ความรักของคิวปิด ( อีรอส เทพแห่งความรัก )

คิวปิด หรือ อีรอสเป็นเทพเจ้าแห่งความรักของโรมัน นิยมเรียกในภาษาไทยว่า "กามเทพ" เป็นโอรสของมาร์ส เทพแห่งสงคราม และวีนัส เทพแห่งความงาม

ความรักครั้งแรกและครั้งเดียวของกามเทพหนุ่มเริ่มขึ้นด้วยความริษยาของเทพีผู้เป็นมารดา เทพีวีนัสนั่นเอง

ครั้งหนึ่งในยุคกรีกโบราณ พระราชากรีกพระองค์หนึ่งมีพระธิดาทั้งหมดสามองค์ พระธิดาองค์พี่ทั้งสองมีความงดงามยิ่งนัก แต่ทว่าความงามใดเลยจะมาสู้ธิดาองค์เล็กที่มีนามว่า ไซคี (Psyche) ได้ พระบิดาพระมารดารวมทั้งผู้คนทั่วนครต่างพากันชื่นชมความงดงามของไซคี จนพระพี่นางทั้งสองต่างพากันอิจฉาริษยาไซคีในใจ

แต่ความงามเหนือใครของไซคีนี่เอง ทำให้เรื่องร้ายมาถึงตัว เพราะเทพีวีนัส เทพีแห่งความงามเกิดความริษยาเจ้าหญิงชาวมนุษย์ขึ้นมา เพราะพระนางคิดว่าตนคือผู้มีความงามยิ่งกว่าใครมาตลอด แต่ตอนนี้ ชาวเมืองกลับยกย่องไซคีจนล้ำตำแหน่งพระนาง ของบวงสรวงให้แก่เทพีวีนัสก็ไม่มีเพราะผู้คนต่างไปชมโฉมเจ้าหญิงไซคีกันหมด เทพีวีนัสจึงคิดแผนการร้ายแรงเพื่อทำลายไซคีขึ้นมา เพื่อไม่ให้ผู้ใดใฝ่ฝันถึงนางอีก โดยที่พระนางได้สั่งให้คิวปิดผู้เป็นโอรสแผลงศรความรักให้ไซคีตกหลุมรักชาย ผู้มีนิสัยชั่วช้าที่สุดในแผ่นดินสักคน

แม้จะไม่อยาก แต่คิวปิดก็กลัวแม่และเชื่อฟังมามาตั้งแต่ต้น กามเทพหนุ่มจึงจำยอมทำตามแผนการของเทพีวีนัสอย่างช่วยไม่ได้ คิวปิดบินเข้าในที่ประทับของไซคีเมื่อนางหลับ และเตรียมพร้อมจะยิงลูกศรรักในมือใส่นางตามแผนการ แต่ทว่าด้วยความงดงามของไซคีทำให้คิวปิดถึงกับตะลึงค้างชมโฉมนางอยู่พักใหญ่ และเมื่อไซคีพลิกตัว กามเทพหนุ่มก็สะดุ้งตกใจจนศรรักในมือปักเข้าถูกร่างกายตนเอง ทำให้เป็น คิวปิด ที่หลงรักไซคีจนถอนตัวไม่ขึ้น

คิวปิดต้องพบกับสภาพกลืนไม่เข้าคายไม่ออก เพราะอีกฝ่ายหนึ่งก็คือมารดาที่เคารพรักอย่างสูง แต่อีกฝ่ายก็คือหญิงที่รักสุดหัวใจ สุดท้ายกามเทพหนุ่มจึงขอความช่วยเหลือลับๆจากเทพเจ้าองค์อื่นๆ ในการอยู่กินกับไซคีโดยไม่ให้เทพีวีนัสรู้

แผนการขั้นที่หนึ่งของคิวปิดเริ่มขึ้น ด้วยการขัดขวางไม่ให้มีใครมาสู่ขอไซคี เวลาผ่านพ้นไปนาน พระพี่นางทั้งสองได้ แต่งงาน ออกจากเมืองไป เหลือแต่ไซคีที่ยังเปล่าเปลี่ยวไม่มีใครมาสู่ขอ เพราะต่างก็คิดกันว่านางสูงเกินกว่าจะเอื้อมถึง พระบิดาของไซคีจึงบวงสรวงขอคำทำนายจากวิหารเดลฟีของเทพอพอลโล เพื่อหาคำตอบว่าเนื้อคู่ของไซคีเป็นใคร

