สภาพปัจจุบัน ของวัยรุ่นที่ถูกทำร้าย

ญาตินักศึกษาที่ถูกกลุ่มวัยรุ่นเมืองพิษณุโลก จับโยนลงตึก และรุมตืบซ้ำ ระบุ คู่อริลงมือทำร้ายอย่างโหดเหี้ยม เผย หลานชายได้รับกระทบกระเทือนทางสมอง

(10ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีนายธีรยุทธ์ ฮวดอ้น อายุ 21 ปี วัยรุ่นใน ต.บึงพระ อ.เมืองพิษณุโลก หนึ่งในผู้ต้องหาที่ยกพวกกว่า 15 คน ไปรุมทำร้ายนายศุภกานต์ แป้นเมือง อายุ 19 ปี นักศึกษาสถาบันชื่อดังแห่งหนึ่งใน จ.พิษณุโลก ที่หอพักย่านวิทยาลัยเทคนิคพาณิชยการพิษณุโลก บริเวณถนนมิตรภาพ ซอย 4 อ.เมือง จ.พิษณุโลก จนหล่นลงมาจากชั้นสองกระแทกพื้น ก่อนช่วยกันรุมทำร้ายซ้ำอย่างโหดเหี้ยม จนได้รับบาดเจ็บสาหัส และภาพจากกล้องวงจรปิดสามารถจับภาพเอาไว้ได้นั้น

ล่าสุดนางสนิท แป้นเมือง ย่าของผู้ได้รับบาดเจ็บ เปิดเผยว่า ขณะนี้หลานชายมีอารมณ์แปรปรวน เดี๋ยวดี เดี๋ยวโมโหง่าย เปลี่ยนไปเป็นคนละคนก็ว่าได้ เพราะก่อนหน้าที่หลานชายจะถูกรุมทำร้าย จะมีนิสัยร่าเริง และทำงานช่วยเหลือตนทุกอย่าง แต่หลังจากถูกรุมทำร้ายจนทำให้สมองได้รับความกระทบกระเทือน ก็กลับเป็นคนที่โมโหง่าย และจำความอะไรไม่ค่อยได้

“หลังเกิดเหตุ หลานชายถูกทำร้าย ฉันเพิ่งมาทราบเรื่องหลังจากนั้นประมาณ 2 วัน เพราะลุงเขาปิดเรื่องไว้ เนื่องจากกลัวว่าฉันจะช๊อกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และเมื่อเดินทางไปเยี่ยมหลานชายที่โรงพยาบาล ครั้งแรกต้องยอมรับเลยว่า ไม่นึกว่าเป็นหลานชาย สภาพบวมปูด ใบหน้าจำแทบไม่ได้เลย ซึ่งปัจจุบันหลานชายคนนี้ก็อยู่ด้วยกันตลอด ส่วนบิดาเขาก็ไม่ค่อยได้เดินทางมาบ้าน เนื่องจากติดธุระเรื่องงาน เพราะงานเขายุ่งมาก” ย่าของผู้บาดเจ็บ กล่าว

นางสนิท กล่าวอีกว่า สำหรับอาการของหลานชายนั้น ขณะนี้แพทย์ ได้ให้การช่วยเหลือในการบำบัด และฟื้นฟูร่างกาย รวมทั้งได้เข้ามาช่วยเหลือฟื้นฟูในเรื่องของความจำอีกด้วย ทำให้ตนเองนั้น ต้องขาดรายได้ไปบางส่วน เนื่องจากไม่สามารถทำขนมไปขายได้ เพราะต้องคอยมาดูแลหลานชาย ที่ยังไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้

อย่าง ไรก็ตาม สำหรับผู้ที่ก่อเหตุทำร้ายร่างกายหลานชายนั้น ขณะนี้ทราบว่า ตำรวจจับกุมคนร้ายเอาไว้ได้ 7 รายแล้ว โดยหัวหน้าแก็งมีอายุ 21 ปี นอกนั้นเป็นเยาวชนทั้งหมด

“ฉันอยากจะถามว่า เยาวชนพวกนี้ ฆ่าคนไม่ตายหรือยังไงคะ และเหตุการณ์แบบนี้ ก็ไม่น่าจะเกิดขึ้นเลย ซึ่งถือว่าเป็นการกระทำที่โหดเหี้ยมมาก และหากเรื่องนี้เกิดขึ้นกับญาติของเขาบ้าง อยากจะทราบว่า เขาจะรู้สึกกันยังไง ทั้งนี้ หลังจากเกิดเหตุทางญาติฝ่ายผู้ก่อเหตุ ก็ยังไม่มีใครติดต่อเข้ามาเลย” ย่าสนิท กล่าว

ขอบคุณเนื้อหาข่าวจาก คมชัดลึก