กามโมฆะ..

 

เมื่อสังคมเปลี่ยนไปในทางกามโมฆะคือ คลั่งกามารมณ์สั่งสมวัตถุอุปโภค-บริโภค ก็ต้องสาวหาเหตุซึ่งเรียกว่า สมุทัย เพื่อให้ "รู้....ต้นสาย สู่ปลายเหตุ"ก็พอจะคลำหา
ต้นสายของความเจ้าชู้ สำส่อน ข่มขืน ข่มขืนแล้วฆ่า
ลองมองดูสัก ๓ สาเหตุ คือ...

๑.ถูกปลูกฝังเรื่องเพศสัมพันธ์ว่าเป็นสุดยอดของความสุขสันต์ในชีวิต โดยการพูดคุย ยั่วยุจากเพื่อนชาย
จากนิยาย ภาพยนตร์ จนจิตใจถูกย้อมว่าชีวิตอยู่ได้
หาความสุขได้ต้องเสพกามกับผู้หญิง

๒.ถูกปลูกฝังมอมเมาว่าร่างกายสตรีและอวัยวะเพศสตรี
เป็นของสวยงาม หอมหวล ดุจดอกไม้
อันน่าเด็ดดมชมเชย ถ้าใครได้ซุก ไซ้ ไล้ เลีย
 จนถึงเสพกาม จะอำนวยความสุขสันต์สุดยอดของชีวิต โดยมิได้เว้นว่า เด็กหญิง ยิ่งหากได้เด็กเพิ่งแตกเนื้อสาว หรือหญิงสาว ขาว สวย หมวย อวบ
 และมิเคยผ่านชายใดมาก่อน ยิ่งจะอำนวยความสุข
ได้สุดยอด และหากได้เห็นเลือดออกจากอวัยวะเพศหญิง
ก็จะยิ่งภูมิใจใน เลือดพรหมจารี
 ซึ่งในความจริงเป็น เลือดแห่งบาดแผลและความเจ็บปวดของผู้หญิง

๓.ดูหนังสือโป๊ซีดี วิดีโอลามก จนติดเป็นอุปนิสัย
 ฝังความรู้สึกว่าต้องมีความสุขดังที่เห็นในสื่อลามก
 ปลูกฝังนิสัยแห่งฆาตกรบ้ากามอย่างไม่รู้ตัว.

 


อาชญากรรมน่าสนใจ  ต่อไปนี้ลองอ่านดู..

สุดเ***้ยม! ฆาตกรต่อเนื่อง 49 ศพ บอกการฆ่าเหมือน “ความรัก”
เอเจนซี - ชายชาวรัสเซีย จำเลยในคดีฆาตกรรม 49 ศพ ร้องต่อศาลอย่างไม่สะทกสะท้านเมื่อวันอังคาร (9)
ขอให้เพิ่มจำนวนเหยื่อที่เขาสังหารอีก 11 ศพ
 และบอกกับคณะลูกขุน ว่า เมื่อบีบคอเหยื่อรายแรก เขารู้สึกเหมือนตกหลุมรักครั้งแรก
พนักงานซูเปอร์มาร์เก็ต อเลกซานเดอร์ ปิชุสกิน วัย 33 ปี ถูกขนานนามจากสื่อมวลชนรัสเซียว่า
 เป็น “ฆาตกรกระดานหมากรุก”
เพราะเขาจะวางเหรียญในตารางหมากรุกแต่ละช่อง
 ซึ่งมีทั้งหมด 64 ช่อง สำหรับการสังหารเหยื่อแต่ละครั้ง
“การฆ่าครั้งแรกเหมือนกับคุณมีความรักครั้งแรก
คุณไม่มีวันลืมมันได้เลย” เขาบอกขณะที่อยู่ในกรง
ในห้องพิจารณาคดี หลังจากอธิบายถึงวิธีการ
เริ่มฆ่าครั้งแรกเมื่อเขาอายุ 18 ปี โดยเหยื่อผู้เคราะห์ร้าย
 คือ เพื่อนร่วมชั้นเรียน
ปิชุสกิน บอกว่า ตนเองแนะนำให้เพื่อนร่วมห้องฆ่าใคร
บางคน แต่เมื่อเพื่อนปฏิเสธ “ผมจึงส่งเขาไปสวรรค์”
และฆาตกรต่อเนื่องรายนี้ยังแสดงวิธีการบีบคอเหยื่อ
ให้คณะลูกขุนดูด้วย
อัยการตั้งข้อหา ปิชุสกิน ฆาตกรรม 49 ศพ
และพยายามฆ่าอีก 3 ราย แต่เขากลับร้องขอต่อศาลเพิ่มจำนวนเหยื่อที่เขาฆาตกรรมอีก 11 ศพ

