ก่อนอื่นต้องยอมรับว่า การเป็นผู้เล่นรายแรกในตลาด โดยเฉพาะ Apple ที่มีสาวกอยู่มากมาย ทำให้ iPad มีแรงขับเคลื่อนของตลาดอันมีผลต่อการตัดสินใจของผู้บริโภคค่อนข้างสูงกว่า เจ้าอื่นๆ (อยากได้ + ไม่มีตัวเลือกอื่นที่น่าสนใจ) อย่างไรก็ตาม Samsung อาศัยความเป็นแบรนด์ที่ผู้บริโภคทั่วโลกยอมรับ หันมาเปิดศึกแท็บเล็ตด้วย Galaxy Tab อย่างเต็มตัว ทำให้สื่อ ผูับริโภค ตลอดจนนักวิเคราะห์ในอุตสาหกรรมไอทีต่างจับตา และพูดถึงแท็บเล็ตตัวนี้ด้วยกระแสความสนใจไม่แพ้กัน อย่างไรก็ตาม เพื่อให้ผู้บริโภคที่กำลังตัดสินใจอยู่ว่าจะเลือกใช้อะไรดี? ลองพิจารณา ปัจจัย 5 ข้อที่ระบุถึงคุณสมบัติของแท็บเล็ตทั้งสองกันดีกว่าครับ บางทีสิ่งที่คุณคิดว่าเหมาะกับการใช้งานของคุณอาจจะไม่ใช่ก็ได้ ราคาไม่ใช่ ปัจจัยหลักของการตัดสินใจ เพราะหากซื้อไปแล้วไม่ได้ดังใจ จะถูกแค่ไหนก็แพงในความรู้สึกของคุณอยู่ ดี เกริ่นซะเยอะแล้ว ไปดูรายละเอียดกันดีกว่าครับ
"ขนาด" ใครคิดว่าไม่สำคัญ?
ใน ขณะที Samsung Galaxy Tab มีน้ำหนักแค่ 0.8 ปอนด์ หรือจะพูดให้เห็นภาพชัดเจน มันมีน้ำหนักแค่ครึ่งหนึ่งของ iPhone (1.6 ปอนด์) แถมยังมีขนาดกะทัดรัดทำให้สามารถพกพาได้สะดวกกว่า iPad ว่ากันว่า คุณสามารถใส่ Galaxy Tab ในกระเป๋าหลังของกางเกงยีนส์ได้ (คุ้นๆ ภาพโฆษณาของ Vaio P) ข้อควรระวังก็คือ อย่าเผลอนั่งทับมันก็แล้วกัน ซึ่งจุดนี้น่าจะทำให้ผู้บริโภคอยากได้ Galaxy Tab ไว้ครอบครอง แต่เดี๋ยวก่อน กลับมาดูฝั่งเจ้าตลาดกันบ้าง iPad มาพร้อมกับหน้าจอ 9.7 นิ้ว แค่ขนาดหน้าจอก็เกือบจะเท่ากับขนาดของ Galaxy Tab ทั้งเครื่องแล้ว เมื่อเทียบกับ Galaxy Tab ที่มีหน้าจอ 7 นิ้ว มันดูต่างกันเกือบ 3 นิ้วเลยทีเดียว (เวลาเทียบ Tab กับ Galaxy S ก็จะได้อารมณ์เดียวกัน) ที่หยิบเรื่องนี้มาพูดก็เนื่องจากว่า หากคุณเป็นผู้ใช้ที่ชื่นชอบการชมภาพยนต์ หรือเล่นเกมส์ หน้าจอที่ใหญ่กว่าของ iPad อาจจะเหมาะกับคุณมากกว่า กลยุทธ์ของ Samsung ก็คือ การเชื่อมโยงประสบการณ์ความพอใจใน Galaxy S มาสู่ Galaxy Tab ที่จอใหญ่ และใช้งานสะดวกยิ่งขึ้น ดังนั้น คุณผู้อ่านคงต้องเลือกแล้วล่ะว่า ต้องการอะไร? ระหว่างน้ำหนักเบา กะทัดรัดพกพาสะดวกอย่าง Galaxy Tab กับดูหนังเต็มตา เล่นเกมส์ได้เต็มมืออย่าง iPad
