อิ่มใจแบบไฮโซที่เกาะคาปรี (Lisa)
เนิ่นนานมาแล้วล่ะที่ เกาะคาปรี (Capri) อวดความงามของตัวเองว่าเป็นสวรรค์ในการตากอากาศของเหล่าคนดัง นับลงมาตั้งแต่ราชาแห่งแคว้น ศิลปิน นักออกแบบ ดารา นักกาเมือง เรื่อยมาจนถึงมวลหมู่เซเลบริตี้ชื่อดัง จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่เกาะสวรรค์แห่งนี้ จะเนืองแน่นไปด้วยร้านรวงของสินค้าแบรนด์เนมราคาแพงระยับ โรงแรมหรูคุณภาพระดับ 6 ดาว
ที่สำคัญ เกาะคาปรี ยังปรากฏในห้วงคำนึงของผู้คนในทุกยุค ว่าเป็นแหล่งรวมของไวน์ชั้นเลิศที่สุดในโลก น้ำหอมที่มีกลิ่นละมุนที่สุดของวงการ นอกจากนั้น บรรยากาศที่แสนโรแมนติกในทุกตารางนิ้ว ยังส่งให้เกาะแห่งนี้เนื้อหอมขึ้นมาอีกหลายเท่าตัว
สวรรค์อยู่ใกล้ ๆ แค่ปรายตามอง
ความงามของ เกาะคาปรี มีให้สัมผัสในทุก ๆ ตารางนิ้ว เกาะแห่งนี้จึงถูกใช้เป็นสถานที่ตากอากาศของชนชั้นสูงมาตั้งแต่สมัยโรมันเรืองอำนาจ และยังคงมนต์เสน่ห์แห่งความงามมาจนถึงทุกวันนี้ สิ่งสะท้อนความเลอโฉมของ เกาะคาปรี ก็คือว่าบรรดากวีและนักเขียนชื่อดังต่างก็บอกในงานเขียนเป็นเสียเดียวกันว่า "ที่คาปรีสวรรค์อยู่ใกล้ ๆ เพียงแค่ปรายตามอง"
เกาะคาปรี อวดตัวเองอยู่ใน อ่าวเนเปิลส์ (Naples) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของทะเลเมดิเตอร์เรเนียนเป็นที่ตั้งของเมืองใหญ่สองเมืองคือ เกาะคาปรี (Capri) ที่อยู่ด้านล่างของเกาะและ อนาคาปรี (Anacapri) ซึ่งอยู่บนภูเขาสูง ว่ากันว่าในอดีตสองเมืองนี้เป็นคู่แข่งกันมาโดยตลอด มีชัยภูมิที่ตั้งอยู่ใกล้กันไปมาหาสู่กันลำบาก แต่ปัจจุบันมีถนนแคบ ๆ เชื่อมต่อเมืองทั้งสองเข้าไว้ด้วยกัน
ภาพของ เกาะคาปรี ที่หลายคนเฝ้าฝันถึงคือเมืองเล็ก ๆ ที่เต็มไปด้วยบรรยากาศของการพักผ่อน ซึ่งเต็มไปด้วยจุดชมวิว ที่สามารถมองลงไปเห็นบ้านเรือนเบื้องล่างที่เรียงรายไล่ไปตามทางลาดาของเนินเขา ซึ่งงดงามจนไม่อาจละสายตาจากไปได้ นอกจากนั้น ฟากฟ้าและท้องทะเลของคาปรียังสวยสดด้วยแสงแดดอุ่น ๆ เกือบทั้งปี ที่สำคัญ เกาะคาปรี ยังมีชื่อมานานว่าเป็นบ้านของไวน์รสเลิศและอาหารสไตล์เมดิเตอร์เรเนียนรสหรู เหล่านี้คือส่วนผสมที่ทำให้เกาะสวรรค์แห่งนี้ ไม่เคยปราศจากรอยเท้าผู้มาเยือน
คาปรีมีความหรูให้สัมผัสในทุกตารางนิ้ว
นับตั้งแต่ช่วงต้นศตวรรษที่ 20 เกาะคาปรี ได้กลายเป็นสวรรค์ของเซเลบริตี้ชื่อดังของโลก เป็นเกาะที่มีไว้อัพเดตเทรนด์และอุณหภูมิของวงการแฟชั่น ถึงขนาดที่ว่าหากมาเยือนคาปรีในฤดูกาลแห่งปาร์ตี้ก็จะได้เห็นบรรดาคนดังสวมใส่ชุดหรู ๆ ของดีไซเนอร์เบอร์ต้น ๆ ของโลกมาประชันกันอย่างไม่ยั้งมือ จึงไม่ใช่เรื่องที่ควรแปลกใจที่ย่านดาวน์ทาวน์ของเกาะแห่งนี้จะเป็นที่ตั้งของสารพัดร้านรวงของสินค้าแบรนด์เนมสุดหรู เพื่อเอาใจบรรดาคนดังมากรีดกราย จับจ่ายระบายเงินในกระเป๋า ขอย้ำให้ฟังอีกครั้งแบบชัด ๆ ว่าสีสันของคาปรีเป็นแบบนี้จริงๆ หรูหราฟู่ฟ่าจนบางคราก็อาจจะแลดูเว่อในสายตาของคนที่ไม่คุ้นเคยและเข้าใจ
อีกหนึ่งความหรูของคาปรีก็คือเรื่องราวของที่พัก ซึ่งโรงแรมที่ได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในที่สุดของยุโรป ก็ตั้งอยู่ที่นี่ นั่นก็คือ โรงแรมลา สกาลินาเตลลา (Hotel La Scalinatella) ที่ขึ้นเชื่อทั้งความหรูหราและบรรยากาศแสนโรแมนติก ที่สำคัญราคาก็เข้าข่า ผู้มีอันจะกินเท่านั้นถึงจะจ่ายได้ นั่นก็คือตกอยู่ราว ๆ คืนละไม่ต่ำกว่า 8 หมื่นบาทไทย!