“ผมคิดว่ามันไม่ยุติธรรมที่จะลืมอีก 11 คน” เขาบอก

อัยการบอกว่า ฆาตกรรายนี้ล่อเหยื่อส่วนใหญ่ของเขา
ไปยังสถานที่เปลี่ยว โดยเฉพาะสวนสาธารณะบิตเซฟสกี
ในมอสโก ก่อนมอมเหยื่อด้วยว๊อดกา
 และจากนั้นใช้ค้อนทุบที่ศีรษะ
ส่วนเหยื่อรายอื่นๆ ถูกรัดคอจนขาดอากาศหายใจ
กดคอจมน้ำตาย หรือโยนออกจากระเบียง
โดยเขาบอกว่าตำรวจเคยเรียกตัวเขาไปไต่สวน
เมื่อครั้งก่อคดีฆาตกรรมเหยื่อรายแรก
แต่ปล่อยตัวออกมาเนื่องจากหลักฐานพยานไม่เพียงพอ
“คุณไม่ควรให้เครดิตกับตำรวจในการจับกุมผม
 เพราะผมยอมมอบตัวเอง” เขาบอกกับศาล
ถ้าถูกตัดสินว่าผิดจริง ปิชุสกิน จะกลายเป็นฆาตกรต่อเนื่องที่สังหารเหยื่อมากที่สุดในรัสเซีย หลังจากก่อนหน้านี้
 อันเดร ชิกาติโล “รอสตอฟ ริปเปอร์”
 ถูกตัดสินว่ามีความผิดในปี 1992 และถูกประหารชีวิต
ในปี 1994 สำหรับคดีข่มขืน ฆ่าอย่างทารุณ
บางคดียังกินเนื้อเหยื่อ ทั้งหมด 52 ศพ

 


 

บีบคอเซ่นฟูลมูน ฆ่าแหม่ม ฆาตกรลวงขยี้กาม

เมื่อเวลา 07.30 น. วันที่ 11 ม.ค. พ.ต.ท.สมศักดิ์ หนูรอด สารวัตรเวร สภ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี รับแจ้งพบศพบริเวณชายหาดบ้านในวก หมู่ 1 ต.เกาะพะงัน จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.จรูญ อุชุภาพ ผกก. พ.ต.ท.ณฐกรณ์ กาญจนาภรณ์ รอง ผกก.ป. พ.ต.ท.สมคิด เจตนา สว.สส. นำกำลังตำรวจ แพทย์เวร รพ.เกาะพะงัน และมูลนิธิกุศลศรัทธาเกาะพะงันไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุบริเวณชายหาดบ้านในวก ห่างจากท่าเทียบเรือบริษัทส่งเสริม จำกัด ราว 300 เมตร
พบศพนางแอสทริส อัล แอสซาด ชวาเนอร์ อายุ 45 ปี
ชาวเยอรมัน นอนหงายเสียชีวิตอยู่ริมหาด
 สภาพลำตัวท่อนบนเปลือยเปล่า นุ่งกางเกงยีนส์ขายาว
สีน้ำเงิน ตรวจสอบเบื้องต้นพบร่องรอยถูกทำร้าย
ร่างกายอย่างทารุณ ที่ลำคอพบรอยเขียวช้ำ
คล้ายถูกบีบหรือรัดอย่างแรง ส่วนที่โหนกแก้มซ้ายมีบาดแผลคล้ายรอยถูกกัดเป็นแผลช้ำ
 บริเวณแขนทั้ง 2 ข้าง และตามลำตัวมีร่องรอยขีดข่วน
หลายแห่ง แพทย์ลงความเห็นว่าเสียชีวิตมาแล้ว

