บ้านดินสร้างได้ด้วยมือเรา (ฉบับเสมือนเป็น คู่มือการสร้างบ้านดิน)

บ้านดินสร้างได้ด้วยมือเรา ตอนที่ ๑ การทำก้อนอิฐดินดิบ


 

          เทคนิคในการสร้างบ้านดินหลังนี้ หากเป็นฝรั่งเขาจะเรียกว่า Adobe House ซึ่ง Adobe หมายถึงการทำดินให้เป็นก้อน (แปลเอง) เพราะฝรั่งอีกนั่นแหละ ที่เรียกว่า Adobe Brick (แปลเองอีกว่า “ก้อนอิฐดินดิบ”) ทำไมจึงอ้างอิงฝรั่ง ก็เพราะว่าเมื่อเจ็ดปีก่อน ตอนสนใจเรื่องบ้านดินเป็นครั้งแรก แหล่งศึกษาค้นคว้าส่วนใหญ่จะมาจากอินเตอร์เนท และคนสร้างเวปไซด์เกี่ยวกับการสร้างบ้านดินอย่างเป็นขั้นเป็นตอน ดูแล้วเข้าใจ ส่วนใหญ่จะเป็นฝรั่ง ดังนั้นจะให้เครดิตพี่หรั่งเขาเสียหน่อย จะเป็นไรไป...
 


 

          การทำก้อนอิฐดินดิบ เริ่มจากการทำไม้แบบก่อน ดูจากรูปภาพ(ข้างล่าง) แล้วก็คิดให้ง่ายเข้าไว้ หาไม้หน้าสามมาสักกองหนึ่ง ทำให้มันเป็นช่องเหลี่ยมๆ ขนาด 8 * 16 นิ้ว หรือถ้าเป็นคนละเอียดจะคิดหน่วยเป็นเซนติเมตรก็ได้ไม่ว่ากัน ขนาด 20 * 40 เซนติเมตร จะทำกี่ช่องก็แล้วแต่ค่ะ สำหรับที่นี้เราทำห้าช่องพอ(เพราะนับง่ายดี) ส่วนความหนาของก้อนอิฐก็คือ ความหนาของไม้หน้าสามนั่นเอง (ไม้หน้าสาม หมายถึงไม้ที่มีความกว้างสามนิ้ว แต่โรงเลื่อยส่วนใหญ่จะโกงเรา จึงได้ความกว้างแค่เพียงสองนิ้วกว่าๆ) จะใช้ไม้หน้าสี่ หน้าห้า ได้หรือไม่? ตอบว่าได้ หากว่าคุณแบกไหว เพราะน้ำหนักของก้อนอิฐดินแต่ละก้อน (จากไม้หน้าสองกว่าๆ) เมื่อแห้งสนิทจะหนักประมาณ 8 กิโลกรัม
 

. .
 

จากภาพที่เห็นนี้ แม้ว่าไม้แบบที่ทำออกมาจะปราณีตบรรจงขนาดไหน แต่ก็ฟรีทุกอันค่ะ เพราะช่างฝีมือท่านนี้เป็นพี่ชายของเราเอง
 

. .
 

การทดสอบดิน ต้องบอกว่าเราไม่มีทฤษฏีอะไรกันมากมาย สิ่งที่ได้มาเกิดจากประสบการณ์ และการทดลองเหยียบย่ำ สัมผัสด้วยสองมือสองเท้าของตนเอง หากใครมาถามเราว่าดินที่ไหนใช้ได้ ที่ไหนใช้ไม่ได้ ถ้าเราไม่ได้สัมผัส และนำมาทดลองดูก่อน เราจะบอกไม่ได้ว่ามันใช้ได้ หรือใช้ไม่ได้ พูดไปแบบนี้ บางคนอาจคิดว่าเราหวงวิชา แต่ความจริงนั้น เราอยากจะบอกใจจะขาดว่ามันใช้ได้หรือไม่ หากว่าเรารู้จริง
 

. .
 

พื้นที่ที่เราสร้างบ้านดินหลังนี้ เป็นที่นาภาคตะวันตก (จังหวัดราชบุรี) เนื้อดินจะเป็นดินร่วนปนทราย มีความละเอียดมาก เมื่อนำมาผสมกับแกลบ เติมน้ำลงไปแล้วเหยียบย่ำจนเหนียวจะได้ก้อนอิฐดินชั้นเลิศ แกลบที่นำมาผสมนั้นเพื่อเพิ่มความเหนียวให้กับก้อนอิฐดิน ถ้าหากเราไม่ผสมแกลบ(หรือวัสดุเส้นใยอื่นๆ เช่นฟาง หรือหญ้าแห้ง) เราจะได้ก้อนอิฐดินที่แข็ง แต่เปราะ แตกหักง่าย
 

. .
 