แต่คำทำนายที่ได้มากลับทำให้ผู้คนทั่วนครตระหนกอย่างมาก เพราะมันได้กล่าวว่า เนื้อคู่ของไซคีเป็นอสุรกายที่น่าเกลียดน่ากลัวที่ไร้เทียมทานไม่มีผู้ปราบ ได้ ซึ่งตอนนี้กำลังรอคอยนางอยู่บนยอดเขา และห้ามไม่ให้นางมองดูสามีเป็นอันขาด ทุกคนต่างเศร้าสลดโดยเฉพาะเจ้าหญิงไซคี แต่นางก็ทำใจกับโชคชะตา ชาวเมืองและพระบิดาพระมารดาจัดขบวนส่งเจ้าสาวไปยังหน้าผาด้วยความโศกเศร้า ก่อนจะทิ้งเจ้าหญิงไว้เพียงคนเดียวบนยอดเขา

ไซคียืนอยู่บนหน้าผาด้วยความตระหนกเพื่อรอคอยการมารับของว่าที่สวามี ทันใดนั้น เทพลมเซฟิโรส ซึ่งเป็นลมตะวันออกก็ปรากฏตัวขึ้น และได้บรรจงพัดพาไซคีไปยังยอดขุนเขา ซึ่งมีตำหนักงดงามตั้งอยู่พร้อมกับสาธารณูปโภคครบครัน สวยงามเกินกว่าจะเป็นที่อยู่ของอสุรกายดังคำทำนาย ไซคีใช้ชีวิตอยู่ในตำหนักเพียงคนเดียวจนกระทั่งฟ้ามืด คิวปิดก็มาอยู่กับไซคีตามแบบสามีภรรยา ซึ่งพอแผนการสำเร็จ คิวปิดก็โกหกเทพีวีนัสว่าไซคีพบกับความวินาศตามที่พระนางตั้งใจไว้แล้ว

ทุกคนต่างมีความสุขกับสิ่งที่เกิดขึ้น จนกระทั่งความสงสัยในใจของไซคีเกิดทับถมจนยากจะเก็บ เพราะคิวปิดนั้นมาอยู่กับไซคีในเวลากลางคืนซึ่งมืดมิดมองอะไรไม่เห็น และรีบกลับไปเมื่อฟ้าใกล้สว่าง อีกทั้งความรู้สึกของนางบ่งบอกได้ว่าสวามีไม่ใช่อสุรกายน่าเกลียด ไซคีจึงขอดูใบหน้าที่แท้จริงของคิวปิด แต่กามเทพหนุ่มปฏิเสธ เพราะถ้าความลับแตก ไซคีก็จะเป็นอันตราย จึงขอให้นางสัญญาว่าจะไม่ดูรูปโฉมของเขา เพราะไม่เช่นนั้นเราคงจะไม่มีวันได้พบกันอีก ไซคีจึงให้สัญญา และใช้ชีวิตสามีภรรยากับคิวปิดในความมืดของเวลากลางคืนต่อมา

กระทั่งไซคีมีความต้องการอยากพบพี่สาวทั้งสองเป็นกำลัง คิวปิดอยากจะปฏิเสธแต่ก็เห็นแก่ภรรยา จึงสั่งให้เทพลมเซฟิโรสไปรับพระพี่นางของไซคีมาที่ตำหนัก พี่สาวทั้งสองฉงนกับเรื่องที่เกิดขึ้นมากเพราะคิดว่าน้องสาวตนคงต้องทรมา ณกับการมีสามีอัปลักษณ์ แต่ทุกอย่างกลับตาลปัตรไปหมด พี่สาวทั้งสองซักถามถึงรูปร่างลักษณะของสามี แต่ไซคีตอบไม่ได้เพราะไม่เคยได้เห็นหน้าคิวปิด พี่สาวทั้งสองจึงยุให้ไซคีแอบดูโฉมหน้าของสามี และให้มีดแก่นางเพราะถ้าเป็นอสุรกายจริงๆจะได้ฆ่าทิ้งเสีย

