วาทะแห่งท่านซิงหยุนต้าซือเมื่อเปรียบกับการเมืองไทย

..........วาทะแห่งท่านซิงหยุนต้าซือ.........

 

เปรียบกับการเมืองไทยยุคสมัยชนหมู่มาก

 


.....คำพูดที่ไม่ไว้หน้า...
ไว้เกียรติ ไว้ศักดิ์ศรี
ประดุจมีดที่ปลิดชีพได้
ทำลายซึ่งอนาคตที่สดใสรุ่งโรจน์
อีกทั้งชีวิตอันงดงามแห่งวัยรุ่น
ไปอย่างไม่เหลือเศษ.....


...อักษรคำพูดสามารถพัดเป็นลม
อันอบอุ่นแห่งฤดูใบไม้ผลิ
แต่ก็สามารถตกเป็นหิมะ
ที่ทวีคูณความหนาวเหน็บในเหมันต์


....การเปิดโปงความลับคนอื่น
การปลุกระดมสร้างความแตกแยก
โดยการป้อนความคิดที่เป็นอริให้กับมวลชน
คำพูดคำหนึ่งสามารถสร้างชาติได้
คำพูดคำหนึ่งก็สามารถ
ทำให้ชื่อเสียงศักดิ์ศรีของคน
เสื่อมเสียและพังทลาย....



.....คนที่ไม่มีศีลธรรมในใจนั้น
ไม่ต่างไปจากซากศพที่เดินได้...
คน...เสมือนเกาะที่จมอยู่ในทะเลขยะ...
...แห่งกิเลสและความโลภ.....

...อาตมาเคยกล่าวไว้ว่า...
“ถ้าหากปลายปากกาของสื่อมวลชน
...มีศีลธรรม...
ก็สามารถฉุดช่วยไต้หวันได้ในปัจจุบัน
...และถ้าหากปากของผู้คนมีศีลธรรม
ไม่กล่าวคำพูดที่ขัดต่อสามัญสำนึก
ก็สามารถฉุดช่วยตัวเองได้”



...คำพูดคำวิจารณ์หรือบทความ
ที่ไม่ตรงกับความจริงขัดต่อศีลธรรม
ไม่เพียงแต่จะทำให้ผู้ตกเป็นเหยื่อ
หรือเป้าหมายโจมตีเสียหาย เสียเปรียบ...
เสียศักดิ์ศรีถูกเหยียบย่ำทำลาย
อีกทั้งยังก่อให้เกิดกระแส
แห่งความมืดมนขึ้นในสังคม
ที่จะทำให้ผู้คนท้อแท้และสูญเสียกำลังใจ
ที่จะเป็นคนดีต่อไปในสังคม....


...การแถลงข้อมูลที่บิดเบือนความจริง...
ทำให้สังคมที่เดิมผู้คนห่างเหินกันอยู่แล้ว
ยิ่งทวีความแตกแยกยิ่งขึ้น
และทำให้โลกที่เต็มไปด้วยความยากเย็นใบนี้
...ยิ่งหนาวเหน็บขึ้นเป็นทวีคูณ....

กาญจน์มุนี (ร้อยตะวัน)

 

อยากเห็นเมืองไทยอยู่อย่างร่มเย็น

คิดหลายรอบกว่าจะได้ลง เพราะกลัวถูกฆ่า(ตัดตอน)

เอวัง

#สาระ #คำคม
kissisya
ตัวประกอบ
23 ก.ย. 53 เวลา 16:57 1,126 20
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...