นายกสภาทนายความ แนะหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้ความรู้ประชาชน เรื่อง พ.ร.บ.ภาพยนต์และวีดีทัศน์ พ.ศ.2551 ว่าต้องทำการขออนุญาตอย่างไร
นายสัก กอแสงเรือง นายกสภาทนายความ ในพระบรมราชูปถัมภ์ กล่าวถึงกรณี นายสุรัตน์ มณีนพรัตน์สุดา พนักงานเก็บขยะ กรุงเทพมหานคร และนายสมชัย นันทวนิชย์ ลูกจ้างร้านขายอะไหล่รถยนต์ นำหนังแผ่นซีดีภาพยนตร์ที่เก็บได้ นำไปขาย และถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมดำเนินคดีตามกฎหมาย พ.ร.บ.ภาพยนต์และวีดีทัศน์ พ.ศ.2551 จนศาล มีคำพิพากษาให้ปรับเงินนับแสนบาท ว่าจากกรณีดังกล่าวนี้ ได้มีการวิพากษ์วิจารณ์ ต่อบทบัญญัติของกฎหมายฉบับนี้และการทำหน้าที่ของกระบวนการยุติธรรม ที่ก่อให้เกิดความรู้สึกไม่เป็นธรรมต่อประชาชน โดยมีประชาชนจำนวนมาก ที่ยังไม่ทราบข้อเท็จจริง และไม่ทราบกฎหมายที่มีบทลงโทษรุนแรงทางอาญา ที่มีผลกระทบต่อวิถีชีวิตของประชาชน
โดยสภาทนายความ เห็นว่าควรจะมีวิธีการแก้ไข เพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ถูกต้อง และการบรรเทาแก้ไขเกี่ยวกับตัวกฎหมายและมาตรการวิธีการบังคับใช้กฎหมาย จากผู้ที่มีอำนาจหน้าที่และผู้เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน ให้เกิดความถูกต้องเป็นธรรม ที่ต้องร่วมกันทำให้ประชาชนเข้าใจในข้อกฎหมายโดยรายละเอียด เพราะชาวบ้านธรรมดาไม่เข้าใจว่า แผ่นวีซีดีภาพยนตร์และเกมส์ คาราโอเกะ ต้องขออนุญาตแบบใด รวมทั้งการตรวจสอบคุณสมบัติการปฏิบัติของตัวคนที่ขอ โดยแจ้งถึงระเบียบการ และค่าใช้จ่าย หรือ ค่าธรรมเนียมในขั้นตอนการอนุญาตให้ถูกต้องตามกฎหมาย
พร้อมทั้งเตือนไปยังประชาชน หากถูกจับในคดีลักษณะนี้ ถือว่ามีสิทธิ์ ขอให้ตำรวจและร้อยเวร แจ้งสิทธิ์ให้ทราบว่า ข้อหาที่ถูกจับมีรายละเอียด และมีโทษปรับเท่าใด และท่านมีสิทธิ์ที่จะพบทนายความเพื่อขอคำปรึกษาแนะนำทางกฎหมาย