การจัดอันดับดัชนีศูนย์ กลางทางการเงินโลก (Global Financial Centers Index) พบ ศูนย์กลางทางการเงินในเอเชียมีบทบาททางการเงินที่แข็งแกร่ง โดยมีหลายเมืองในเอเชียสามารถไต่ขึ้นรั้งอันดับต้นๆ ของโลก โดย
ฮ่องกง เขตปกครองพิเศษของจีนรั้งอันดับ 3 ของดัชนี 2 ปีซ้อน โดยมีคะแนนตามหลังนิวยอร์กเพียง 10 จุด และตามหลังอันดับหนึ่งอย่างกรุงลอนดอนอยู่ 12 จุด ขณะที่สิงคโปร์ยังคงรักษาอันดับ 4 ไว้ได้ เช่นเดียวกับกรุงโตเกียวที่รั้งอยู่ในอันดับ 5 คงที่จากเมื่อปีที่แล้ว
ขณะเดียวกัน นครเซี่ยงไฮ้ของจีน ทำคะแนนขึ้นมา 5 จุด พร้อมก้าวขึ้นแซงหน้าเมืองชิคาโก ซูริค และซิดนีย์มาอยู่ในอันดับที่ 6 ซึ่งสะท้อนถึงบทบาทการเป็นศูนย์กลางทางการเงินในเอเชียที่เด่นชัดมากยิ่ง ขึ้น
รายงานระบุว่า ศูนย์กลางการเงินชั้นนำ 4 แห่งของโลกมีบทบาทด้านธุรกรรมทางการเงินกว่า 70% ของการซื้อขายหลักทรัพย์ และมีแนวโน้มว่าจะยังเป็นศูนย์กลางทางการเงินที่สำคัญต่อไปในอนาคต
นอกจากนี้ ผู้ตอบแบบสอบถามระบุด้วยว่า เมืองเสิ้นเจิ้น เซี่ยงไฮ้ สิงคโปร์ กรุงโซล และกรุงปักกิ่งมีแนวโน้มที่จะก้าวขึ้นเป็นศูนย์กลางทางการเงินที่มีบทบาท สำคัญมากขึ้นในอีกไม่กี่ปีต่อจากนี้
ทั้งนี้ ดัชนีศูนย์กลางทางการเงินโลกได้ทำการจัดอันดับเมืองต่างๆ 75 แห่งจากผลสำรวจของผู้เชี่ยวชาญ โดยมีเกณฑ์การจัดอันดับที่พิจารณาตามปัจจัยแวดล้อมทางธุรกิจ การเข้าถึงตลาด และโครงสร้างพื้นฐาน สำนักข่าวซินหัวรายงาน