ภาพที่หนึ่ง
ร่วมคำสาบานในสวนท้อ
เป็นฉากเปิดเรื่องสามก๊กเลยก็ว่าได้ ภูมิหลังขณะนั้นคือเกิดโจรกบฏภาคใต้ เอ้ย... โพกผ้าเหลืองขึ้นปล้นสดมภ์ สร้างความเดือดร้อน ทางราชสำนักติดประกาศรับสมัครทหาร และหน่วยงานอาสาสมัครเข้าร่วมขบวนการปราบปรามโจรก่อการร้าย ขณะนั้นเล่าปี่เดินมาดูประกาศ เตียวหุยเป็นคนฆ่าหมูอยู่แถวนั้น ก็เดินมาดูประกาศ และสุดท้ายก็กวนอู ซึ่งไปพลั้งมือฆ่าคนจากเมืองอื่น เดินทางไกลหนีมาก็มาดูประกาศ คนทั้งสามพูดคุยแล้วถูกคอ จึงร่วมกรีดเลือดสาบาน เป็นพี่น้องกัน และร่วมกันรับใช้ชาติบ้านเมือง
สถานที่ที่ทั้งสามทำพิธีร่วมคำสาบานกันนั้นเป็นสวนท้อ จึงเป็นที่มาของคำว่า "สามพี่น้องร่วมคำสามบานในสวนท้อ"
ภาพที่สอง
เหล้าอุ่นโค่นฮัวหยง
ระหว่างที่สามพี่น้องใช้ชีวิตอยู่บนเส้นทางสนามรบ ผ่านสมรภูมิน้อยใหญ่ประปราย แต่สำหรับกวนอู ยังไม่มีโอกาสแสดงฝีมือให้เป็นที่ประจักษ์ จนกระทั่งในสงครามนี้ กล่าวคือหลังจากปราบปรามโจรโพกผ้าเหลืองสำเร็จ เกิดความวุ่นวายภายในราชสำนัก ตั๋งโต๊ะซึ่งเป็นเจ้าเมืองคนหนึ่งเดินทางเข้าสู่เมืองหลวง แผ่ขยายอำนาจ สร้างอิทธิพลและสร้างความเดือดร้อนไปทั่ว เป็นเหตุให้โจโฉระดมพลสิบแปดหัวเมืองใหญ่ นำทัพมาขับไล่ ออกไปๆๆโดยในกองทัพพันธมิตรครั้งนั้น มีอ้วนเสี้ยวเป็นแกนนำ
ฝ่ายตั๋งโต๊ะส่งทหารมือรองคนหนึ่งชื่อว่า "ฮัวหยง" (มือหนึ่งคือลิโป้) ออกมาเป็นแนวหน้า แม่ทัพนายกองขุนศึกนักรบทหารเอกของกองทัพพันธมิตรบาดเจ็บล้มตาย ไม่มีใครรับมือฮัวหยงไหว จนอ้วนเสี้ยวต๊อแต๊ กวนอูก็อาสาว่าจะไปชนเอง อ้วนเสี้ยวดูถูกว่ากวนอูเป็น "ทหารปลายแถว" (เป็นเพียงพลธนูที่ติดตามอยู่ในทัพคนหนึ่งเท่านั้น) จะไม่ยอมให้ไป แต่ได้โจโฉที่เห็นแวว ออกมาตบอกรับรอง รินเหล้าให้ดื่มเป็นกำลังใจ กวนอูบอกว่าเอาไว้ฆ่าฮัวหยงเสร็จแล้วจะกลับมาดื่ม ว่าแล้วก็ควบม้ากุบๆ ออกไป เพียงอึดใจเดียวก็หิ้วหัวฮัวหยงกลับมา เหล้าที่โจโฉรินไว้ยังอุ่นอยู่เลย
กวนอูจึงดังเป็นพลุแตกในชั่วข้ามคืน (ภาพอาจโหดไปหน่อย)
ภาพที่สาม
ยอดม้าเซ็กเธาว์ ยอดคนลิโป้
ลิโป้เป็นจอมพลังหน้าหยกคนหนึ่ง ที่เรียกว่า เก่ง หล่อ แต่เชี่ย กล่าวคือเห็นแก่ลาภยศสรรเสริญ บ้าผู้หญิง ไม่จงรักภักดี ผลประโยชน์ต้องมาเป็นที่หนึ่ง (ความจริงก็ฟังดูปกติดีสำหรับคนสมัยนี้เนอะ...) วิทยายุทธ์เป็นเลิศ จนบรรดาเซียนสามก๊กวิเคราะห์กันแล้วว่าเป็นอันดับหนึ่งของแผ่นดินสมัยนั้น แต่ด้วยนิสัยส่วนตัวเชี่ยๆ นี่เอง ทำให้มีชื่อเสียมากกว่าชื่อเสียง