"กล้อง"มีก็ดีกว่า...แต่ว่า
ใน ขณะที่ผู้บริโภคกำลังตื่นเต้นกับ Galaxy Tab ที่มาพร้อมกับ"กล้อง" ในขณะที่ iPad ไม่มี ข้อเท็จจริงที่ผู้บริโภคควรทราบก็คือ กล้องที่มากับ Galaxy Tab จะมีความละเอียด 3MP และบันทึกวิดีโอได้ที่ 720 x 480 (ไม่ใช่ HD) ในขณะเดียวกัน Samsung Galaxy S มาพร้อมกับกล้อง 5MP และบันทึกวิดีโอไฮเดฟฯได้ ซึ่งออกจะผิดหวังนิดหน่อยที่ Tab เลือกให้กล้องมีความละเอียดเท่านี้ อย่างไรก็ตาม หากเทียบกับ iPad ที่ไม่มี ก็คงต้องบอกว่า Galaxy Tab ดีกว่าในจุดนี้แน่นอน แต่เดี๋ยวก่อน มีข่าวลือ??? ออกมาว่า ในช่วงปลายปีนี้ Apple จะอัพเกรด iPad เวอร์ชันใหม่ที่มาพร้อมกับกล้อง 5MP และบันทึกวิดีโอ HD ประเด็นคือ จะรอไหม? หรือคุณต้องการแท็บเล็ตที่มีกล้องความละเอียดสูง สามารถถ่ายไฮเดฟฯ ได้ ทั้งๆ ที่ยังไงมันก็ไมใช่กล้องถ่ายรูป หรือใช้บันทึกวิดีโออยู่ดี บางทีฟีเจอร์ที่รุ่มรวยเกินความจำเป็น และไม่ค่อยได้ใช้ก็เป็นอีกประเด็นหนึ่งที่ผู้ใช้ต้องตัดสินใจยืนอยู่ข้าง เหตุผลมากกว่าอารมณ์ และความรู้สึกเหมือนกัน
USB ไม่ดีตรงไหน?
สำหรับ คุณผู้อ่านได้เห็นภาพของ Galaxy Tab คงจะสังเกตเห็นว่า คอนเน็คเตอร์ที่ใช้เชื่อมต่อกับด้านล่างของตัว เครื่องแทนที่จะเป็น USB ทาง Samsung กลับเลือกใช้เป็นแจ็คแบบของ Apple แทน??? เข้าใจว่า Samsung คงหวังที่จะเก็บค่าไลเซนส์จากอุปกรณ์เชื่อมต่อกับ Tab ที่พัฒนาโดยบริษัทอื่นๆ เพราะหากใช้ USB มาตรฐาน ใครก็สามารถพัฒนาอุปกรณ์ต่อพ่วงได้ทันที แต่ในง่ของผู้ใช้โดยเฉพาะกลุ่มผู้ใช้ PC หากเป็น USB มาเลย ก็จะสะดวกมากกว่าที่จะพกพา docking ให้วุ่นวาย ส่วน iPad ของ Apple ผู้ใช้ดูเหมือนจะยอมรับกติกาในลักษณะนี้ไปเรียบร้อยแล้ว แล้วคุณล่ะครับ?
