"
"
"
"
"
Land Mark ศักดิ์สิทธิ์ ที่วัดเขาดีสลัก สุพรรณบุรี
คอลัมน์ สยามประเทศไทย
โดย สุจิตต์ วงษ์เทศ
5,000 ปีมาแล้ว แรกมีร่องรอยบรรพชนคนสุพรรณบุรี
4,000 ปีมาแล้ว แรกมีหลักแหล่งบรรพชนคนสุพรรณบุรี
3,000 ปีมาแล้ว แรกมีชุมชนบ้านเมืองของบรรพชนคนสุพรรณบุรี
หลัง พ.ศ. 1 ศูนย์กลาง "สุวรรณภูมิ" อยู่ลุ่มน้ำท่าจีน สุพรรณบุรี
หลัง พ.ศ. 500 รัฐแรกสุดยุคสุวรรณภูมิ อยู่ที่เมืองอู่ทอง สุพรรณบุรี
หลัง พ.ศ. 1000 รัฐอู่ทองร่วงโรย เกิดรัฐใหม่ที่นครปฐม
หลัง พ.ศ. 1500 ตระกูลไทย-ลาว ชาวสยาม ตั้งหลักแหล่งทางสุพรรณบุรี
หลัง พ.ศ. 1700 รับสุพรรณภูมิ จีนเรียก เจนลีฟู สืบนามสุวรรณภูมิ ยุคต้นพุทธกาล
หลัง พ.ศ. 1800 ขุนหลวงพะงั่ว รัฐสุพรรณภูมิ ร่วมสถาปนากรุงศรีอยุธยา
หลัง พ.ศ. 1900 เจ้านครอินทร์ รัฐสุพรรณภูมิ ยึดอำนาจครองกรุงศรีอยุธยา
หลัง พ.ศ. 2000 สุพรรณภูมิเปลี่ยนเป็นสุพรรณบุรี
ข้อ ความทั้งหมดที่ยกมาตามลำดับเวลาในประวัติศาสตร์ มีพิมพ์ในสูจิบัตรงานกฐินของธนาคารกรุงเทพ ณ วัดป่าเลไลยก์ สุพรรณบุรี เมื่อวันอาทิตย์ที่ 2 พฤศจิกายนที่ผ่านมา แล้วยังจัดแสดงในมิวเซียมท้องถิ่นที่วัดป่าเลไลยก์ขณะนี้
เนื้อหา ในข้อความชี้ให้เห็นว่าเมืองอู่ทองที่อำเภออู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี มีอายุยืนยาวตั้งแต่ยุคสุพรรณภูมิ ราว พ.ศ. 1 สืบจนปัจจุบันเป็นสุพรรณบุรี สิริรวม 2551 ปีมาแล้วเป็นอย่างน้อย
นอก เมืองอู่ทองไปทางเหนือ มีรอยพระพุทธบาท วัดเขาดีสลัก อยู่ตำบลดอนคา อำเภออู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี มีอายุราวหลัง พ.ศ. 1500 (แต่บางท่านว่าเก่ากว่าก็มี) ขณะนั้นรัฐอู่ทองร่วงโรย แต่ไม่ได้รกร้าง แม้ศูนย์กลางแห่งใหม่ย้ายไปทางนครปฐมแล้ว แต่ทางอู่ทองยังเป็นบ้านเมืองสำคัญที่จะสืบเนื่องต่อไปเป็นรัฐสุพรรณภูมิใน ข้างหน้า
บริเวณวัดเขาดีสลักเป็นพืด เขาเตี้ยๆ อยู่นอกเมืองอู่ทองไปทางเหนือ นับเป็น "เขตศักดิ์สิทธิ์" หรือ "Land Mark ศักดิ์สิทธิ์" มาแต่ยุคสุวรรณภูมิ เพราะเทือกเขาแถบนี้มองเห็นเด่นชัดจากทุ่งราบทางตะวันออกและทางใต้ มีร่องรอยชุมชนคน ดึกดำบรรพ์ผ่านไปมาตั้งแต่กาญจนบุรีขึ้นไปถึงอุทัยธานี ครั้นรับพุทธศาสนาแล้วก็รับคติบูชารอยพระพุทธบาทมาด้วย จึงมีร่องรอยต่างๆ เช่น รอยพระพุทธบาท, พระพิมพ์ และอื่นๆ มากมาย เท่ากับสืบความศักดิ์สิทธิ์ของพื้นที่มาจากยุคสุวรรณภูมิที่มีธรรมจักรบนเสา อโศกเป็นสัญลักษณ์สำคัญ
ข่าวสด-มติชน จะทอดกฐินสามัคคีที่วัดเขาดีสลัก ตอนบ่ายวันอาทิตย์ที่ 9 พฤศจิกายนนี้ ถือเป็นศุภมงคลที่จะร่วมกันศึกษาแล้วเผยแพร่ความรู้สู่สาธารณะให้เข้าใจความ เป็นมาของท้องถิ่นนี้