โอ อนุชิต เผยป่วยเป็นโรคไวรัสลงปลายประสาท ทำปากเบี้ยว หน้าชา แพทย์สั่งกายภาพบำบัด คาด 1 เดือนหาย แจงเหตุเกิดจากพักผ่อนน้อย 

           เมื่อวันที่ 30 ส.ค.53 ที่งานบวงสรวงเปิดกล้องละครเรื่อง "ค่าของคน" ของค่ายเอ็กแซ็กท์ นักแสดงหนุ่ม โอ อนุชิต สพันธ์พงษ์ ที่ร่วมแสดงด้วยนั้น ได้เปิดเผยว่า ตอนนี้กำลังป่วยเป็นโรคไวรัสที่ปลายประสาทคู่ที่ 7 ทำให้ประสาทซีกซ้ายชาจนใช้การไม่ได้ มีอาการปากเบี้ยว หน้าชาครึ่งซ้าย แต่อาการตอนนี้ดีขึ้นแล้ว

           หนุ่มโอ เล่าถึงอาการป่วยของเขาว่า เป็นมาได้ 10 วันแล้ว เริ่มแรกเหมือนนอนตกหมอน ปวดคออยู่ 2 วัน สักพักก็เริ่มปวดหัว แต่ไม่ใช่ปวดหัวจากข้างใน มันปวดที่เส้น จากนั้นเวลายิ้มปากก็จะขยับไม่ได้ อาการต่อมาคือ เวลาล้างหน้าน้ำจะเข้าตาซ้าย แม้ว่าจะหลับตา แต่คือมันหลับไม่สนิท แล้วก็เริ่มเคี้ยวอาหารในปากไม่ได้ ซึ่งอาการเกิดขึ้นภายใน 24 ชั่วโมง

           สำหรับสาเหตุของอาการป่วยโรคไวรัสลงปลายประสาท หรือ ปลายประสาทอักเสบจากเชื้อไวรัส นั้น นักแสดงหนุ่ม กล่าวว่า เกิดจากการพักผ่อนไม่เพียงพอ หรือความเครียด แต่ส่วนตัวแล้ว โอ ไม่ได้เครียดอะไร จึงคาดว่ามาจากการพักผ่อนน้อย ทุกคนสามารถเป็นได้ หากร่างกายอ่อนแอ ส่วนการรักษาแพทย์ให้ยาฆ่าเชื้อไวรัส และให้ทำกายภาพบำบัด จากนั้นอาการจะดีขึ้นภายใน 7 วัน 

           ส่วนแฟนคลับก็ไม่ต้องกังวลใจไป เพราะหนุ่มโอ อนุชิต ยืนยันว่า อาการปากเบี้ยว เพราะไวรัสลงปลายประสาทของเขาจะหายเป็นปกติร้อยเปอร์เซ็นแน่นอน ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 1 เดือน

 

 

           โรค Bell's Palsy เป็นการอักเสบของเส้นประสาทของสมองคู่ที่ 7 ซึ่งทำหน้าที่ควบคุมกล้ามเนื้อบนใบหน้า ปัจจุบันวงการแพทย์ยังระบุแน่ชัดไม่ได้ว่าสาเหตุจริง ๆ เกิดจากอะไรกันแน่ โดยมากพบว่าเกิดจากเชื้อไวรัส โรคนี้เกิดกับคนได้ทุกเพศ ทุกวัย แต่ถ้าเป็นผู้ที่อายุมาก ๆ จะมีโอกาสป่วยเป็นโรคนี้มากกว่าวัยอื่น หากผู้ป่วยทราบถึงความผิดปกติที่เกิดขึ้นกับร่างกายเร็ว และมาพบแพทย์เร็ว ภายใน 2-3 วันแรก การรักษาจะง่าย และจะหายเร็วกว่า แต่หากปล่อยให้นานกว่านี้ คือ 4-5 วัน จะทำให้การรักษายากขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้หายช้ากว่าเดิมนานหลายเดือนเลยทีเดียว
    
           สำหรับความรุนแรงของโรคปลายประสาทอักเสบ คู่ที่ 7 ไม่ได้ทำให้ถึงกับเสียชีวิต อย่างร้ายแรงที่สุดก็คือ ใบหน้าจะเป็นอัมพาตถาวร ซึ่งหากเป็นอัมพาตครึ่งหน้า ก็จะไม่สามารถควบคุมกล้ามเนื้อได้ ปากจะเบี้ยว ยิ้มแล้วปากไม่เท่ากัน ส่งผลต่อบุคลิกภาพพอสมควร

           ส่วนอาการเริ่มต้นของผู้ป่วยโรค Bell's Palsy ส่วนใหญ่จะคล้าย ๆ กัน คือมีไข้ต่ำ ๆ และรู้สึกปวดเมื่อเนื้อตัวคล้าย ๆ เหมือนจะเริ่มเป็นหวัด หลังจากนั้น จะมีอาการปวดแปล๊บ ๆ ที่เส้นประสาท บริเวณหลังหู อาการปวดเหมือนไฟช็อต ไปจนถึงภาวะอัมพาตครึ่งใบหน้า ที่ผู้ป่วยไม่สามารถควบคุมกล้ามเนื้อใบหน้าของตัวเองได้ คือ ยิ้มไม่ได้ รับประทานอาหารลำบาก ดื่มน้ำแล้วรั่วออกมา หลับตาไม่สนิท ฯลฯ

           วิธีการรักษา โรคปลายประสาทอักเสบ คู่ที่ 7 หรือ โรค Bell's Palsy คือ แพทย์จะให้ยาเสตียรอยด์ ควบคู่ไปกับการให้ยาบำรุงปลายประสาทที่อักเสบ และทำกายภาพบำบัด ส่วนการป้องกันนั้น เนื่องจากยังไม่ทราบสาเหตุที่แท้จริงว่าโรค Bell's palsy นี้เกิดจากสาเหตุใดกันแน่ แต่ก็คาดกันว่าน่าจะเกิดจากไวรัสที่ขณะนี้ยังไม่ทราบชนิดที่แน่ชัด ดังนั้น วิธีการป้องกันก็คือ ทำร่างกายให้แข็งแรงและพักผ่อนให้เพียงพอ

           ที่สำคัญอย่าลืมว่า โรคนี้ไม่ได้ไกลตัว สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน หากรู้สึกว่ามีอาการผิดปกติดังกล่าว ควรรีบไปพบแพทย์ในทันที