พัคจินยอง (JYP) ออกแถลงการณ์ กรณี 'แจบอม (Jae Bum) อดีต 2PM

พัคจินยอง (JYP) ออกแถลงการณ์ กรณี 'แจบอม (Jae Bum) อดีต 2PM' เป็นครั้งแรก

 

 

*ความเห็นสวนตัว : คำว่า เข้าใจ และ ให้อภัย ควรอยู่คู่กับสังคมมนุษย์ ค่ะ

 

 

แจบอม (Jae Bum) รู้สึกขอโทษเป็นอย่างมากต่อแฟนๆและชาวเกาหลีในขณะที่เขาต้องลาออกจากการเป็นสมาชิก 2PM และต้องเดินทางกลับสหรัฐอเมริกา

10 กันยายน 2552 พัคจินยอง (Park Jin Young) อัพเดทข้อความในเว็บไซต์ JYP Entertainment เปิดเผยถึงสาเหตุที่เขาเลือกแจบอมให้เดบิวพร้อมทั้งเรื่องราวต่างๆ โดยเฉพาะพัคจินยองเปิดเผยว่าสำหรับเรื่องราวของแจบอมที่เกิดขึ้นนั้นเขารู้สึกเสียใจเป็นอย่างมากต่อแฟนๆและชาวเกาหลี

 

ต่อไปนี้คือข้อความแถลงการณ์ของพัคจินยอง

เหตุผลที่ผมให้แจบอมเดบิว

ผมรู้สึกช็อคมากกับข้อความของแจบอมที่เขียนไปยังเพื่อนเขาเมื่อ 4 ปีที่แล้ว แน่นอนไม่ว่าใครก็คงช็อคเหมือนกัน สำหรับตัวผม ถ้าเป็นคนบันเทิงอื่นๆเมื่อได้เห็นข้อความแบบนี้คงจะรู้สึกโกรธ รู้สึกว่าเหมือนถูกทรยศ แต่ว่าสำหรับผมแล้ว ผมรู้จักแจบอมมาเป็นเวลานานครับ ทำให้ข้อความเหล่านี้มันไม่ได้ทำให้ผมแปลกใจเลย มันเป็นเพราะว่าผมรู้ว่าแจบอมของเราเคยเป็นเด็กแบบนี้มาก่อน

ย้อนกลับไปเมื่อตอน 4 ปีก่อนที่แจบอมมายังประเทศเกาหลี แจบอม เป็นเด็กที่แย่หัวรั้นและชอบแหกกฏมากจริงๆครับ สำหรับเขา เขาชิงชังในเกาหลี ชิงชังในบรรดาศิลปินฝึกหัด ชิงชังต่อบรรดาทีมงานในบริษัท ถึงแม้กระทั่งผมก็ยังไม่เว้นครับ และดูเหมือนว่าสำหรับอาชีพคนบันเทิงเขาก็ยังรู้สึกชิงชังต่อสิ่งนี้ด้วยเหมือนกันครับ สำหรับเขาแล้วยิ่งกว่าการได้เป็นคนบันเทิง เขาอยากจะเป็นเพียงเด็กข้างถนนที่เต้นบีบอย (B-Boy) มากกว่าครับ เขามักจะทะเลาะกับ ทีมงานในบริษัท, บรรดาครูฝึก นับครั้งไม่ถ้วนเลยครับ ยิ่งไปกว่านี้เวลาเขามีเรื่องกับทีมงานบางครั้งก็ถึงขั้นที่พูดว่าเดี๋ยวคราวหน้าเห็นดีกันก็มี และยิ่งไปกว่านั้นถ้าเขาไม่พอใจอะไรในบริษัทเราเขาก็จะเอ่ยชื่อของบริษัทอื่น จนถึงขั้นที่เขาเคยบอกให้เราสั่งให้เขาย้ายไปบริษัทอื่นก็มีครับ

เหนืออื่นใดสิ่งที่ทำให้เราตกใจมากที่สุด เมื่อเราถามเขาเกี่ยวกับเป้าหมายความสำเร็จในชีวิต เขาตอบ 'ถ้าผมไม่ได้รับเพลงของคุณพัคจินยอง ผมก็คงประสบความสำเร็จได้' จนถึงตอนนั้นบรรดาทีมงานในบริษัทก็มาคันค้านกับผมว่าทำไมถึงต้องรับเด็กที่แย่ๆแบบนี้เข้ามาด้วย และเพราะเหตุการณ์ทั้งหมดที่ผมเล่ามาก็เป็นประมาณนี้ ทำให้ในตอนที่ผมได้ยินคำพูดของเขาที่เขียนต่อเพื่อนในตอนนั้นมัน ผมกลับไม่ได้รู้สึกแปลกใจอะไรเลยครับ

