.
.
.
.
พลซุ่มยิง (Sniper) คือผู้ที่มีความสามารถสูงในเรื่องของการยิงปืนในระยะไกล ซึ่งได้รับการฝึกฝนการยิงเป้าหมายในสถานการณ์ต่าง ๆ ที่ต้องใช้ความสามารถในเรื่องของการยิงปืน เรื่องของความอยู่รอด (survivability) ในพื้นที่ต่าง ๆ เป็นระยะเวลานาน เช่น ในป่า หรือ ในพื้นที่สิ่งก่อสร้าง หน้าที่ของพลซุ่มยิงคือ การวางวิถีกระสุนอย่างแม่นยำไปยังฝ่ายข้าศึก ซึ่งทหารในหน่วยต่าง ๆ ไม่สามารถทำการยิงได้ ทั้งนี้ อาจจะเป็นเพราะระยะทาง ขนาดของกำลังข้าศึก ที่ตั้งฝ่ายข้าศึก หรือว่าการมองเห็น
ผู้ ที่จะเป็นพลซุ่มยิงได้นั้นจะต้องเป็นผู้ที่มีลักษณะที่พิเศษ ดังตัวอย่างในระเบียบราชการสนาม 23-10 การฝึกพลซุ่มยิง (FM-23-10 Sniper Training) ของกองทัพบกสหรัฐฯ ได้มีแนวทางในการคัดเลือกกำลังพล เข้าทำการฝึกเป็นพลซุ่มยิง โดยมีข้อพิจารณาอยู่ด้วยกัน 6 ประการ คือ
1. แม่นปืน ผู้ที่จะเข้ารับการฝึกเป็นพลซุ่มยิงจะต้องมีความสามารถในการยิงปืนดีเลิศ ถ้าผ่านการแข่งขันทางด้านการยิงปืน หรือการล่าสัตว์มาก่อนจะเป็นข้อได้เปรียบในการคัดเลือกเข้ารับการฝึก
2. ร่างกายต้องพร้อม ผู้ที่จะเข้ารับการฝึกเป็นพลซุ่มยิง จะต้องเป็นผู้ที่มีร่างกายแข็งแรง และถ้าเคยผ่านการเป็นนักกีฬาในประเภทต่าง ๆ ก็จะได้เปรียบในการคัดเลือกเข้ารับการฝึก
3. สายตาและความสามารถในการมอง ผู้ที่จะเข้ารับการฝึกจะต้องเป็นผู้ที่ไม่ใส่แว่นสายตา เพราะจะเป็นการเสี่ยงต่อความล้มเหลวของภารกิจเมื่อแว่นสายตาชำรุด หรือสูญหายในพื้นที่ปฏิบัติการ นอกจากนี้จะต้องไม่ตาบอดสี เพราะจะมีปัญหาในการแยกเป้าหมายจากสิ่งแวดล้อม
4. ไม่สูบบุหรี่ ผู้ที่เข้ารับการฝึกจะต้องไปเป็นผู้ที่สูบบุหรี่ เพราะการสูบบุหรี่จะเป็นการเปิดเผยที่ตั้งของตนเอง นอกจากนี้การปฏิบัติงานจริง จะต้องอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถสูบบุหรี่ได้เป็นระยะเวลานาน การที่ไม่สูบบุหรี่เป็นระยะเวลานานของผู้ที่สูบบุหรี่เป็นประจำ จะส่งผลให้ประสิทธิภาพในการยิงลดลง
5. มีความมั่นคงทางอารมณ์สูงกว่าคนปกติ ผู้ที่เข้ารับการฝึก จะต้องเป็นผู้ที่สามารถควบคุมอารมณ์ของตนเองได้ดีในภาวะต่าง ๆ เพราะการปฏิบัติงานจริง อาจจะต้องตกอยู่ในภาวะที่มีความกดดันสูง การลั่นไก ณ เวลา และสถานที่ที่เหมาะสม เป็นสิ่งที่มีความสำคัญยิ่งต่อการปฏิบัติงานของพลซุ่มยิง