ไม่ต่ำกว่า 6 ชั่วโมง ใกล้ศพพบกระเป๋าสตางค์
และพาสปอร์ตของผู้ตาย ภายในกระเป๋ามีเงินสด 690 บาท นำศพส่งชันสูตรอย่างละเอียดที่สถาบันนิติเวชวิทยา รพ.ตำรวจ นี่ก็เป็นหนึ่งที่เป็นเหยื่อ ..กามโมฆะ

 

 

ฆาตกรซาดิสต์ ข่มขืน-ฆ่า

คดีฆาตกรรมสยองขวัญ น.ส.ฟองจันทร์ พิริยะ อายุ 45 ปี สาวใหญ่เป็นโรคกล้ามเนื้อแขนขาอ่อนแรง ตกเป็นเหยื่อฆาตกรหื่นกามซาดิสต์บุกข่มขืนฆ่าวิตถาร ใช้น้ำตา เทียนหยดร่างและกัดหัวนมขาดพร้อมดูดเลือด หลังเสร็จกามกิจเอาแท่งเทียนแทงปักคาอวัยวะเพศ ใช้ของแข็งทุบศีรษะและใบหน้าเละตายอืดสยองในบ้านเลขที่ 173 หมู่ 3 บ้านนาแก้วฝั่งตะวันออก ต.นาแส่ง อ.เกาะคา จ.ลำปาง
พบศพเมื่อกลางดึกคืนวันที่ 25 เม.ย.ที่ผ่านมา
ต่อมาตำรวจจับกุมตัวผู้ต้องสงสัยได้คือนายกิตติศักดิ์
แสนทวีสุข อายุ 21 ปี อดีตทหารเกณฑ์
อยู่หมู่บ้านเดียวกับผู้ตาย ตามร่างกายมีรอยขีดข่วน
หลายแห่ง แต่เบื้องต้นยังปากแข็งปฏิเสธอยู่นั้น
ความคืบหน้าการเค้นสอบปากคำผู้ต้องสงสัยเป็นฆาตกรกามวิปริตในที่สุดก็ยอมเปิดปากรับสารภาพแล้ว

 ฆาตกรให้การว่า ก่อนเกิดเหตุช่วงหัวค่ำวันที่ 24 เม.ย.
ได้ไปดื่มเบียร์กับนางอ่อนแก้ว แสงสอน อายุ 46 ปี
พี่สาวของผู้ตาย ซึ่งมีบ้านอยู่ห่างจากที่เกิดเหตุ
ประมาณ 20 เมตร จนเมาได้ที่จึงเดินกลับบ้าน
 ระหว่างทางบังเอิญหันไปเห็นผู้ตายนุ่งกระโจมอกอาบน้ำอยู่หน้าบันไดบ้านทำให้เกิดอารมณ์ทางเพศ
ประกอบกับไม่มีชาวบ้านผ่านไปมาจึงบุกเข้าไปปลุกปล้ำ
แต่ผู้ตายดิ้นรนตะโกนร้องให้คนช่วย จึงจับหัวโขกพื้น
จนหมดสติก่อนลากขึ้นไปบนบ้าน เห็นเทียนไขวางอยู่หลายเล่มจึงจุดเทียน ส่องสว่างและจุดเทียนอีกเล่มใช้น้ำตาเทียนหยดลงบนร่างผู้ตาย ก่อนลงมือข่มขืนจนสำเร็จความใคร่ 1 ครั้ง หลัง เสร็จกามกิจก็ใช้แท่งเทียนปักอวัยวะเพศและกัดหัวนมจนขาด ระหว่างนั้นมีสุนัขเห่าและชาวบ้านใช้ไฟฉายส่องเข้ามา จึงดับเทียนและกบดานอยู่ในบ้าน
จนดึก เมื่อปลอดคนแล้วจึงหลบหนีออกมา