เมื่อเหยียบย่ำได้ที่แล้ว ตักใส่กระป๋อง นำไปเทลงไม้แบบ อัดให้เรียบ เนียนเนี๊ยบ ตามอารมณ์คนทำ แล้วยกไม้แบบขึ้น (ไม่ต้องรอให้แห้ง) จะได้ก้อนดินเป็นรูปเหลี่ยมๆ ดังภาพ ใช้สองคนยกขึ้นพร้อมกันนะคะ
 

. .
 

ยกขึ้นแบบนี้ค่ะ ขอบคุณพี่ทุ่ม กับคุณผึ้ง ที่อาสามาช่วยสร้างบ้านดิน แล้วยังเป็นแบบให้ถ่ายภาพอีกด้วยค่ะ
 

. .
 

ทิ้งไว้ 2 – 3 วัน แล้วแต่สภาพอากาศ จับก้อนดินตั้งขึ้น ซึ่งบางคนก็เรียกตะแคง จะเรียกอะไรก็ช่างเถอะ ให้มันเป็นเหมือนในภาพก็แล้วกัน เหตุผลที่ทำแบบนี้ก็เพื่อให้ก้อนดินแห้งเร็วขึ้น ไม่เกินหนึ่งสัปดาห์ก้อนดินจะแห้งสนิทพร้อมใช้งาน (ถ้าฝนไม่ตก)
 

. .
 

เมื่อก้อนดินแห้งสนิทดีแล้ว เก็บสะสมไว้จนกว่าจะครบจำนวน ซึ่งบ้านหลังนี้เราคำนวณแล้วว่าจะใช้ก้อนดินทั้งสิ้น 2,800 ก้อน ... โอ้... แม่เจ้า... จะทำเสร็จไหมเนี่ย?.... วิธีการเก็บที่ถูกต้องก็ดูตามภาพค่ะ หากวางซ้อนในแนวนอนเมื่อเก็บไว้นานๆ บางทีก้อนอิฐอาจประสานติดกันเป็นก้อนเดียว เอาชะแลงมางัด ยังไม่ยอมแยกจากกันเลยค่ะ
 

. .
 

เพื่อความสำเร็จ ลูกเล็ก เด็กแดง เกณฑ์มาใช้แรงงานให้หมด (ขอบคุณหลานๆ เสียอมยิ้มไปหลายอัน แต่คุ้ม...)
 
 
 
 



 

. .
 

พอได้จินตนาการมาแบบนี้แล้ว จะทำอย่างไรต่อไปดี? ก็ทำได้แค่นี้แหละค่ะ อาชีพโปรแกรมเมอร์ ด้านฐานข้อมูล วาดรูปได้ขนาดนี้ก็ถือว่าเก่งแล้ว โปรแกรมสร้างแบบจำลองต่างๆ นาๆ อย่าหวังเลยว่าจะใช้เป็น เคยคิดจะเอาแบบไปให้เพื่อนทำให้ เพื่อให้ออกมาเป็นภาพสามมิติ และให้คนอื่นๆ ดูรู้เรื่องว่าบ้านของเรามีรูปทรงอย่างไร แต่... ไม่กล้าแบกหน้าไปหาเพื่อน เพราะเคยถูกตราหน้าว่าเป็นความอัปยศของวิชาชีพ และให้ฉายากับเราว่า “โปรแกรมเมอร์ชาวนา” “ผู้เขียนโปรแกรมแลกข้าว” “คนไร้ความทะเยอทะยาน” “ไอ้พวก Think Earth” ... โอ้ย สารพัดที่มันจะว่า ... กว่าจะพูดกันรู้เรื่อง คงได้ต่อยกันก่อนเป็นแน่... ดังนั้น ตนจึงเป็นที่พึ่งแห่งตน ทำได้แค่นี้ก็ลุยเลยละกัน
 

. .
 

เริ่มจากการนำจิตนาการบนแผ่นกระดาษ นำไปวาดลงแผ่นดิน จะทำยังไงก็ได้ค่ะ แล้วแต่วิธีการของใครของมัน ส่วนวิธีการของเราคือ ให้หลานๆ มาช่วย เลือกหลานคนที่ไม่กล้าเถียงเราด้วยนะคะ เพราะมันจะผิดๆ พลาดๆ ทำแล้วทำอีกอยู่นั่นแหละ บ้านหลังนี้ก็เช่นกัน กว่าจะได้ที่ ทำเอาหลานๆ อ่อนใจ
 

. .
 

