ลมโบก ธงไหว จิตใจกระเพื่อม



เกริ่นนำโดยกระปุกดอทคอม

          "ความแตกต่าง" ทำให้สรรพสิ่งดูมีเอกลักษณ์ และสวยงามในแบบฉบับของมัน เช่นเดียวกับ "ความคิดของคน" ที่ความไม่เหมือนกัน ก็ทำให้เกิดมุมมองใหม่ ๆ และเป็นมุมมองที่กว้างขึ้น กว่าสายตาและความคิดของคนใดคนหนึ่งจะรับรู้ และเอื้อมถึงมันได้

          ดังนั้น จึงไม่มีใครเอามาตรฐานของตัวเอง ไปเปรียบเทียบและตัดสินมาตรฐานของคนอื่นได้ ว่า "ใครถูก" หรือ "ใครผิด" โดยเฉพาะการใส่อารมณ์ของตัวเองเข้าร่วมไปด้วย ยิ่งทำให้เราเกิดความทุกข์ด้วยการกระทำของตัวเอง

          เช่นนั้นแล้ว หากใครกำลัง "ฟุ้งซ่าน" และล่องลอยไปตามกระแสของความคิดที่แตกต่าง จงก้มลงมองดูที่ "ใจ" ของตัวเอง บอกให้มัน "หยุด" แล้วนำ "สติ" กลับคืนมา เพื่อผลักดันความวุ่นวายออกไปให้จงได้

           วันนี้กระปุกดอทคอมจึงขอหยิบยกเรื่องราวดี ๆ จากบล็อก คุณ aston27  มาให้ลองมาอ่านกันค่ะ ... แล้วคุณจะเข้าใจว่า จะ "สุข" หรือ "ทุกข์" อย่างไร ขึ้นอยู่กับ "จิตใจ" ของเรานั่นเอง

          เช้านี้ ผมลืมตาขึ้นมาพร้อมด้วยนิทานเซ็นเรื่องหนึ่ง เป็นเรื่องของพระสองรูปที่มองดูธงที่ปลิวสะบัดตามลม แล้วก็เถียงกันว่า อะไรกันแน่ที่เคลื่อนไหว รูปหนึ่งก็ว่าผืนธง อีกรูปก็เถียงว่า ลมต่างหาก เถียงกันอยู่นาน ต่างฝ่ายต่างก็มีเหตุผลที่อีกฝ่ายหักล้างไม่ได้ เลยไปให้อาจารย์ตัดสิน ว่าใครผิดใครถูก 

          อาจารย์นั่งฟังเรื่องที่เถียงกันแล้วก็พูดประโยคเดียวว่า "ธงก็ไม่ได้ไหว ลมก็ไม่ได้ไหว ใจของพวกเธอต่างหากที่สั่นไหว"

          นิทานเรื่องนี้ ผมเคยคิดว่าผมเข้าใจ แต่จริง ๆ แล้ว ผมเพิ่งรู้สึกว่าผมเข้าถึงมัน ไม่นานมานี้เอง หรือที่จริงต้องพูดว่า เข้าถึงมากขึ้น เพราะอีกสิบปีอาจจะเข้าถึงมากกว่านี้

          เขียนมาเท่านี้ หลายคนก็พอเดาออกว่าผมจะพูดเรื่องอะไร เมื่อคืนนี้ ไปเห็นสิ่งที่เพื่อนคนหนึ่งเขียนเรื่องหนึ่งแล้วมีคนมาตอบ

          คนที่มาตอบ ก็มีทั้งแดง ชมพู เหลือง ขาว เทา น้ำเงิน วันนี้ผมจะไม่บอกว่าใครผิด ใครถูก แต่จะบอกว่า ผมนั่งอ่านด้วยความเพลิดเพลิน 

          เพราะอ่านไปแล้วก็เห็นใจตัวเองกระเพื่อม ๆๆๆๆ

          เวลาอ่านข้อความไหน แล้วไม่ตรงกับเรา โทสะความขัดใจก็เกิด

          อ่านข้อความไหน เขียนถูกใจเรา ราคะความพอใจก็เกิด 

          อ่านจบแล้วอยากเขียนของเราบ้าง โลภะก็เกิด 

          เรื่องทั้งหลายในโลก ทั้งความปรองดอง ความขัดแย้ง มันเริ่มต้นที่จิตใจของพวกเรานี่แหละ 

          ตอนผมไปประชุมที่ลิสบอน มีคนจากมอสโคว์มาคนนึงชื่อคุณนิโคไล 

          วันสุดท้ายเขาจัดไปเที่ยวสนามฟุตบอลเบนฟิก้า อุณหภูมิตอนนั้นประมาณ 10 องศา เซลเซียส กำลังหนาวพอสั่น ผมใส่เสื้อสองชั้น เอาเสื้อหนาวทับอีกที แต่พ่อนิโคไล แกใส่เสื้อยืดตัวเดียว แล้วเอาโอเวอร์โค้ตทับหลวม ๆ ไม่ติดกระดุมด้วยนะ เดินอาด ๆๆๆ ผมเลยทักแกว่า อากาศแบบนี้ชินแล้วสิ

          แกตอบกลับมาว่า "ก็ไม่เชิงชินอ่ะ เพราะที่มอสโคว์มัน -10 แต่ที่นี่มัน 10 องศา" เอางั้นเลยนะ พ่อคุณ สำหรับเรานี่ 10 องศา เรียกว่าหนาว แต่สำหรับคนยุโรปตอนเหนือ เขาว่าอุ่น 

          ฉะนั้น เวลาพูดเรื่องการเมืองก็เหมือนกัน อย่าเอามาตรฐานเอาความคิดของเราไปใช้วัดความคิด ความอ่านของคนอื่นไม่ได้ ว่าทำแบบนั้นผิดนะ แต่จะบอกว่า ทำแบบนั้น เราจะทุกข์เอง อากาศร้อนหรือเย็นมันเรื่องหนึ่ง แต่ใจเราร้อนหรือเย็น ก็อีกเรื่อง

          เพราะอย่างที่บอก จะเป็นธง หรือเป็นลม ที่สั่นไหว ก็ไม่สำคัญ สำคัญที่ว่า ใจเรามันกระเพื่อมอยู่ เรามีสติรู้ทันใจตัวเองหรือยัง

16 ส.ค. 53 เวลา 17:35 721 3 30
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...