เขาคือที่มาของคำว่า "เข้าแก๊งไหนหัวหน้าตายหมด" ตอนแรกอยู่รับใช้เต็งหงวน ต่อมาถูกตั๋งโต๊ะซื้อด้วยผู้หญิงกับม้าดี (ก็คือม้าเซ็กเธาว์คู่ใจตัวนี้แหละ) จึงฆ่าเต็งหงวนแล้วมาอยู่กับตั๋งโต๊ะ ต่อมาถูกลวงด้วย "กลลูกโซ่" แย่งผู้หญิงกับตั๋งโต๊ะซึ่งตนเรียกเป็นพ่อบุญธรรม แล้วก็ฆ่าตั๋งโต๊ะกับมือ สุดท้ายตกระกำลำบากมาอยู่กับเล่าปี่ แต่แล้วก็หักหลังเล่าปี่อีกที จนกระทั่งในศึกครั้งหนึ่ง ถูกลูกน้องตัวเองแอบจับมัด (โดนเองบ้างอะไรบ้าง) เอาตัวไปให้โจโฉ และถูกประหารในที่สุด
ถึงกระนั้นก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า ลิโป้เก่งสุดในสามก๊ก จนเป็นที่มาของสำนวนจีนว่า "ยอดม้าคือเซ็กเธาว์ ยอดคนคือลิโป้"
ภาพที่สี่
สามผู้กล้า รบลิโป้
เป็นศึกครั้งเดียวกับที่กวนอูโค่นฮัวหยง ในคราวฝ่ายพันธมิตรยกทัพตีด่านที่ลิโป้รักษาการณ์อยู่ ไม่มีใครสู้ลิโป้ได้ เตียวหุยอาสาออกไปรบ ก็ตีกันไปมาหลายร้อยกระบวนเพลง กินกันไม่ลง กวนอูเข้าไปช่วยอีกแรง สองรุมหนึ่งก็ยังโค่นลิโป้ไม่ลง เล่าปี่ก็มาจอยกันจอยกัน สุดท้ายลิโป้ก็ต้องล่าถอย (บ้างก็บอกสู้ไม่ไหวแล้ว บ้างก็บอกเพราะพะวงว่าอีกฝ่ายหนึ่งจะมาตีเมือง จึงถอยเอง... แต่ที่แน่ๆ ไม่เคยมีใครบอกว่าลิโป้บ่นเลยนะเนี่ย แมนชะมัด)
เอาเป็นว่าสุดท้ายฝ่ายสามรุมหนึ่งก็เป็นฝ่ายชนะ แต่บังเอิญฝ่ายรุมเป็นฝ่ายพระเอก และลิโป้ก็ดันเป็นคนน่าหมั่นไส้ด้วย ฉากนี้จึงกลายเป็นหนึ่งในวีรกรรมของสามพี่น้องไปซะงั้น มาลองนึกกันแบบแฟร์ๆ แล้ว นี่มัน "สามผู้กล้า รุมลิโป้" ชัดๆ
ภาพที่ห้า
เต็กเลา ยอดม้าพิทักษ์นาย
กล่าวคือขณะนั้นเล่าปี่หนีมาอาศัยอยู่กับเล่าเปียวผู้เป็นเจ้าเมืองเกงจิ๋ว ได้ม้าเต็กเลาตัวนี้มาจากการปราบกบฏครั้งหนึ่ง ความจริงเล่าเปียวเห็นม้าตัวนี้แล้วชอบ เอ่ยปากขอไว้เล่าปี่ก็ให้ แต่กุนซือของเล่าเปียวมากระซิบบอกว่า ตามตำราโหงวเฮ้งของม้า (หึหึ) เจ้าม้าตัวนี้เป็นม้ากินนาย (เหมือนผู้หญิงที่มีดวงกินผัวอ่ะ รู้จักไหม) ก็คือใครเป็นนายของมัน ก็ต้องตายโอ๋ง เช่นเจ้าของเก่าของมันก็มาพ่ายให้กับทัพของเล่าปี่เช่นกัน เล่าเปียวจึงคืนเล่าปี่มา บอกว่าไม่เอาดีกว่า อาตี๋ลื้อเอาคืนไปเถอะ