6. ความคิดและระดับสติปัญญา ผู้ที่เข้ารับการฝึกนั้นจะต้องเรียนรู้เรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับขีปนวิธี ของกระสุนในลักษณะต่าง ๆ การปรับแต่งอุปกรณ์ช่วยเล็ง การใช้วิทยุสื่อสาร การตรวจการณ์ และการปรับการยิง เครื่องยิงลูกระเบิดและปืนใหญ่ การเดินแผนที่และเข็มทิศ การรวบรวมและรายงานข่าวสาร และการพิสูจน์ฝ่ายและอาวุธยุทโธปกรณ์
ในหนึ่งชุดซุ่มยิงลาดตระเวน จะประกอบไปด้วย กำลังพล 2 นาย คือ 1. พลซุ่มยิง (Sniper) เป็นผู้ที่ทำหน้าที่ในการซุ่มยิง และ 2. พลชี้เป้า (Spotter) เป็นผู้ที่ทำหน้าที่วัดระยะจากที่วางตัว ไปยังเป้าหมายแล้วแจ้งให้พลซุ่มยิงทราบ
อาวุธของพลซุ่มยิงหรือหน่วยสไนเปอร์
การยิงเป้าหมายจากระยะไกลต้องใช้ปืนที่มีความแม่นยำสูง มีกระสุนที่มีรัศมีทำการไกลกว่าปกติ เนื่องจากเป็นกระสุนความเร็วสูง ที่ถูกออกแบบให้ใช้กับปืนยาวแบบลูกเลื่อนสไลด์ ซึ่งอาจมีขนาดของกระสุนที่แตกต่างกันไปตามการใช้งาน ในแต่ละสถานการณ์ และนี่คือบรรดาอาวุธยิงระยะไกลที่มีใช้งาน อยู่ในกองทัพและหน่วยรบพิเศษทั่วโลก
Sig SSG 3000 ปืนไรเฟิลที่มีรากฐานการผลิตมาจากกองทัพของสวิส โดยร่วมมือกันพัฒนาโครงตัวปืนกับบริษัท Jp Sauer And Sohn ประเทศเยอรมนีใช้กระสุนขนาด .308 วินเชสเตอร์ (หรือขนาด 7.62 มิลลิเมตร นาโต) ขึ้นลำโดยใช้ระบบลูกเลื่อนหรือ Bolt-Action มีความยาวรวม 1,180 มิลลิเมตร ตั้งแต่ปลายลำกล้องจรดพานท้ายใช้ระบบเกลียวลำกล้อง 4 เกลียว เพื่อความแม่นยำสูง ความเร็วในขณะที่กระสุนพ้นปากลำกล้อง 2,400 ฟุตต่อวินาที ซองกระสุนขนาดบรรจุ 5 นัด มีน้ำหนักรวมเมื่อติดกล้องเล็งระยะไกลประมาณ 6.2 กิโลกรัม กับกำลังขยายของกล้องเล็งที่ 1.5-6X มีระยะยิงหวังผลไกลกว่า 800-1,000 เมตร เป็นอย่างต่ำ
Dragunov ดรากูนอฟ เป็นไรเฟิลอัตโนมัติในรุ่นที่ดัดเเปลงกลไกภายใน และรูปแบบของตัวปืนจากปืนไรเฟิลตระกูล AK ของรัสเซีย เเละทำให้มันกลายเป็นสไนเปอร์ไรเฟิล ด้วยการดัดเเปลงลำกล้องให้ยาวขึ้น เปลี่ยนพานท้ายปืนเเละเพิ่ม feeder ปัจจุบันดรากูนอฟ (SVD) ถูกใช้อย่างเเพร่หลายในกองกำลังทางทหารของกลุ่มประเทศแถบยุโรปตะวันออก เเละรัสเซีย ปืนกระบอกนี้สามารถเล็งเป้าหมายที่เคลื่อนที่เร็วได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีความเเม่นยำสูง ด้วยกล้องเทเลโฟโต้เลนส์รุ่น PSO-1M2 สามารถปรับความเร็วการยิงได้ โดยใช้การทำงานของระบบเเก๊ส ทำให้เกิดความปลอดภัยในการยิงเเละการควบคุมปืน
