ช่างภาพกับพริตตี้...ต้องเก็บภาพกันขนาดนี้เลยเหรอ !!!

 

 
เสียงจากพริตตี้
   

   
ลองมารับฟังเสียงของพริตตี้ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญ เป็นอาหาร (ตา) จานหลักที่มีให้ชมกันแบบอิ่มเอมจากงานมอเตอร์โชว์ในแต่ละครั้งที่ผ่านมาและในครั้งนี้ อรยา มาวิน คือตัวแทนพริตตี้สาวแสนสวย ที่ให้เกียรติมาบอกเล่าความรู้สึกและยอมให้เราได้ติดตามวินาทีในการทำงานของ เธอ...
   
   

หลังทำหน้าที่พิธีกรบนเวทีประจำบูทเพื่อแนะนำรถสปอร์ตหรู อรยาในชุดสีดำ เดินเยื้องกรายไปยืนข้างรถแล้วโพสท่าให้ช่างภาพหนุ่มกลุ่มใหญ่รัวชัตเตอร์ สาวชุดดำเดินวนรอบๆ รถเพื่อเปลี่ยนมุมถ่ายภาพพร้อมกับปั้นหน้าตาให้ดูน่ารักเซ็กซี่กว่าปกติ โดยไม่ยี่หระต่อสายตาเป็นประกายของหนุ่มน้อยใหญ่ที่จ้องมองเรือนร่างของเธอ ราวกับจะกลืนกิน
   
   

อรยาบอกว่า ในแต่ละวันเธอต้องทำงานตั้งแต่ 12.00-20.00 น. โดยได้รับค่าจ้างวันละ 3,500 บาท และแม้เรียนจบปริญญาตรีด้านบริหารธุรกิจ สาขาคอมพิวเตอร์ธุรกิจ แต่เพราะใจรักงานพริตตี้ทำให้อรยาเลือกเส้นทางนี้
   
   

แน่นอน เมื่อขึ้นชื่อว่าเป็น 'พริตตี้' คนส่วนใหญ่ก็ย่อมนึกถึงรูปกายภายนอกของพวกเธอก่อนเป็นอันดับแรก ซึ่งอรยาก็บอกว่าเธอรับรู้ความจริงข้อนี้เป็นอย่างดีและไม่ขอเถียง และในกรณีที่ถูกผู้ชมงานซึ่งเป็นผู้ชายก่อกวน พยายามถูกเนื้อต้องตัว หรือจ้องด้วยสายตาหื่นกระหายจนไม่เป็นอันทำงาน เธอจะรับมือด้วยการเรียกเจ้าหน้าที่ประจำบูทให้มาช่วยดูแล
   


ส่วนการถ่ายรูปพริตตี้แล้วนำไปตัดต่อ หรือนำไปทำสิ่งที่ผิดกฎหมาย อนาจาร สร้างความเสียหายต่อพริตตี้ ไม่ได้ทำให้อรยาวิตกกังวลถึงขนาดอยากเปลี่ยนอาชีพ เพราะเธอเชื่อมั่นว่า หากใครทำสิ่งไม่ดีทำนองนี้ วันใดวันหนึ่งต้องโดนจับและถูกลงโทษตามกฎหมาย
   
   

ส่วนคำครหาทำนองว่า พริตตี้ในงานมอเตอร์โชว์ คงไม่มีความรู้ลึกรู้จริงเกี่ยวกับรถยนต์ นอกจากยืนอวดความสวย และส่งยิ้มหวานๆ นั้น อรยา ตอบด้วยน้ำเสียงจริงจัง ว่า
   
   

“หากไม่รู้ข้อมูลรถ พอมาทำงานตรงนี้ก็ต้องศึกษาเพื่อให้รู้ให้ได้ ไม่อย่างนั้นเขาคงไม่จ้างมาหรอก รู้มากบ้างน้อยบ้างต่างกันไป”
   
   