ด้านนายสว่าง นวลออ ผู้ใหญ่บ้านนาแก้วฝังตะวันออก
เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้เคยได้รับแจ้งจากชาวบ้านถึงพฤติกรรมของนายกิตติศักดิ์ ว่าชอบขโมยเป็ดไก่และแมว
มาเชือดคอดื่มกินเลือดสดๆ จึงเรียกมาว่ากล่าวตักเตือน
นายกิตติศักดิ์ก็รับปากว่าจะไม่ทำอีก
จนกระทั่งมาก่อเหตุข่มขืนฆ่าสยองครั้งนี้
 เชื่อว่าหลังจากลงมือข่มขืนฆ่าผู้ตายแล้ว
นายกิตติศักดิ์อาจเกิดอารมณ์ วิปริตกัดหัวนม
แล้วดูดเลือดผู้ตายนายกิตติศักดิ์
ผู้ต้องหาสารภาพว่า หลังจากดื่มเบียร์แล้วมีอารมณ์ทางเพศคึกคักจึงลงมือก่อเหตุ ส่วนการใช้น้ำตาเทียนหยด
ตามร่างเหยื่อก่อนข่มขืนนั้น เนื่องจากเคยเห็นในหนังซีดีลามกมาก่อนจึงมาทำเลียนแบบ และหวังจะให้เหยื่อ
ที่สลบอยู่ ฟื้นขึ้นมามีแรงต่อสู้กับตนเพื่อกระตุ้นอารมณ์
ทางเพศ ส่วนที่กัดนมผู้ตาย เนื่องจากความมึนเมาจนลืมตัว หลังเสร็จกามกิจก็ใช้เทียนไขปักไว้ที่อวัยวะเพศ
เพื่อความสะใจเท่านั้น...
 
 
เมื่อทหารอเมริกา ข่มขืน ฆ่า เด็กอายุ 14

มาห์มูดิยา (Mahmoudiya)

คือเรื่องราวความป่าเถื่อนของกองทัพอเมริกา
ก็กลายมาเป็นคดีดัง ‘มาห์มูดิยา’ (Mahmoudiya)
 ถึงแม้คนอิรักอาจจะชาชินกับการสังหารหมู่
หรือสังหารโหดที่ได้กลายมาเป็นส่วนหนึ่งไปแล้ว
ในชีวิตประจำวันไปแล้ว แต่กับปฏิบัติการ
ของทหารอเมริกันที่ข่มขืน ฆ่า
และเผาเด็กอายุ 14 ครั้งนี้
เป็นเรื่องที่แตกต่างออกไป
เพราะในวัฒนธรรมของคนมุสลิมอย่างในอิรัก
มันหมายถึง การหยามเกียรติและศักดิ์ศรีกัน
ในขั้นรุนแรง เป็นเรื่องที่สร้างความเจ็บปวด
อับอาย กระทบความรู้สึกของชาวบ้านทั่วไป
อย่างมาก จนถึงขณะนี้
 เรื่องนี้ดังในระดับชาติไปแล้ว....
 
 
โรคจิต...กำเริบเป็นโรคร้าย ที่คอยจ้องหาวิธี
แสวงหาความสุขในการเสพกาม
และเมื่อสภาวการณ์พร้อม
สันดานฆาตกรข่มขืนแล้วฆ่าก็กำเริบ

สภาวการณ์อันนำไปสู่การข่มขืนแล้วฆ่าคือ

เงียบเหงา

เมาเหล้า

เมายา

เฮฮาเพื่อนชั่ว...
 
 
Credit: http://atcloud.com/stories/86912
20 ส.ค. 53 เวลา 15:21 2,388 3 44
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...