เมื่อวางผัง ขึงเชือกเรียร้อยแล้ว คราวนี้ก็ขุดค่ะ ขุดๆๆๆๆ และขุด หากใครถามว่ากำลังทำอะไร ตอบว่ากำลังทำฐานรากบ้านดิน เขาก็จะพูดต่อว่า “บ้านอะไรประหลาดแท้?” คราวนี้ให้แกล้งทำหูทวนลมไว้ค่ะ เพราะถ้าพูดต่อก็จะยืดยาวเปล่าประโยชน์ หรือไม่ก็บอกว่าปีหน้าค่อยมาดูใหม่ ก็ได้ค่ะ
 

. .
 

ผังบ้านดินที่ขุดเสร็จเรียบร้อยแล้ว ตรงนี้ก็ไม่มีทฤษฎีอีกเหมือนเดิม(จริงๆ แล้ว ก็พอมีอยู่ แต่อธิบายแล้วอาจจะยาว) เพียงให้ไปสืบมาก่อนว่า บริเวณนี้น้ำท่วม น้ำขังหรือไม่? เป็นพื้นดินเดิมหรือดินถม? โชคดีที่บริเวณนี้น้ำไม่ท่วม ไม่ขัง และพื้นดินก็เดิมๆ ในอดีตเคยเป็นโคกเล็กๆ แต่ปัจจุบันดูไม่ออกแล้ว
 

. .

. .
 

เพื่อความมั่นคง สะดวก และง่าย เราจะเทฐานรากด้วยคอนกรีต ตรงนี้ต้องลุงทุนหน่อยค่ะ และอาจต้องจ้างช่างมาช่วย ก็ไม่ต้องไปหาที่ไหนไกล ใช้ช่างสามัญประจำหมู่บ้านนั่นแหละค่ะ เกิดความโชคดีซ้ำซ้อนเมื่อพี่ชายของเรานอกจากจะเป็นช่างไม้แล้ว งานปูน พี่เขาก็ทำได้เหมือนกัน
 

. .

. .
 

เราต้องการให้ส่วนของฐานรากที่เป็นคอนกรีต สูงจากพื้นขึ้นไปสัก ๑ ฟุต เพื่อกันความชื้นเข้าสู่บ้านดิน จะทำยังไงดีหว่า? รูปทรงของบ้านก็พิลึก คดเคี้ยวไปมา... แต่เชื่อเถอะว่า เมื่อสติมา ปัญญาจะมี เราไปเก็บหินจากแม่น้ำมาก่อขึ้นไปคล้ายรางรถไฟขนาดจิ๋ว แล้วก็เทปูนลงไปให้เต็มราง แค่นี่ก็เรียบร้อย
 

. .
 

ภาพมุมกว้าง สวยไหมคะ?
 

. .
 

ต่อมาก็วางแผนเรื่องห้องน้ำ วางท่อปะปา ท่อน้ำทิ้ง และขุดบ่อเกรอะ
 

. .
 

ปรับพื้นที่ภายในบ้าน และบริเวณรอบๆ บ้านเตรียมเทปูน พื้นที่เล็กๆ ซ้ายขวานี้คือเตียงนอนค่ะ เตียงนอนของพ่อกับแม่ไง อยู่กันคนละข้าง คนละห้อง แต่มองเห็นกันอยู่เสมอ... โรแมนติกไม่สร่าง ส่วนนี้ไม่ต้องเทปูนค่ะ เว้นว่างไว้
 

. .
 

เทปูนรอบๆ บ้านก่อน
 

. .
 

แล้วก็เทพื้นปูนในบ้าน
 

. .
 

เรียบร้อยแล้วค่ะ ต่อจากนี้คือการอคอยและหาเหยื่อ (อาสาสมัคร) มาช่วยทำก้อนอิฐดินให้ครบ ๒,๘๐๐ ก้อน แล้วเราจะเริ่มก่อผนัง ทำเตียงนอนดิน ติดตั้งวงกบประตู หน้าต่าง ฯลฯ
 

 
 
 
 
 

บ้านดินสร้างได้ด้วยมือเรา ตอนที่ ๓ การก่อผนังดิน
 

 

 