ตกดึก คิวปิดก็มาอยู่กับไซคีดังเช่นเคย เมื่อคิวปิดหลับไปแล้ว ไซคีจึงลุกขึ้นจุดตะเกียงส่องดูหน้าสามี ภาพที่ปรากฏคือเทพบุตรหนุ่มรูปงามที่มีปีกขาวสะอาดซึ่งหล่อเหลาคมคายมากกว่า ชายใดที่ไซคีเคยรู้จัก นางชมโฉมคิวปิดเพลิน น้ำมันตะเกียงร้อนๆหดรดคิวปิดจนเขาสะดุ้งตื่น คิวปิดโกรธไซคีมากที่ผิดสัญญา จึงได้หนีจากไซคีไป เมื่อไซคีรู้สึกตัวอีกทีก็พบว่านางกลับมาที่วังของตน หาใช่ตำหนักแสนสุขที่ได้อยู่ร่วมกับสามีอีกต่อไป

ไซคีเสียใจมากกับเรื่องที่เกิดขึ้น นางพร่ำโทษตัวเองที่ผิดคำสัญญา นางจึงตัดสินใจละทิ้งบ้านเกิดเมืองนอนเพื่อติดตามหาคิวปิด ซึ่งยากลำบากมากสำหรับผู้หญิงอ่อนบางแถมยังได้รับการเลี้ยงดูแบบเจ้าหญิง อย่างไซคี

แต่พี่สาวทั้งสองของไซคีกลับรู้สึกยินดี พร้อมทั้งไปที่หน้าผาเรียกเทพลมมารับ เพราะคิดว่าคิวปิดอาจจะรับพวกนางเป็นชายาแทนไซคี แต่เพราะเทพลมเซฟิโรสไม่ได้รับคำสั่งให้มา เมื่อพวกนางกระโจนออกจากหน้าผา พวกนางจึงตกเขาตาย

ไซคีซัดเซพเนจรรอนแรมตามหาคิวปิดอย่างยากลำบาก จนพบเข้ากับวิหารเทพีดิมิเทอร์ เทพีแห่งพืชผล ซึ่งของบูชานั้นวางระเกะระกะไม่มีระเบียบเพราะชาวไร่ต่างเหนื่อยล้าจากการทำ งาน ไซคีจึงจัดระเบียบของเซ่นสรวงจนเรียบร้อย เทพีดิมิเทอร์พอใจมาก จึงบอกให้ไซคีไปที่วิหารของเทพีวีนัสเพื่อขออภัยโทษ

แต่เทพีวีนัสมีความริษยาแรง จึงหาทางกลั่นแกล้งไซคีต่างๆนานาๆ โดยให้ไซคีแยกเมล็ดข้าว ข้าวบาร์เล่ย์ ข้าวโพด ถั่ว และธัญญาหารชนิดต่างๆ ที่ปะปนอยู่ในฉางแยกออกมาให้เสร็จก่อนค่ำเพื่อให้นกพิราบของพระนางกิน ไซคีถึงกับท้อแท้ใจเพราะนางเป็นแค่หญิงมนุษย์ธรรมดา ไม่มีทางจะทำสิ่งที่เกินความสามารถเช่นนี้ได้แน่นอน

ในขณะเดียวกัน คิวปิดที่คอยเฝ้ามองดูแลไซคีอยู่ห่างๆ ตลอดเวลาก็ส่งมดฝูงใหญ่มาช่วยงานไซคี โดยมดทั้งหมดต่างแยกธัญญาหารอย่างเรียบร้อย และรีบกลับไปก่อนค่ำ

เทพีวีนัสกริ้วมากเพราะรู้ว่าไซคีไม่ได้ทำเอง และคนที่ช่วยเหลือนางก็คือโอรสของพระนางนั่นเอง จึงสั่งให้ไซคีไปเก็บขนแกะทองคำมาให้พระนาง ซึ่งแกะขนทองฝูงนั้นโหดร้ายมาก แต่เทพประจำแม่น้ำก็ช่วยเหลือไซคี บอกเคล็ดลับต่างๆ จนไซคีทำภารกิจที่สองสำเร็จ

