เมื่อวันที่ 14 กันยายนที่ผ่านมา สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เกิดเหตุสุดแปลกขึ้นในเมืองคัฟวิงตัน รัฐหลุยเซียนา สหรัฐฯ เมื่อคนขับแท็กซี่รายหนึ่งถูกสาวสวยผมบลอนด์โบกให้จอดก่อนเธอจะเปิดประตูรถเข้ามานั่งที่เบาะหลัง แล้วบอกให้เขาไปส่งยังจุดหมายของเธอที่รัฐมิชิแกน
เมื่อคนขับแท็กซี่ได้ยินดังนั้นก็ถึงกับอึ้ง เพราะรัฐมิชิแกนนั้นอยู่ห่างออกไปกว่า 1,200 ไมล์ หรือ ประมาณ 2,000 กิโลเมตรเลยทีเดียว เขาจึงปฏิเสธหญิงสาวคนดังกล่าวไป เพราะไม่สามารถขับรถแท็กซี่ไปส่งเธอไกลขนาดนั้นได้ แต่แทนที่หญิงสาวจะยอมลงจากรถแต่โดยดี เธอกลับโวยวายและถอดเสื้อผ้าออกหมดเหมือนจะเป็นการประท้วง เขาจึงบอกให้เธอลงไปจากรถ แต่เธอก็ไม่ยอมลงจากรถเสียที คนขับแท็กซี่เลยเห็นท่าไม่ดี จึงขับรถพาเธอไปสถานีตำรวจ เพื่อขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ
แต่เรื่องราวกลับไม่ง่ายอย่างนั้น เพราะเมื่อเขาไปถึงสถานีตำรวจแล้ว เขาก็เปิดประตูรถออกไปเพื่อแจ้งตำรวจโดยลืมเอากุญแจรถออกไปด้วย ทำให้หญิงสาวที่อยู่ในสภาพเปลือยเปล่าขโมยรถขับออกไปอย่างหน้าตาเฉย แต่แล้วในที่สุดเธอก็ถูกจับมาดำเนินคดี เพราะเธอขับรถออกไปได้ไม่ไกลเท่าไหร่ ก็เกิดง่วงและจอดรถฟุบหลับอยู่ที่เบาะหลังซะอย่างนั้น
งานนี้สาวเจ้าก็เลยโดนข้อหาขโมยรถ พ่วงด้วยข้อหาเปลือยกายในที่สาธารณะไปจัง ๆ ก็โดนปรับกันไปตามระเบียบ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจระบุว่า พฤติกรรมทุกอย่างที่เธอทำนั้นเป็นผลข้างเคียงของตัวยาบางตัวที่เธอได้รับเข้าไปนั่นเอง