.

.

.

.

.

รวบแท็กซี่หื่น-ข่มขืนเหยื่อสาวเมาหลับ

วงจรปิด!จับภาพชัดวิ่งเปลือย

แท็กซี่หื่น- ตำรวจสภ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร จับกุมนายกิตติชัย มุสิกสงค์ โชเฟอร์แท็กซี่ เมื่อวันที่ 25 ก.ย. หลังก่อเหตุพยายามขืนใจเหยื่อผู้โดยสารสาวเมา โดยย้อนกลับมาเปิดห้องเข้าไปหา แต่เหยื่อสาวต่อสู้เลยตกใจวิ่งหนีทั้งเปลือย

รวบแท็กซี่หื่นผู้โดยสารสาว หวิดตกเป็นเหยื่อกาม เหตุเพราะดื่มเมาไม่ได้สติ เพื่อนเรียกแท็กซี่พาส่งบ้านให้ช่วยอุ้มเข้าบ้านนอนฉวยโอกาสลวนลามลูบคลำ หน้าอก ก่อนย้อนกลับมาพยายามข่มขืน เหยื่อสาวรู้สึกตัวถีบหน้าหงายวิ่งหนีตัวล่อนจ้อน วงจรปิดจับภาพไว้ได้ ก่อนตามรวบตัวได้พาทำแผนดำเนินคดี

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 25 ก.ย. ที่สภ. กระทุ่มแบน อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร พ.ต.อ.พลัฏฐ์ วิเศษสิงห์ ผกก.สภ.กระทุ่มแบน พร้อมด้วย พ.ต.ท.รัฐพัส ยางงาม รอง ผกก. สภ.(สส), พ.ต.ท.ชูชีพ ตะโฉ สว.สส.สภ. กระทุ่มแบน และเจ้าหน้าที่ตำรวจกลุ่มงานสืบสวนสอบสวนร่วมกันนำตัวนายกิตติชัย มุสิกสงค์ อายุ 40 ปี บ้านเลขที่ 130 หมู่ 9 ต.ดอนศิลา อ.เวียงชัย จ.เชียงราย อาชีพขับรถแท็กซี่สีเขียวเหลือง หมายเลขทะเบียน ทน 8408 กรุงเทพมหานคร ภายหลังจากพยายามก่อเหตุข่มขืนหญิงสาว ภายในห้องนอนของบ้านเลขที่ 161/1 ซอยเพชรเกษม 91 หมู่ 6 ต.สวนหลวง อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพในที่เกิดเหตุ

พ.ต.อ.พลัฏฐ์ กล่าวว่าสำหรับพฤติการณ์ของผู้ต้องหารายนี้ เกิดเหตุขึ้นเมื่อคืนวันที่ 19 ก.ย. โดยหญิงสาวผู้เสียหาย อายุ 34 ปี ได้ไปกินเลี้ยงสังสรรค์กับเพื่อนผู้หญิงอีก 3 คน ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง ซึ่งห่างจากที่พักไปประมาณ 5 กิโลเมตร จนกระทั่งผู้เสียหายเมาหมดสติ เพื่อนๆ จึงได้เรียกรถแท็กซี่ หมายเลขทะเบียน ทน 8408 กรุงเทพมหานคร ซึ่งมีนายกิตติชัย เป็นคนขับ จากนั้นก็ได้พามาส่งที่บ้านพักหลังดังกล่าว โดยมีเพื่อนๆ นั่งมาด้วย เมื่อถึงบริเวณหน้าบ้านพัก ซึ่งเป็นร้านซ่อมรถยนต์ รถจักรยานยนต์ เพื่อนๆ ของผู้เสียหายได้ลงมาจากรถแล้วให้นายกิตติชัย ลงมาช่วยอุ้มผู้เสียหายที่เมาไม่ได้สติมานอนไว้บนแคร่ก่อน ขณะที่เพื่อนๆ กำลังเดินอ้อมไปทางหลังบ้านเพื่อเปิดประตูด้านหลัง โดยปล่อยให้นอนอยู่ที่แคร่หน้าบ้านเพื่อรอพาเข้าไปนอนในห้องนั้น นายกิตติชัย ได้เดินเข้ามาลวนลามเหยื่อที่นอนเมาด้วยการลูบคลำหน้าอก ซึ่งภาพในกล้องวงจรปิดบันทึกไว้ เมื่อเพื่อนๆ เปิดประตูด้านหลังได้แล้วจึงเดินกลับมา ก็ให้นายกิตติชัย ช่วยอุ้มเข้าไปในห้องนอน ก่อนที่ทุกคนจะพากันออกมาข้างนอกเพื่อกลับบ้าน แต่นายกิตติชัย ซึ่งออกมาเป็นคนสุดท้าย ได้แอบเปิดประตูห้องนอนและประตูบ้านพักเอาไว้ ด้วยการแกล้งปิดประตูแต่ไม่กดล็อกกุญแจข้างใน