เมื่อผู้เป็นสะใภ้สำเร็จภารกิจประทุษร้ายมาได้ทั้งสองครั้ง ทำให้เทพีวีนัสคิดแผนการร้ายกาจที่สุดขึ้นมาได้ โดยรับสั่งให้ไซคีนำผอบไปขอเครื่องประทินโฉมจากเทพีเพอร์ซิโฟเน มเหสีของเทพเฮดีสแห่งยมโลกมาถวายพระนาง ซึ่งหมายถึงการส่งไซคีไปตายนั่นเอง

ไซคีท้อถอยหมดกำลังใจอย่างมากเมื่อรู้ความหมายของเทพีวีนัส นางจึงคิดว่า ดีเหมือนกัน ในเมื่อสามีไม่เหลียวมองตนอีกต่อไปแล้ว ก็ไม่มีประโยชน์อันใดที่จะมีชีวิตอยู่อีกต่อไป ดังนั้น เจ้าหญิงไซคีจึงขึ้นไปยังยอดผาเตรียมตัวกระโดดฆ่าตัวตายไปสู่ยมโลกในทางลัด

แต่ยังไม่ทันที่ไซคีจะทำตามความตั้งใจ คิวปิดที่เฝ้ามองนางอยู่จึงเอ่ยปลอบประโลมนางอย่างอ่อนโยนด้วยความรักและ สงสาร ทว่าทิฐิก็ยังทำให้กามเทพไม่ยอมปรากฏกายให้ไซคีเห็น ไซคีได้ยินเสียงปลอบใจปริศนานั้นก็ทำให้มีกำลังใจสู้ต่อ คิวปิดบอกวิธีต่างๆ ในการไปนรกอย่างปลอดภัยให้กับไซคี พร้อมกับย้ำเตือนนางไม่ให้นางเปิดผอบเครื่องประทินโฉมนั้นเป็นอันขาด

ไซคีทำตามที่คิวปิดบอกทุกประการยกเว้นประการสุดท้าย ด้วยความสงสัยอันเป็นพื้นฐานจิตใจมนุษย์ทำให้ไซคีเปิดผอบขึ้นดู ทันใดนั้นควันประหลาดก็พวยพุ่งใส่ไซคี ทำให้นางสลบแน่นิ่งลงไปทันที เพราะแท้จริงแล้วสิ่งในผอบคือ มนตร์แห่งการหลับใหล นั่นเอง

คิวปิดที่รอคอยไซคีอยู่ปากถ้ำยมโลกเห็นไซคีตกอยู่ในอันตรายเช่นนั้นก็รีบ เข้ามาหาชายา พร้อมกับรวบรวมมนตร์เก็บในผอบและปลุกไซคีให้ฟื้นขึ้นมา

ไซคีดีใจมากเมื่อได้สวามีอีกครั้งหนึ่ง แต่คิวปิดก็ติเตียนนางเกี่ยวกับความอยากรู้อยากเห็นที่เป็นโทษแก่นางมาหลาย ครั้งแล้ว ไซคีกล่าวขอโทษ คิวปิดจึงบอกว่านางควรไปทำภารกิจที่ได้รับมาให้สำเร็จเสียก่อน

จากนั้นคิวปิดก็ขึ้นไปบนเขาโอลิมปัส ขอร้องแก่ทวยเทพทุกองค์ให้ช่วยเหลือ โดยเทพซีอุสขอให้เทพีวีนัสเลิกจงเกลียดไซคี และได้ประทานน้ำอมฤตแก่ไซคี เพื่อให้นางกลายสภาพเป็นเทพีอีกองค์หนึ่ง

ท้ายสุด ไซคีและคิวปิดก็มีธิดาด้วยกันหนึ่งองค์คือ เดลิซิโอ (Delicio - รากศัพท์ของคำว่า Delicious) ทั้งสองได้ครองค่อยู่ด้วยกันตราบนานเท่านานและไม่พลัดพรากจากกันอีกต่อไป

Credit: วิกิพีเดีย
19 ส.ค. 53 เวลา 15:20 9,492 6 60
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...