FR-F2 ถูกดัดเเปลงมาจาก ปืนไรเฟิล FR-F1 ที่ใช้มาตั้งเเต่ช่วงยุค 1970 ลำกล้องของปืนใส่อุปกรณ์ป้องกันความร้อนเข้าไป เเม้ว่าจะวางไว้กลางเเดดเป็นเวลานาน ก็ไม่มีผลใด ๆ ต่อลำกล้องของปืน มันเป็นสไนเปอร์ไรเฟิลระบบโวลท์ เเอคชั่น ถูกใช้อยู่ในหน่วย GIGN (หน่วยต่อต้านการก่อการร้าย) มีลูกกระสุนขนาด 7.62 มม. เเละติดกล้องซูมได้ถึง 8 เท่า
PSG (Prazisions Sharfschutzen Gewehr-1) ปืนสไนเปอร์ไรเฟิลกึ่งอัตโนมัติของบริษัท H&K ชื่อของมันหมายถึง ปืนที่เเม่นยำ ผลิตโดยใช้โครงสร้างของปืนแบบ G3 โมเดล เเต่เมื่อพัฒนาเสร็จสมบูรณ์เเล้ว กลับมีความเเตกต่างกับ G3-SG1 โดยสิ้นเชิง มันเป็นปืนที่มีน้ำหนักเกินกว่า 8 กิโลกรัม เเละมีความเเม่นยำสูงที่สุด ได้รับการประเมินว่าเป็นปืนที่มีประสิทธิภาพดีที่สุด ในภารกิจการต่อต้านการก่อการร้ายของสไนเปอร์ไรเฟิลที่มีใช้อยู่ในปัจจุบัน (ลูกระสุนมี 50 นัด เมื่อยิงในระยะ 100 เมตร เส้นผ่าศูนย์กลางของเป้าหมายจะเท่ากับ 6.99 มม., เมื่อยิงในระยะ 300 เมตรจะเท่ากับ 80 มม.) เเต่ไม่มีเหตุผลที่จะใช้งานสำหรับภารกิจทางทหารทั่ว ๆ ไป เนื่องจากตัวปืนและอุปกรณ์มีราคาสูงมาก ระบบภายในตัวปืนมีความแข็งแกร่งไม่มากเท่าปืนไรเฟิลจากรัสเซีย การใช้งานต้องระวังไม่ให้ตัวปืนโดนฝุ่นดินหรือโคลน การมีน้ำหนักมากเกินไปของมันกลับทำให้เกิดความเเม่นยำมากกว่าปกติเนื่องจาก ความเสถียรในการออกแบบลำกล้องและพานท้าย
king of50caliber sniper rifles ปืนซุ่มยิงระยะไกลที่มีอำนาจการยิงรวมถึงอำนาจในการทำลายล้างสูง ได้รับการพัฒนาโดยบริษัท Barrett Firearms สหรัฐอเมริกา เป็นปืนซุ่มยิงที่ประจำอยู่ในหลายหน่วยงานทางทหารทั่วโลก และเข้าร่วมปฏิบัติการในสงครามหลายครั้ง เป็นปืนซุ่มยิงที่มีระบบกลไกกึ่งอัตโนมัติ มีรังเพลิงขนาดใหญ่ที่ใช้กับลูกกระสุนความเร็วสูงขนาด 50 มิลลิเมตร ที่มีอำนาจการทำลายสูงมากที่สุดในกลุ่มปืนซุ่มยิง ด้วยประสิทธิภาพการยิงที่แม่นยำที่ระยะ 1,500 เมตร รวมทั้งสถิติการยิงที่ระยะ 2,500 เมตร กระสุนที่มีพลังงานสูงมีประสิทธิภาพมากเกินพอ ที่จะยิงเพื่อหยุดยั้งการเคลื่อนของเป้าหมายที่มีการหุ้มเกราะ สามารถปฎิบัติการต่อเป้าหมายที่สำคัญ เช่น หอควบคุมเรดาห์ รถบรรทุก รถสายพานลำเลียงพล หรืออากาศยานที่บินในระดับต่ำ กล่าวกันว่าแม้กระสุนของมันจะกระทบเป้าอย่างจังไปแล้วก็ตาม ก็ไม่อาจได้ยินเสียงปืนเนื่องจากการยิงมาจากระยะที่ไกลกว่าปืนไรเฟิลซุ่มยิง ทุกชนิดที่มีใช้งานอยู่ในปัจจุบัน
หน่วยสงครามพิเศษทางเรือ จะเห็น Barrett M82A1 ครับ