เข้าภาษิตความพยายามอยู่ที่ไหน ความพยายามอยู่ที่นั่น เอ้ย.. ความสำเร็จ ย่อมอยู่ที่นั่น ในที่สุดวันที่เรารอคอยก็มาถึง ผ่านไปค่อนปี เราก็ได้ก้อนอิฐดินครบตามจำนวน ๒,๘๐๐ ก้อน และพร้อมแล้วที่จะเริ่มก่อผนังดินกัน และเพื่อให้บรรยากาศครึกครื้น ชาวบ้านชื่นอกชื่นใจ เมื่อช่วงปลายปี ๕๒ เราได้ประกาศรับสมัครอาสา ไปร่วมเรียนรู้และลงแรงสร้างบ้านดิน (ประกาศผ่านเวปบล็อกโอเคเนชั่นนี้แหละ หากท่านยังจำได้) แล้วเราก็ได้อาสาสมัครที่สนใจเรื่องการสร้างบ้านดินมาเกือบสิบท่าน และส่วนใหญ่เป็นอาสาชายฉกรรจ์ (ตรงนี้ผู้ประสานงาน ชื่นอกชื่นใจเสียเอง) เราเรียกกิจกรรมครั้งนั้นว่า “ลงแขกสร้างบ้านดิน” ซึ่งหมายความว่าตอนนี้กลุ่มเราติดหนี้แรงงานไว้ ดังนั้นท่านใดที่เคยมาสร้างบ้านดินกับเรา และต้องการความช่วยเหลือ หรือแรงงานใดๆ จากเรา โปรดส่งข่าวและเรียกใช้พวกเราได้นะคะ
 

เรามาเริ่มก่อผนังดินกันดีกว่า ซึ่งการก่อผนังดินนี้ก็ง่ายมากค่ะ เราแบ่งออกเป็น ๒ ทีม ทีมหนึ่งเป็นหน่วยย่ำดินโคลนที่ใช้เป็นตัวประสานก้อนอิฐดิน อีกทีมหนึ่งจะเป็นคนก่อ แล้วเราก็จะสลับกันใครเบื่องานก่อก็ลงไปย่ำ ใครเบื่องานย่ำก็ขึ้นมาก่อ ดูจากภาพเลยค่ะ
 

. .
 

นี่คือบ่อย่ำดิน ส่วนผสมก็ยังคงเป็นดินกับแกลบเหมือนเดิมแต่เราจะเติมน้ำให้เหลวขึ้น ดูๆ ไปก็คล้ายปูนก่อผนังนั่นแหละค่ะ
 

. .
 

ส่วนภาพข้างบนนี้คือการก่อผนัง เอาดินโคลนเทลงไปก่อนแล้ววางก้อนอิฐไปตามแนวนอน กดก้อนอิฐดินให้แน่น ซึ่งเราแนะนำให้เพื่อนอาสาขึ้นไปเหยียบ หรือใครจะกระทืบสักทีสองทีเราก็ไม่ว่า เพื่อเป็นการพิสูจน์ว่าก้อนอิฐดินนี้แข็งแรงจริง และจะทำให้ผนังดินแน่นขึ้นอีกด้วยค่ะ จากนั้นเราจะก่อผนังไปรอบๆ บ้าน และก่อขึ้นไปทีละชั้นๆ แต่.. ปัญหาคือเราออกแบบเตียงนอนบิวท์อินไว้ ที่ด้านซ้ายและขวาของตัวบ้าน จะเริ่มอย่างไรดี?
 

. .
 

เราก็เริ่มจากการทำเตียงนอนก่อนค่ะ ก่ออิฐดินขึ้นมาประมาณ ๔ ก้อนเหมือนเป็นขาเตียง ดูจากภาพนะคะ
 

. .
 

ตัดไม้ไผ่วางลงไปถี่ๆ
 

. .
 

เทดินโคลนลงไปแล้วปูด้วยก้อนอิฐดินอีก ๒ ชั้น (นี่เป็นชั้นแรกค่ะ)
 

. .
 

ชั้นสุดท้าย เทราดด้วยดินโคลนที่ย่ำไว้ แล้วเกลี่ยให้เรียบ เท่านี้ก็เรียบร้อยแล้วค่ะ ทำแบบนี้จนครบทั้งสองเตียง (ตอนก่อเตียงนอนดินนี้ เจ้าของเตียงคือพ่อกับแม่ มายืนให้กำลังใจด้วย และคิดว่าคงกลับไปตกลงกันแล้วว่า ใครจะอยู่เตียงเหนือ หรือเตียงใต้)
 

. .
 

ภาพเตียงนอนเหนือ – ใต้
 

. .
 

หลังจากได้เตียงนอนครบสองเตียงแล้ว ก็แยกย้ายกันไป เริ่มก่อผนังให้รอบตัวบ้านเลยค่ะ
 

. .
 

ก่อผนังมาถึงระดับเอวแล้ว พอจะดูออกไหมคะ ว่าบ้านดินหลังนี้ มันมีรูปทรงเป็นอย่างไร?
 

 

ขอขอบคุณเนื้อหาการ บ้านดินสร้าง จากเว็บhttp://www.oknation.net/blog/ By  เช่นนั้นเอง

Credit: FWDDER.com
19 ก.ย. 53 เวลา 09:07 14,760 8 78
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...