แม้ว่าอาหารที่เรารับประทานกันทุกๆ วันนั้นบางอย่างอาหารแม้จะได้ชื่อว่าเป็นยาธรรมชาติก็ตามทีเหอะ แต่ถ้าเรากินกันไม่เหมาะกับอาการ กลับจะมาเพี่มปัญหาสูขภาพให้กับเราอีก ดังอาการทั้งสามต่อไปนี้นะครับ
ท้องผูก vs ข้าวสาลี
สาเหตุหนึ่งของอาการถ่ายไม่ออกหรือถ่ายยากเป็นเพราะการกินอาหารที่มีกากใยน้อย ดังนั้นการกินข้าวสาลีซึ้งมีโปรตีนกลูเตนสูงจึงยี่งทําให้อุจจาระเหนียวแข็งและท้องผูกมากขึ้นครับ
ควรกินอาหารที่มีกากใย เช่น ข้าวกล้อง ผักบุ้ง ถั่วฝักยาว นํ้าเอนไซม์ และอาหารที่มีสารหล่อลื่น เช่น ฟักทอง มัน กระเจี๊ยบเขืยว เพื่อช่วยให้อุจจาระอ่อนตัวลงและขับถ่ายง่ายครับ
ภาวะเลือดจาง vs ปวยเล้ง
ภาวะเลือดจาง(ยกเว้นชนิดขาดธาตุเหล็ก) ต้องอาศัยวิตามินอีเป็นตัวช่วยไขกระดูกในการสร้างเลือด การกินปวยเล้งที่อุดมไปด้วยธาตุเหล็กจึงไปทําลายหรือยับยั้งการดูดซึมวิตามินอี
ควรกินอาหารที่มีวิตามินอี เช่น ผักโขม บรอกโคลี นํ้ามันมะกอก และปลา
ไทรอยด์เป็นพิษ vs กะหลํ่าปลี
เนื่องจากปัญหาต่อมไทรรอยด์ที่เกิดจากการขาดไอโอดีนส่งผลให้ต่อมไทรอยด์บวมโตจึงมีอาการเหนื่อยง่าย มีปัญหาด้านสมาธิและความจํา การกินอาหารตระกูลกะหลํ่าในปริมาณมาก เช่น กะหลํ่าปลี จะไปยับยั้งการดูดซึมไอโอดีน ทําให้อาการไทรอยด์แย่ลงครับ
ควรกินอาหารที่มีไอโอดีน เช่น อาหารทะเล สาหร่ายทะเล กระเทียม
อาหารที่มีประโยชน์จะดีต่อสูขภาพร่างกายมากขึ้นหากเลือกกินอย่างเหมาะสมนะครับ อย่าสักแต่กินอาหารไปวันๆนะครับ สวัสดีครับ