ถ้าอยากรู้ว่า พริตตี้แต่ละคน รู้เรื่องรถแบบลึกซึ้งหรือท่องจำ รู้มากหรือรู้น้อยแค่ไหน? คนรักรถทั้งหลาย ก็คงต้องขอทดสอบภูมิพวกเธอด้วยตัวเอง














***เกร็ดเล็กๆ เกี่ยวกับ ‘พริตตี้’***
   
   

ย้อนกลับไปเมื่อ 25 ปีก่อน 'โตโยต้า' คือค่ายรถยนต์ค่ายแรก ที่นำ 'พริตตี้' มาเป็นกลยุทธ์เรียกความสนใจ โดยให้สาวๆ หน้าตาน่ารัก มาคอยยืนให้บริการข้อมูลเกี่ยวกับรถ ซึ่งนับว่าประสบความสำเร็จอย่างสูงในแง่ของการดึงความสนใจ เพราะฐานลูกค้าส่วนใหญ่ของรถก็คือลูกค้าที่เป็นผู้ชาย
   
   

ด้วยเหตุนี้ ในระยะเวลาไม่นาน วัฒนธรรมการมีพริตตี้ มาคอยเชิญชวนให้ชมสินค้าและอธิบายรายละเอียดต่างๆ เกี่ยวกับสินค้านั้นๆ จึงแพร่ขยายความนิยมไปทั่วโลก ไม่เว้นในประเทศไทย ซึ่งนานวัน พริตตี้ ก็ไม่ได้จำกัดอยู่เฉพาะแวดวงยานยนต์อีกต่อไปแล้ว แต่ยังขยายฐานความนิยมไปยังสินค้าอื่นๆ ด้วย
   
   

ซึ่งแม้ในระยะแรก พริตตี้มักจะจำกัดวงเฉพาะสินค้าที่มีผู้ชายเป็นกลุ่มเป้าหมายหลัก แต่ ณ ปัจจุบัน พริตตี้ก็ขยายความนิยมไปยังสินค้าหลากหลายที่เหมาะกับคนทุกเพศ ไม่ว่าอาหารเสริม เครื่องสำอาง เครื่องออกกำลังกาย ยาลดน้ำหนัก อาหารกึ่งสำเร็จรูป ขนมขบเคี้ยว หรือแม้แต่นมพร่องมันเนย
   
   

แต่ไม่ว่าอย่างไร พริตตี้ในงานมอเตอร์โชว์ ก็ยังถือว่าทรงอิทธิพล เรียกความสนใจจากคนทั่วไปได้มากกว่าพริตตี้ของสินค้าประเภทอื่นๆ เพราะนอกจากเป็นต้นกำเนิดของการก่อร่างสร้างอาชีพ 'พริตตี้' ในเมืองไทยนับแต่เมื่อ 25 ปีก่อน หลังได้รับแรงส่งมาจากญี่ปุ่นแล้ว มหกรรมมอเตอร์โชว์ก็ยังคงสืบต่อวัฒนธรรมพริตตี้มาอย่างต่อเนื่อง ด้วยการเฟ้นหาสาวงามที่มีบุคลิกดี มาดมั่น มาคอยยืนเรียกความสนใจและให้บริการข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับรถยนต์แต่ละคัน
   
   

ทั้งมีการจัดประกวดมิสมอเตอร์โชว์ ที่ได้รับความสนใจจากสื่อมวลชน ทำให้กลายเป็นบันไดอีกขั้นในการก้าวสู่แวดวงบันเทิง เพราะตำแหน่งดังกล่าว รับประกันดีกรีความสวยที่ไม่น้อยหน้าไปกว่านางงามเวทีใดๆสมดังอาชีพ 'พริตตี้' ของพวกเธอที่แปลตรงตามคำศัพท์ 'Pretty' ว่า 'น่ารัก' ในสายตาของใครต่อใคร



ที่มา....

http://forum.kodhit.com/general/t342/

 

 
 
 
 
 
 
 
 
 
Credit: http://atcloud.com/stories/87430
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...