ถ้าเช่นนั้นทำไมผมจึงรับเด็กประเภทนี้เข้ามา

ผมชอบเด็กที่ดื้อหัวรั้นครับ ผมไม่ชอบเด็กที่ดูดีแต่เพียงภายนอกแต่ภายในจิตใจเขาอาจจะคิดอะไรไม่ดีอยู่ แต่ผมกลับชอบเด็กที่กวนประสาทต่อหน้าผมตรงๆมากกว่า เพียงแค่ได้แสดงความรู้สึกออกมาอย่างเป็นธรรมชาติและตรงไปตรงมา มันทำให้ผมคิดว่าผมมีความหวังมากกว่า ซึ่งแจบอมก็เป็นเด็กที่มองคนอื่นด้วยความชิงชัง และเขาก็ได้แสดงความรู้สึกนั้นออกมาอย่างตรงไปตรงมา นั่นแหละครับที่ผมชอบ นักร้องในบริษัทเรา รวมถึงศิลปินฝึกหัด กับประโยค 'ถ้าผมไม่ได้รับเพลงของคุณพัคจินยอง ผมก็คงประสบความสำเร็จได้' จะมีใครกล้าพูดไหม? สำหรับผมแล้วความจริงผมว่านี่มันเป็นเรื่องตลกมากเลยครับ กับเด็กหัวรั้นคนหนึ่งที่มีพละกำลังอย่างเปี่ยมล้น แต่เขากลับไม่สามารถหาโอกาสที่จะได้ถ่ายทอดพลังเหล่านั้นได้มากนัก อีกทั้งเขาก็ต้องเจอกับเหตุการณ์ที่ไม่เคยมีใครเชื่อใจเขาและสามารถส่งเขาไปยังจุดหมายได้ ดังนั้นผมจึงอยากมอบความสนุกให้กับเขาให้ได้สัมผัสเมื่อตอนอยู่บนเวที ซึ่งถ้าผมและทีมงานในบริษัทแค่มอบความเชื่อใจให้กับเขาผมก็คิดว่ามันต้องมีความหวัง

สำหรับในโลกของแจบอมมีคนอยู่เพียงสองประเภท คนในครอบครัวของเขา และ คนนอกครอบครัวของเขา สำหรับตัวผมแล้วผมว่าครอบครัวของเขามีความหมายต่อเขามาก เหตุผลที่เขาเคยพูดในการให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับเรื่องเงินที่ผ่านมา มันไม่ใช่เพราะเขาจะเอาไปซื้อรถเท่ห์ๆ เสื้อผ้าเท่ห์ๆ แต่เขาอยากเอาไปให้พ่อแม่ที่เคยต้องยากลำบากในชีวิตมาก่อน และนั่นเองคือสิ่งที่ทำให้เขาอยากจะเป็นนักร้องมากที่สุด และเพราะเช่นนั้นทำให้เขาฝึกซ้อมอย่างหนักกว่าใครๆ ถึงแม้จะหัวรั้นแต่เขาก็เป็นคนที่ทำได้ดีที่สุดกับการซ้อม

เมื่อผมมองสิ่งเหล่านี้ผมมีความคิดผุดขึ้นมา ''ถ้าสมมติว่าคนในบริษัท ศิลปินฝึกหัด ไปจนถึงคนในชาติ ได้ทำให้เขาคิดว่าคนเหล่านี้คือคนในครอบครัวของเขาล่ะ เด็กคนนี้จะต้องเป็นเด็กที่น่าทึ่งแน่ๆ' มันทำให้ในวันนั้นผมเดินเข้าไปบอกกับเขาว่า "แจบอม การที่จะเป็นคนในครอบครัวได้ไม่จำเป็นว่าเราต้องมีสายเลือดเดียวกัน ได้โปรดคุณต้องเปิดใจของคุณก่อน แล้วคนอื่นๆก็จะกลายเป็นครอบครัวของคุณได้" ในขณะที่ผมพยายามทำแบบนี้ทีละน้อยๆ แจบอมก็เริ่มเปลี่ยนไปทีละน้อยๆเช่นกัน จากที่เขาไม่เคยสนใจเพื่อนๆเขาก็เริ่มกอดเพื่อนๆของเขา ทีมงานในบริษัทก็เหมือนกัน เขาเริ่มพูดคุยในเรื่องราวต่างๆ และเริ่มที่จะชอบกับการที่ได้อยู่บนเวที อาการแสดงออกที่คุ้นเคยได้ถูกสลัดออกเมื่อเขาเริ่มขึ้นไปเฉิดฮายอยู่บนเวทีจากการร้องและเต้น การได้พบกับเสียงเพลง รวมถึงการได้พบกับเพื่อนรวมงานที่ดี มันทำให้พลังงานที่ถูกปิดกั้นเอาไว้ได้ถูกส่งถ่ายผ่านมาบนเวทีอย่างพรั่งพรู และมันทำให้ผมตัดสินใจให้เขาเดบิวเป็นหัวหน้าวง สมาชิกที่เหลือ 6 คนให้ความเชื่อใจเขาและเดินตามผู้นำ หลังจากเดบิวไม่ว่าจะมีการฝึกซ้อมอะไรเขาก็มักจะคิดถึงน้องๆก่อนเสมอๆ หลังจากที่เขาเริ่มทำกิจกรรมเขาก็สัมผัสได้ถึงหัวใจอันแสนอบอุ่นที่ทีมงานทุกคนได้มอบให้ สัมผัสของความรักที่เขาได้รับจากแฟนๆ บรรดาคนที่ดี เพื่อนร่วมงานที่ดี และการได้พบกับแฟนๆที่ดี เหนือสิ่งอีกใด การได้พบกับเสียงเพลง และนั่นคือสิ่งที่ทำให้เขาเปลี่ยนแปลงไปในที่สุด

