(บทความนี้จัดอันดับเองตามความรู้สึกคนเขียน ดังนั้นหากผู้ที่จะประสงค์เผยแพร่ควรอนุญาตแก่ผู้เขียนทุกครั้ง และไม่ควรไปโพสที่อื่นโดยไม่ใส่เครดิต บทความนี้ผมขอครับ)
บางครั้งโลกออนไลน์ก็ใช่ว่าจะเป็นโลกเสรีอย่างที่คิด เมื่อความคิดหรือสิ่งที่คุณพูดอาจมีผลกระทบต่อใครในหลายๆ คนในโลกอินเตอร์เน็ต บางหัวข้อเป็นสิ่งที่ไม่ควรห้ามโดยบริยายไม่ว่าจะเป็นเว็บไซต์หรือกระทู้ไหนก็ตาม หากคุณพบว่าสิ่งที่คุณพูดเกี่ยวข้องกับ 10 อันดับนี้แหละก็ควรหยุดพูดทันที มิฉะนั้นมันจะลุกลามกลายเป็นไฟสงครามในโลกอินเตอร์เน็ต และต่อไปนี้คือ 10 หัวข้อที่ไม่ควรพูดถึงในอินเตอร์เน็ต ไม่ว่า ในเอ็ม กระทู้ หรือเว็บไซต์ใดในอินเตอร์เน็ต เพราะคนที่ฟังมันจะจิ๊ดขึ้นหูและเกิดเป็นสองฝ่ายและก็โต้เถียงไม่จบสิ้น(แม้สิ่งที่คุณเขียนจะเป็นเรื่องจริงก็เถอะ)
ศัพท์ในบทความนี้
ดราม่า-กระทู้ยาวและเครียด โต้กันดุเด็ดเผ็ดมัน
เกรียน-บุลคลที่มีพฤติกรรมก้าวร้าว ก่อกวน ไร้เหตุผล หรือคิดว่าตัวเองเป็นศูนย์กลางของสังคมอินเทอร์เน็ต บุคคลกลุ่มนี้จะใช้อารมณ์มากกว่าเหตุผลหรือการวิเคราะห์ไตร่ตรอง นอกจากนี้ยังอาจหมายถึงบุคคลที่ชอบแสดงตัวว่ามีความรู้ ทั้งที่ในความเป็นจริงไม่มีความรู้ดังกล่าวเลย หรือมีเพียงผิวเผินเท่า(และพอดีผมก็เป็นบุคคลนี้เหมือนกัน ฮ่าๆ)
ออกทะเล-ในโลกออนไลน์หมายถึงการตอบโดยเบี่ยงประเด็นไปเรื่องอื่นๆ
ตะวันออกกลาง
ทุกคนมีความคิดเห็นเกี่ยวกับตะวันออกกลาง ยิ่งเรื่องปาเลสไตน์กับอิสราเอลนี้ยอมความกันไม่ได้ แม้ว่าจะเป็นเรื่องขัดแย้งกันมาไม่ถึงพันปีก็ตาม แต่ว่ามันก็นำมาซึ่งหายนะชีวิตและทรัพย์สินของผู้คน และหัวข้อเดือดที่มักก่อเกิดดราม่าที่สุดในอินเตอร์เน็ตมากที่สุดก็คือ ปาเลสไตน์ชั่ว. ยิวชั่ว, พื้นที่แค่นี้จะเอาไปทำไม, อาหรับเลว, กฎหมายอิสลามไร้สาระ ฯลฯ และผมไปเจอมากลับตัวเลยในเอ็ม พูดดีคู่สนทนาเขาไปตะวันออกกลาง ผมเลยถามเล่นๆ ว่าทำไมอิสราเอลกับปาเลนไตน์ถึงเกลียดกัน เท่านี้แหละเขาร่ายยาวสุดๆ แถมพาออกทะเลเรื่องอเมริกันอีก(จนไม่คิดว่าคู่สนทนานั้นสนใจหรือเปล่า)
พระเยซูคริสต์
ยังเป็นหัวข้อที่พูดมากที่สุดในประวัติศาสตร์และยังเป็นบุคคลเดียวที่ทำให้เกิดเสียงแตกแยกที่สุดในโลกออนไลน์ด้วยเช่นกัน หลายหัวข้อของพระองค์กลายเป็นกระทู้ดราม่า โต่เถียงอย่างดุเดือดชนิดยอมความกันไม่ได้ เช่นคนเขียนดาวินซีโค๊ตเขียนเรื่องสายเลือดพระเยซูทั้งที่เรื่องเป็นเรื่องแต่งเพื่อความบังเทิง หากแต่เหล่าคริสตชนรับไม่ได้และออกโรงมาด่าในกระทู้อินเตอร์เน็ตเพียบ ว่าเป็นเรื่องไม่ถูกต้อง บิดเบื้อนศาสนา เป็นมารศาสนา ฯลฯ
การครอบครองอาวุธปืน
