฟริกาเหนือ และตะวันออกกลาง ในปัจจุบันยังนิยมใช้แต่งสีและรสชาติให้กับอาหาร ในการทำอาหารแต่ละครั้งไม่จะไม่ใช้จำนวนมากเพราะมันฉุน (และแพง) นิยมใส่ในขั้นตอนสุดท้ายของการปรุง ด้วยความที่มันมีราคาสูง จึงนิยมใช้ในอาหารในโอกาสพิเศษ ๆ เพื่อการเฉลิมฉลอง ทั้งอาหารคาวและอาหารหวาน (เช่น พวกคัสตาร์ด เค้ก และ พุดดิ้ง) แต่ที่พบบ่อย ๆ ก็จะเป็นส่วนประกอบในการหุงข้าวพิเศษ ๆ ให้มีสีสรร

7 ต.ค. 53 เวลา 18:27 7,883 35 306
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...