หลังจากที่นายกิตติ ชัย พาเพื่อนๆ ของผู้เสียหายไปส่งเป็นที่เรียบร้อยแล้วใช้เวลานานประมาณ 20 นาที ก็ได้ขับรถแท็กซี่คันเดิมวกกลับมาที่บ้านพักของผู้เสียหาย เมื่อเห็นว่าไม่มีใครจึงได้แอบเข้าไปในห้องนอน ก่อนลงมือถอดเสื้อผ้าทั้งของตนเองและผู้เสียหายออกจนหมดเกลี้ยง แล้วก็ลงมือกระทำชำเรา แต่ผู้เสียหายได้รู้สึกตัวขึ้นมาก่อน เมื่อเห็นใบหน้าผู้ที่กำลังลวนลามตนไม่ใช่แฟน จึงได้พยายามรวบรวมกำลังที่มีบีบคอนายนายกิตติชัย ทำให้นายกิตติชัยตกใจ และผละออกจากร่างผู้เสียหายวิ่งหนีออกมา ซึ่งจอภาพที่กล้องวงจรปิดบันทึกไว้ได้ในขณะนั้น พบว่านายกิตติชัยวิ่งออกมาที่ประตูหลังบ้านทั้งที่เนื้อตัวยังล่อนจ้อน ไม่สวมเสื้อผ้าสักชิ้น โดยเอามาสวมใส่ข้างนอกแล้วรีบขับรถแท็กซี่หลบหนีไป

ด้าน เหยื่อผู้เสียหายบอกว่า ปกติตนจะพักอาศัยอยู่กับแฟน แต่ในคืนที่เกิดเหตุ คือวันที่ 19 ก.ย.แฟนได้ออกไปทำธุระบ้านเพื่อน ซึ่งตนก็ออกไปดื่มเหล้าสังสรรค์กับเพื่อนๆ เช่นกัน แต่ด้วยดื่มเหล้ามากเกินไปจึงเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้น ทั้งนี้หลังเกิดเหตุได้ปรึกษากับแฟนและเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน ที่สภ.กระทุ่มแบน เมื่อวันที่ 21 ก.ย. แต่พอเวลาผ่านไปถึง 2 วันแล้ว เห็นว่ายังไม่มีความคืบหน้าอะไร จึงได้โทรศัพท์ไปแจ้งกับทางมูลนิธิปวีณาเพื่อเด็กและสตรี แล้วก็เข้าพบกับ ผกก.สภ.กระทุ่มแบน เพื่อขอให้ช่วยเร่งรัดการดำเนินคดีให้ ซึ่งก็ใช้เวลาอีกเพียงไม่ถึง 1 วัน เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนก็สามารถติดตามตัวแท็กซี่หื่นรายนี้มาดำเนินคดีได้ ซึ่งตนและแฟนหนุ่ม และญาติๆ ยืนยันจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุดและอยากฝากเตือนผู้หญิงทั้งหลายถ้าคิดจะดื่ม สุราก็อย่าดื่มจนเมาขาดสติ เพราะภัยสังคมนั้นมีอยู่ทุกที่และเกิดขึ้นกับตัวเราได้เสมอ แม้แต่ในที่ๆ เราคิดว่าปลอดภัยที่สุดแล้ว

ขณะที่นายกิตติชัย อ้างว่าที่ลงมือก่อเหตุกระทำชำเราหรือลวนลามเหยื่อผู้เสียหายนั้น เนื่องจากตนเกิดอารมณ์ทางเพศตั้งแต่ตอนอุ้มเหยื่อลงมานอนที่แคร่ และเข้าไปลูบคลำหน้าอก จึงได้คิดกลับมาลวนลามผู้เสียหายอีกครั้ง เพราะเห็นว่าอยู่คนเดียวและเมาไม่ได้สติ โดยเพิ่งจะเคยทำเป็นครั้งแรก ส่วนที่หนีออกมาขณะที่เหยื่อรู้สึกตัวขึ้นมาเห็น ก็เพราะเกิดความตกใจและกลัวว่าจะจำหน้าได้

ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจหลัง ควบคุมตัวนายกิตติชัย ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพแล้ว ก็ได้ส่งมอบตัวให้ พ.ต.ท.พงษ์นเรศ อินทร์นวล สารวัตรเวรสถานีตำรวจภูธรกระทุ่มแบน เพื่อดำเนินคดีในข้อหาบุกรุกในเคหสถานในเวลากลางคืน และข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่น โดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้ายหรือผู้อื่นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ หรือโดยทำให้ผู้อื่นนั้นเข้าใจผิดว่าตนเป็นบุคคลอื่น