ความจริงแล้วเป็นหัวข้อฮิตของอเมริกา เพราะว่าอาวุธปืนสำหรับที่นั้นแทบจะเป็นของจำเป้นสำหรับประเทศของพวกเขา หากแต่ตอนนี้ประเทศไทยก็เริ่มมีหัวข้อนี้แล้วเช่นกัน ด้วยคำถามเดียว คือ ความเข้มงวดกฎหมายอาวุธปืนหรือไม่ เพียงเท่านี้มันก็ร่ายยาวจนเกิดดราม่าในที่สุด ผมเป็นหนึ่งที่เคยพบเหมือนกันในเอ็มอีกแหละว่าที่ดันมีคู่สนทนาคนหนึ่งชอบปืนและพูดหัวข้อนี้พอดี ประมาณว่าตอนนี้ประเทศไทยเราโจรระบาดยิ่งกว่าโรคภัย ตำรวจคุ้มครองประชาชนไม่ไหว ถึงเวลาหรือยังที่ควรมีกฎหมายครอบครองอาวุธปืนได้แล้ว เป็นต้น(บ่นผมไปก็เท่านั้นครับเพ่ ผมไม่ใช่รัฐบาลนี้น่า)
รักร่วมเพศ
หรือความสนใจของคนในเพศเดียวกันหรือรสนิยมทางเพศ ซึ่งก็ไม่สามารถอธิบายเหตุผลได้ ได้คาดว่าเรื่องแบบนี้นั้นสังคมสมัยก่อนรังเกียจมาก แม้ว่าปัจจุบันสังคมยังคงเปิดมากเหมือนแต่ก่อน แต่ว่ากระนั้น ก็มีใครบางคนที่รังเกียจเรื่องพวกนี้อยู่ ไม่ว่าจะเป็น คนเคร่งศาสนา, ฮูลิแกน ที่พร้อมที่จะขย้ำคุณเมื่อคุณพูดเรื่องพวกนี้
เชื้อชาติ
โลกเราที่เราอยู่ทุกวันนี้ มักทะเลาะกันเนื่องจากมีความแตกต่างกันในด้านชาติพันธุ์ ไม่ว่าจะเป็นประเทศ, สีผิว, ขนาดรูปร่างใบหน้ากล้ามเนื้อ ตัวอย่างเช่นคนผิวขาวกับคนผิวดำ แต่ถ้าจะเอาแบบเป็นตำนานกัดกันในโลกออนไลน์คงจะเห็นไม่เกินญี่ปุ่นกับเกาหลีที่สองประเทศนี้มีระบบออนไลน์ที่ทันสมัยและโจมตีอย่างดุเดือดมาช้านาน อย่างตัวอย่างลิงค์ด้านล่างคือสงครามระหว่างญี่ปุ่นและเกาหลีในโลกออนไลน์ที่เล่นกันถึงขั้นปล่อยไวรัสคอมพิวเตอร์!!
http://drama-addict.com/?p=9489
เรื่องเพศ
มันคงเครียดพิลึกถ้าพูดเรื่องประสบการณ์ทางเพศในเว็บหรือกระทู้อื่นๆ เช่น มีแฟนอายุ 13 ได้, เสียก่อนอายุ 15, ไปทำแท้งมาค่ะ หัวข้อเหล่านี้ช่างไม่สนุกสนานเอาเสียเลย ยิ่งเป็นเรื่องแท้งคนเคร่งศาสนายิ่งไม่ชอบ เพราะมันเกี่ยวพันถึงชีวิตและความตาย
หายนะ
บางครั้งเหตุการณ์ในอดีตไม่ควรจะคิดถึง แม้หายนะเหล่านั้นควรจะจดจำแก่ชนรุ่นหลังก็ตาม เช่น สงครามนานกิง ล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิว สังหารหมู่ ฯลฯ แม้เป็นเรื่องนานมาแล้ว แต่มันก็ยอมความกันไม่ได้ มันอ่อนไหวต่อความรู้สึกของคนหลายคน เช่น เมื่อปี 2001 โคอิซูมิ จุนอิชิโรนายกรัฐมนตรีของประเทศญี่ปุ่นได้ไปสักการบูชาอาชญากรสงครามที่ศาลเจ้ายาสุกูนิ กรุงโตเกียว แน่นอนว่าเกิดการประท้วงอย่างรุนแรงจากเหยื่อจากประเทศที่ญี่ปุ่นรุกรานทั้งหลายแหล โดยเฉพาะจีนและเกาหลี แต่นายโคอิซูมิไม่ยักขอโทษหรือแสดงความเสียใจสักนิด ทำให้ประชาชนในประเทศเหล่านั้นพากันด่า จนเป็นเหตุทำให้ความสัมพันธ์ของประเทศเหล่านั้นและญี่ปุ่นเลวร้ายลงไปอีก และเรื่องเหล่านี้ก็ก่อให้เกิดสงครามโลกออนไลน์ตามมา
การเมือง