ความสงบงามก็มีให้สัมผัสที่คาปรี
เกาะคาปรี ใช่จะมีเสน่ห์แต่ในเรื่องความหรูเท่านั้น หากแต่ธรรมชาติที่สงบงามคาปรีก็มีพร้อมเสิร์ฟอยู่แล้ว ซึ่งสิ่งนี้ถือเป็นหัวใจของคาปรีที่มีมานาน เริ่มตั้งแต่ วนอุทยานออกัสตัส (Augustus Garden) ที่อยู่ไม่ไกลจากใจกลางเมืองมากนัก เมื่อมาเยือนสวนสวยริมหน้าผาแห่งนี้ก็จะสามารถมองเห็นภาพของท้องทะเลเมดิเตอร์เรเนียน สีน้ำเงินเข้มที่ดูสงบนิ่งได้อย่างเต็มสายตา ซึ่งเคียงคู่มากับโตรกผาของเกาะคาปรีอันสูงชัน ยิ่งหากมีภาพนกทะเลฝูงใหญ่โบยบินมาแต่งแต้มภาพวิวแห่งนี้จะงามชวนฝันอย่างประหลาด
ตามต่อกันด้วย The Charterhouse of St. Giacomo ศาสนสถานที่สร้างขึ้นมาตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 14 โดย เคานต์ จิอาโคโม (Giacomo Arcucci) ขุนนางแห่งเมืองคาปรี ซึ่งท่านเป็นที่ปรึกษาพระราชินีแห่งแคว้นเนเปิลส์โบราณ ปัจจุบันอาคารบางส่วนเปิดเป็นพิพิธภัณฑ์แสดงงานศิลป์หลากสไตล์ให้นักท่องเที่ยวเข้าชม โดยเสียค่าผ่านประตู จุดนี้น่าจะเป็นที่พึงใจของคองานศิลป์ทั้งหลาย
Extra Tips
เดือนที่เหมาะกับการมาเยือนคาปรีมากที่สุดคือในราวเดือนสิงหาคมของทุกปี เพราะเป็นช่วงเวลาที่แสงแดดสวยและอิ่มอุ่นที่สุด นอกจากนั้น อาหารจากทะเลเมดิเตอร์เรเนียนในช่วงเดือนนี้ถือว่าอร่อยที่สุดในรอบปีอีกด้วย
เครื่องดื่มพื้นเมืองที่น่าลิ้มลองที่สุดของเกาะคาปรีคือ น้ำมะนาวที่คั้นสด ๆ เสิร์ฟพร้อมเกล็ดน้ำแข็งสุดฉ่ำซึ่งมีรสชาติเปรี้ยวหวานกลมกล่อมกำลังดี หรือจะลองแบบที่แปรรูปเป็นเซอร์เบตมะนาวก็พร่อยไม่น้อย นั่นก็เพราะว่าคาปรีขึ้นชื่อว่าเป็นถิ่นของมะนาวที่มีรสดีที่สุดในโลก
คาปรีขึ้นชื่อว่าเป็นสถานที่ของสินค้าแบรนด์เนมสุดหรูและราคาแพงระยับ โดยเฉพาะที่ จตุรัสอุมแบร์โต (Piazza Umberto)
ที่พักราคาย่อมเยาบนเกาะคาปรีส่วนใหญ่จะตั้งอยู่ในย่านอนาคาปรี ส่วนที่พักในย่านคาปรีสงวนไว้เฉพาะผู้มีอันจะกิน เท่านั้น ยิ่งในฤดูกาลทองเที่ยวระหว่างเดือนกรกฎาคม-กันยายน ของทุกปีราคาจะยิ่งขยับสูงขึ้นไปอีกหลายเท่าตัว
Fast Fact
เส้นทางการไปเยือนเกาะคาปรีที่สะดวกที่สุด คือเริ่มต้นที่ทำอากาศยานสุวรรณภูมิ จากนั้นก็ใช้บริการสายการบินสู่ท่าอากาศยาน นานาชาติฟุยมิซิโนในกรุงโรม ประเทศอิตาลี จากโรมก็โดยสารรถไฟสู่เมืองนาโปลี เมืองชายทะเลทางใต้ของอิตาลี เมื่อถึงนาโปลีก็เปลี่ยนพาหนะอีกครามาเป็นเรือไฮโดรฟอยล์สู่เกาะคาปรี ซึ่งจะใช้เวลาประมาณไม่เกินหนึ่งชั่วโมง ค่าโดยสารคนละ 10-15 ยูโร รายละเอียดการเดินทางสามารถตรวจสอบได้ที่ www.amalficoastweb.com