อันตราย กรมสุขภาพจิต เตือนติดตามข่าวสารข้อมูลมหากาพย์ฟิล์ม-แอนนี่ มากๆ อันตราย ชี้ชัดสื่อต้องดับพายุอารมณ์ให้กับสังคม...

เกือบ 1 สัปดาห์แล้วกับความเครียดของมหากาพย์ ฟิล์ม-แอนนี่ กับกรณี “ลูกใครหว่า” ยึดหน้าสื่อทั้งหมด นอกจาก นางโคมมนต์ ทองมั่ง คุณแม่ฟิล์ม-รัฐภูมิ อ้างว่าเครียดหนักจากการเสพข่าวสารมากจนต้องเข้าโรงพยาบาลแล้ว กระแสตามเว็บบอร์ดดังๆ มากมายก็แสดงความคิดเห็นอย่างเผ็ดร้อนต่อกรณีนี้ บางคนก็ด่าท่อฝ่ายหญิง-ฝ่ายชาย บางคนด่าทอแบบสาดเสียเทเสียทั้ง 2 ฝ่าย กระทั่งซัดอารมณ์เกรี้ยวกราดไปยังมือที่ 3- 4 จนเกิดเป็นภาวะเครียดสะสมต่อการเสพเหตุการณ์นี้ซ้ำๆ    
เรื่องนี้ นพ. ปภัสสร เจียมบุญศรี รองอธิบดีกรมสุขภาพจิต ออกมาเตือนผ่านไทยรัฐ ออนไลน์ว่า หลักการง่ายๆ ในการคลายเครียดจากข่าวสารที่เสพไปมากแล้วทำให้อารมณ์ขึ้น- ลงๆ วูบวาบตามสถานการณ์ แนะนำว่าให้ไปทำกิจกรรมงานอดิเรกอย่างอื่นแทน เพื่อผ่อนคลายการรับรู้ตรงนี้ ช่วงระยะหนึ่งมันก็จะทำให้ตั้งหลักได้
“กลุ่ม ที่น่าเป็นห่วงที่สุดคือกลุ่มวัยรุ่น และกลุ่มก่อนวัยทำงาน คนกลุ่มนี้จะมีเวลาว่างมาก ที่สำคัญอารมณ์วุฒิภาวะยังเป็นไปตามคลื่นยักษ์ของข้อมูลข่าวสารอยู่ ฉะนั้น ผู้ปกครองและที่ปรึกษาควรแนะนำให้หลักในการคิดต่อข่าวนี้ปิดท้ายด้วย”ถาม ว่าเครียดแล้วจะแสดงออกทางความรุนแรงเหมือนต่างประเทศไหม เช่นที่ ญี่ปุ่นอินกับศิลปินคนโปรดจัด เมื่อผิดหวังก็ฆ่าตัวตายไหม…? ผู้เชี่ยวชาญเรื่องสุขภาพจิตอธิบายว่า ไม่น่าจะรุนแรงแบบนั้นเนื่องจากวัฒนธรรมของสังคมไทยจะมีจุดที่ตรึงเอาไว้ ไม่ว่าพ่อแม่หรือสังคมต่างๆ ถึงแม้จะอารมณ์วูบวาบแต่ก็เหมือนกับไฟที่ลุกโชนแล้วฟืนอาจจะไม่พอ สักพักจะคลี่คลายไปเหมือนกับสุภาษิตจีนที่ว่า “ลูกวัวถ้าเกิดใหม่ก็จะไม่กลัวเสือ” เพราะว่าวัยรุ่นที่ดูข่าวแล้วเร่าร้อนโมโหฉุนเฉียวแล้วไปแสดงออกตามเว็บ บอร์ด หรือออกมาด่าทอฝั่งตรงข้ามกับกลุ่มเพื่อนที่คิดเหมือนกันนั้น เขายังไม่รู้ว่าเสือคืออะไร มันก็จะไปตามอารมณ์ แต่พอเริ่มรู้แล้วว่ามันอันตรายเขาก็จะหยุด เหมือนลูกวัวที่รู้จักความน่ากลัวของเสือแล้ว
“แต่สิ่งที่ผมอยากจะ ให้สังคมให้ความสำคัญก็คือ เรื่องสื่อที่นำเสนอเรื่องนี้ขุดคุ้ยกันหลากหลายรูปแบบติดๆ กัน ต้องเรียนว่าสิ่งที่ท่านสื่อสารออกมานั้นสังคมมีคนรับรู้ข้อมลหลากหลายมาก ฉะนั้น