แต่ราวกับนิยายความสุขของเขาได้สิ้นสุดลงเมื่อมีสิ่งที่เกิดขึ้นราวกับฉากหนึ่งในภาพยนตร์ ข้อความเมื่อ 4 ปีที่แล้วของเขาถูกเปิดเผยออกมา เขารู้สึกเสียใจอยู่ตลอดเวลา, กับสมาชิก 2PM, ตัวผม, ทีมงานในบริษัททุกคน, แฟนๆ และเหนือสิ่งอื่นใดความอบอุ่นที่เขาได้รับจากคนเกาหลี เขาคิดว่าถ้าอยู่ในที่ตรงนี้ไปนานกว่านี้ เขาบอกว่าเขาอาจจะทำให้ 2PM ถึงกับถูกเกลียดไปเลยก็เป็นได้ และเหนือสิ่งอื่นใดเขาบอกว่าเขาไม่มีความมั่นใจเมื่ออยู่บนเวทีอีกต่อไปแล้ว ทุกสิ่งที่เขาพูดออกมาผมรู้ดีและนั่นมันทำให้ผมไม่สามารถรั้งเขาเอาไว้ ซึ่งถ้าผมเป็นเขาผมก็จะตัดสินใจในแบบเดียวกับเขาเช่นกัน ดังนั้นเขาจึงจากไป เขาส่งอีเมล์ครั้งสุดท้ายมาถึงผม เขากล่าวว่า 'เมื่อก่อนผมเป็นคนกวนประสาทใช่ไหมครับ? ผมขอโทษนะครับ เพราะพี่ทำให้ผมเปลี่ยนความคิดในการใช้ชีวิตไปมาก มันทำให้ผมได้เปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีเป็นอย่างมาก และมันทำให้ผมแข็งแกร่งขึ้นมากด้วยครับ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาทุกสิ่งที่ได้มอบให้กับผม ผมอยากขอบคุณด้วยหัวใจครับ' เขาเขียน มันเป็นอะไรที่ฉีกหัวใจผมได้อย่างเจ็บปวดมากครับ อย่างไรก็ตามผมสัมผัสได้ถึงความรู้สึกของทุกคนกับข้อความที่เขาได้เขียนเอาไว้ มันเหมือนเป็นการทรยศ ผมไม่สามารถพูดอะไรได้อีก

อย่างไรก็ตามสิ่งที่ผมจะสามารถพูดกับทุกๆคนได้ด้วยความสัตย์จริงคือทุกสิ่งที่คุณเห็นแจบอมใน TV นั่นไม่ใช่การเสแสร้งของเขา เขาอาจจะหัวรั้นแต่เขาไม่เสแสร้ง มันเป็นเพราะเขาไม่ซ่อนอารมณ์ที่อยู่ภายในใจของเขา เมื่อเขาไม่พอใจอะไรเขาจะแสดงออกมาตรงๆ เมื่อหัวใจของเขามีความอบอุ่นเขาจึงแสดงออกมาต่อทุกคนได้เป็นอย่างดี เหตุผลที่ผมออกมาเขียนในตอนนี้ไม่ได้เพื่อให้ทุกคนเปลี่ยนความโกรธ และผมก็ทราบดีว่ามันคงไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรกันได้ง่ายๆ เพียงแต่บางที ผมแค่หวังว่า ไม่ว่าแจบอมจะอยู่ที่ไหนเขาจะได้ไม่ต้องถูกมองด้วยสายตาอันเย็นชา

สำหรับชาวเกาหลีที่ยังคงมีความโกรธ สำหรับแฟนๆที่ยังคงมีความสูญเสีย ผมรู้ดีครับ ผมติดตามและรับฟังการพูดคุยของทุกคนอยู่ตลอดเวลา อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ สิ่งที่สำคัญที่สุดนั้นคือ พัคแจบอม ไม่ได้เป็นของ 2PM อีกแล้ว แต่เขาเป็นเพียงเด็กหนุ่ม พัคแจบอม เท่านั้น สำหรับแจบอมการที่เขามีความต้องการที่จะกลับไปพิจารณาตัวเองนั้นคือสิ่งที่สำคัญที่สุด สำหรับผมกับสิ่งที่เขาต้องการนั้น ผมหวังว่าทุกคนจะเคารพในการตัดสินใจของแจบอมกันด้วยนะครับ

สุดท้ายได้โปรดรับคำขออภัยจากผมไปยังคนทุกคนอีกครั้งด้วยครับ

JYP [??]

v

v

 

 

 

 

Jae Bum

v

v

 

Credit: PINGBOOK ENTERTAINMENT
12 ก.ย. 52 เวลา 06:18 4,001 5 72
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...