การเมืองการปกครองก็ยังเป็นหัวข้อดราม่าที่ไม่ควรตั้ง แต่คนก็ชอบตั้งเหลือเกิน ไม่รู้เป็นเพราะอะไร นั้นอาจเป็นเพราะมนุษย์เราเป็นสัตว์สังคมที่ต้องการมีส่วนร่วมกับการเมือง อยากแสดงความคิดเห็นสถานการณ์บ้านเมืองในขณะนั้น ว่าเราอยู่ฝ่ายไหน อีกทั้งการเมืองเป็นเรื่องของอำนาจ ผลประโยชน์ดังนั้นจึงต้องมีการต่อสู้กันเพื่อให้ได้อำนาจและอิทธิพล เรียกร้องความสนใจ แม้จะเป็นโลกออนไลน์ก็ช่าง ในประเทศไทยหัวข้อที่เรามักนำมาตั้งที่สุดก็เช่น เสื้อแดงเสื้อเหลือง, รัฐบาล, โจมตีใส่ร้ายป้านสี, ระบอบการปกครอง
วิวัฒนาการมนุษย์
ตั้งแต่ชาลส์ ดาร์วินประกาศแนวคิดการคัดเลือกโดยธรรมชาติ และมนุษย์มาจากลิง(ที่เขาบอกแค่ว่าเป็นแค่แนวคิดไม่มีหลักฐานใดสนับสนุนแนวคิดนี้) หากแต่ในหนังสือเรียนของเรานั้นบอกว่าคนวิวัฒนาการมาจากลิง แน่นอนว่าแนวคิดนี้หลายฝ่ายไม่ยอมรับแน่นอนเนื่องจากสมัยนี้มีหลักฐานต่างๆ มาคัดค้านแนวคิดของดาร์วินมากมาย เนื่องจากมีการค้นพบซากฟอสซิลอะไรใหม่ๆ หลายอย่าง และคนเคร่งศาสนายังคงเชื่อเรื่องเชื่อว่าพระเจ้าทรงเป็นผู้สร้างชีวิตอยู่ ผมเคยเห็นหัวข้อนี้ในเว็บไซต์หนึ่งในพันทิปมันเล่นเอาโชว์เก๋าเอาศัพท์วิชาการและข้อมูลวิจัย(ภาษาอังกฤษ)เขียนกันกระจายเลย ผมดูไปอึ้งไปว่าเด็กสมัยนี้ฉลาดขนาดนี้เลยเหรอ แล้วทำไมประเทศชาติไม่เจริญเสียที
ศาสนา
ศาสนายังคงเป็นเรื่องละเอียดอ่อนและไม่ควรมาพูดมาที่สุดในโลกออนไลน์มากที่สุด โดยเฉพาะหากเรื่องที่คุณเขียน(พูด)ไม่มีมูลล่ะก็ถือว่าไม่ควรอย่างยิ่ง และไม่ควรเปรียบเทียบศาสนาอื่นๆ เช่นศาสนาคริสต์นับถือพระเจ้า แต่ในขณะที่ศาสนาพุทธไม่ได้นับถือพระเจ้า และไม่ควรลบหลู่ศาสนาอื่นๆ หรือสงสัยในสิ่งที่ค่อนข้างตอบได้ยาก เช่นสงสัยว่าศาสนาพุทธห้ามฆ่าสัตว์แต่ทำไมกินเนื้อสัตว์ได้ หรือคำสั่งลับวาติกันกับศาสนาพุทธในประเทศไทย เป็นต้น(ลองไปดูกระทู้หัวข้อนี้ดูนะครับ)
ในขณะที่คุณเขียนบทความศาสนาสิ่งแรกที่คุณเผชิญคือพวกเคร่งศาสนาหรืออาจพวกเกรียน ต่อให้ข้อมูลที่คุณเขียนนั้นจะถูกหรือมีในบทความเว็บอื่นก็ตาม ก็เหมือนผมแหละเขียนมากว่า 100 ตอน พอเขียนเรื่องศาสนาตอนหนึ่งเขียนผิด 2-3 ประโยคนี้ด่าอย่างกับผมไม่ใช่คน นี้แหละตรงกับสุภาษิตที่ว่าทำดี 100 ครั้งไม่เท่ากับทำชั่วครั้งเดียว(ศาสนาไม่ช่วยสอนให้คนอดทนเลยเหรอ?)
แมนยู VS ลิเวอร์พูล
เมื่อบอลแพ้แต่คนไม่แพ้ หัวข้อนี้ก็ยังคงน้ำเน่าที่สุดในโลกออนไลน์ กับหัวข้อทีมฟุตบอลของฟรีเมียร์อังกฤษที่ได้รับความนิยมของโลก กับทีมที่มีผลงานดีและได้รางวัลต่อเนื่อง(แมนยู) กับทีมที่มีชื่อเสียงและรางวัลในอดีตหากแต่ปัจจุบันผลงานดีบ้างไม่ดีบ้าง(ลิเวอร์พูล) ก็ยังไม่วายพูดจาข่ม พูดจาสาดโคลนกันอย่างเมามัน ถ้าวันไหนทีมไหนแพ้มันต้องเข้ามาทับถม ด่าว่ากระจาย ด้วยคำเดียวที่จิ๊ดขึ้นสมองว่า “อ่อน” ไหนว่ากีฬาช่วยสร้างสามัคคีไงเล่า!!
ผู้แต่ง : Cammy