หลังจากเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา นักวิทยาศาสตร์ได้เปิดตัวครีมทาช่องคลอดป้องกันเอดส์ ระหว่างการประชุมนานาชาติว่าด้วยโรคเอดส์ครั้งที่ 18 ที่จัดขึ้นที่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย จนทำให้ทั่วโลกแตกตื่นด้วยสรรพคุณสุดมหัศจรรย์ของครีมทาช่องคลอดนี้
ล่าสุด คณะแพทย์ได้มีการนำครีมดังกล่าว ที่ชื่อ โปร 2000 หรือ Large charged polymer ไปทำการตรวจสอบแล้ว และใช้เวลากว่า 2 เดือนในการนำไปใช้กับสตรีกว่า 9,000 คน ในทวีปแอฟริกา ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีการติดเชื้อเอดส์มากที่สุด รวมถึงในอเมริกา โดยให้กลุ่มผู้หญิงทาครีมดังกล่าวก่อนมีเพศสัมพันธ์ 12 ชั่วโมงและทาอีกครั้งหลังจากมีเพศสัมพันธ์แล้ว 12 ชั่วโมงตามวิธีการใช้ของครีมตัวนี้ และได้ผลปรากฏออกมาว่า ครีมทาช่องคลอดที่มีลักษณะเป็นเนื้อเจลตัวนี้ สามารถป้องกันการติดเชื้อเอดส์ได้เพียง 39 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น ไม่ได้มีประสิทธิภาพในการป้องกันเอดส์ได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ดังที่นักวิทยาศาสตร์กล่าวอ้างก่อนหน้านี้ว่าจะช่วยยับยั้งไม่ให้เชื้อ HIV ทำปฏิกิริยากับเซลล์ในร่างกายได้ แต่ครีมดังกล่าวทำได้เพียงแค่ลดความเสี่ยงในการติดเชื้อเอดส์ลงครึ่งหนึ่งเท่านั้น
ทั้งนี้ครีมทาช่องคลอดดังกล่าวยังจะวางจำหน่ายต่อไปในท้องตลาด ซึ่งหากจะใช้ครีมดังกล่าวผู้ใช้จำเป็นต้องใช้วิธีป้องกันเชื้อเอดส์ทางอื่นร่วมด้วย เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันเอดส์ได้
อย่างไรก็ดี ในปัจจุบันนี้ ปัญหาการติดเชื้อเอดส์เป็นปัญหาใหญ่ที่ทั่วโลกกำลังให้ความสนใจและร่วมมือกันแก้ไข เพราะสถิติของผู้ติดเชื้อเอดส์นั้นเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยขณะนี้ ได้มีการศึกษาพบว่ามีผู้เสียชีวิตด้วยโรคเอดส์ทั่วโลกกว่า 25 ล้านคน และมีผู้ติดเชื้อเอดส์มากกว่า 33 ล้านคนทั่วโลก โดยทวีปที่มีปัญหาการติดเชื้อเอดส์มากที่สุด คือ ทวีปแอฟริกา และเพศหญิงเป็นเพศที่มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ HIV ได้มากกว่าผู้ชาย