Apps คือหัวใจของแท็บเล็ต
ปฏิเสธ ไม่ได้ว่า Apps เป็นกุญแจสำคัญของความสำเร็จของแท็บเล็ต สหรับ Galaxy Tab จะสามารถแปลง (convert) และเปิดแอพฯที่รันบน Android สมาร์ทโฟนได้ อย่างไรก็ตาม ผู้บริหาร Samsung กล่าวว่า Apps ยอดนิยมใน Android Market ประมาณ 200 แอพฯ จะได้รับการปรับปรุงการทำงานให้เหมาะกับ Tab อย่างไรก็ตาม Galaxy Tab จะสามารถเข้าถึงแอพฯได้ 85 - 90% จาก 80,000 แอพฯใน Android Market ส่วนทางด้าน iPad ก็สามารถเปิดแอพฯบน iPhone ได้เหมือนกัน โดยจะใช้การซูมเป็น 2 เท่าบน iPad เพื่อให้ใช้งานได้ (แมัจะไม่เต็มจอก็ตาม) ในแง่ของการใช้แท็บเล็ต ผู้ใช้ต้องทำใจว่า มันยังไม่ได้มีแอพฯให้เลือกใช้มากมายเท่าบนสมาร์ทโฟน แต่ส่วนใหญ่ชอบที่จะมีแอพฯให้เลือกใช้เยอะๆ แม้ในความเป็นจริง แอพฯหลายๆ ตัวที่อยู่ในเครื่องอาจจะถูกใช้เพียงครั้งเดียวก็คือครั้งแรกที่โหลดมาเท่า นั้น เรื่องนี้คงต้องดูที่คุณภาพของแอพฯด้วย
ฮัลโหลแบบเห็นหน้าได้
iPhone 4 ได้จุดกระแสความต้องการฮัลโหลแบบเห็นหน้าด้วย FaceTime ในขณะเดียวกัน Galaxy Tab ก็ใช้คุณสมบัตินี้เป็นจุดแข็งในการตีจุดอ่อนของ iPad ที่ไม่มีกล้องสำหรับการใช้งานในลักษณะดังกล่าว อย่างไรก็ตาม Samsung Galaxy Tab ไม่มีเวอร์ชัน Wi-Fi Only แถมยังแว่วมาว่า มันจะเปิดตัวพร้อมกับโอเปอเรเตอร์รายใหญ่ เพื่อผูกฮาร์ดแวร์เข้ากับค่าบริการ (ซื้อเครื่องเปล่าราคาก็จะสูงกว่า) นั่นหมายความว่า ผู้ใช้จะมีค่าใช้จ่ายสำหรับค่าบริการรายเดือนเพิ่มขึ้นมาอีกอันหนึ่ง หากคุณสมบัติการโทรแบบเห็นหน้าเป็นอะไรทีคุณต้องการใชั้งานจริงๆ ก็ถือว่าเป็นการลงทุนที่คุัมค่า ส่วน iPad อาจจะต้องรอเวอร์ชันใหม่ที่ยังไม่แน่ชัดว่าเมื่อไร? อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์คาดว่า Samsung Galaxy Tab อาจจะมีเวอร์ชัน Wi-Fi Only ตามมาก็ได้
หวัง ว่า ประเด็นในการพิจารณาเลือกใช้แท็บเล็ตทั้ง 5 ข้อนี้ คงจะช่วยให้คุณผู้อ่านตัดสินใจได้ว่า จะเลือกเดินทางไหนดีระหว่าง Samsung Galaxy Tab หรือ iPad แต่หากให้ฟันธงว่า Samsung Galaxy Tab จะโค่นแชมป์อย่าง iPad ได้ หรือไม่? คงไม่ง่ายนัก เพราะยังมีปัจจัยที่ต้องพัฒนานอกเหนือจากตัวเครื่องพอสมควร ไม่ว่าจะเป็นตลาด Android ที่แม้จะกำลังไปได้สวย แต่ก็ยังห่างจากเจ้าตลาดพอสมควร ตลอดจนจำนวนแอพพลิเคชันที่เล่นได้ แต่หากคอ PC หรือผู้ชื่นชอบแพลตฟอร์ Android ณ.เวลานี้ ก็คงปฏิเสธไม่ได้เหมื่อนกันว่า Samsung Galaxy Tab น่าเล่นที่สุด
ข้อมูลจาก: helium