ต่อมาเกิดเรื่องที่ญาติฝ่ายเมียของเล่าเปียวหมายจะเอาชีวิตเล่าปี่ แต่มีคนในมากระซิบบอกก่อน ให้เล่าปี่รีบควบม้าหนีไปซะ ขณะควบมาถึงแม่น้ำกว้างมากแห่งหนึ่ง ชื่อแม่น้ำตังเข... ซวยละสิ ข้างหลังมีศัตรูไล่มา ข้างหน้ามีแม่น้ำขวาง เต็กเลาจะกินนายอีกแล้วใช่ไหม ไม่รู้ด้วยความฮึดมาจากไหน ชิชะชอบว่านัก ข้าจะเปลี่ยนดวงชนะกรรมให้ดู เจ้าม้าเต็กเลามันถอยๆ แล้ววิ่งๆ เฟี่ยววว กระโจนข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา เอ๊ย แม้น้ำตังเขมาจอดเอี๊ยดอยู่ฝั่งตรงข้ามอย่างปลอดภัย แน่นอน ทหารที่ไล่ตามหลังมาย่อมข้ามมาไม่ได้ ทำให้เล่าปี่รอดตาย เล่าปี่จึงรักมันมาก
แต่ต่อมาเล่าปี่ยกมันให้ "บังทอง" รองกุนซือยืมขี่ ปรากฏว่าเจ้าม้าเต็กเลาก็เป็นต้นเหตุทำให้บังทองต้องตายจริงๆ และจากนั้นก็หายสาบสูญไป... นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า อย่าขี่ม้าเจ้านาย หึหึ
ภาพที่หก
จูล่งช่วยอาเต๊า
คนจีนบอกว่า "สถานการณ์สร้างวีรบุรุษ" กวนอูแจ้งเกิดในศึกโค่นฮัวหยงฉันใด จูล่งก็แจ้งเกิดในศึกช่วยอาเต๊าฉันนั้น
อาเต๊าเป็นลูกชายของเล่าปี่ ที่เกิดท่ามกลางสนามรบ ขณะนั้นกองทัพของเล่าปี่พ่ายศึกต่อโจโฉ ต้องถอยทัพหนีไปหาที่ตั้งหลักใหม่ โดยมีทัพของโจโฉไล่ตามมาติดๆ ทัพของโจโฉนั้นเ***้ยมโหด กล่าวคือเมื่อไม่นานมานี้เพิ่งจะ "ฆ่าล้างเมือง" เมืองหนึ่งไปหมาดๆ ทำให้ประชาชนหวาดกลัว ขออพยพตามกองทัพมาด้วย และด้วยเหตุที่ต้องรอบรรดาชาวเมืองที่ขอติดตาม ทำให้กองทัพของเล่าปี่เดินทางได้ช้า จนกองทัพของโจโฉไล่ตามทัน (ถ้าจำไม่ผิด ฉากนี้ปรากฏอยู่ในเรื่องโจโฉแตกทัพเรือ แผ่นแรกด้วยนะ)
ขณะเกิดเหตุชุลมุน ฮูหยินของเล่าปี่ (แม่ของอาเต๊า) หนีไม่ทัน ตกอยู่ท่ามกลางวงล้อมของข้าศึก จูล่งฝ่าดงตีน เอ้ย ดงหอกดงดาบเข้าไปหา ก็เจอฮูหยินยกอาเต๊ามาฝาก ส่วนตัวนั้นกลัวจะเป็นภาระจึงโดดบ่อน้ำตาย จูล่งก็พาอาเต๊าฝ่าดงข้าศึกออกมา แต่เอ๊ะ ทำไมจะพ้นๆ อยู่แล้ว ในอกมันโหวง... แว้ก อาเต๊าหล่น จึงต้องวกม้ากลับเข้าไปหาอีก คว้าตัวขึ้นมาแล้วหนีออกมาอีก แล้วก็แว้ก หล่นอีก อยู่กี่ครั้งก็ไม่รู้ แต่สุดท้ายก็รอดพ้นออกมาพบเล่าปี่จนได้
เล่าปี่เห็นจูล่งบาดเจ็บปางตาย ก็โมโหว่าอ้ายลูกเวลล์ เพราะเอ็งคนเดียวเกือบทำให้ข้าต้องสูญเสียทหารเอกฝีมือดี ว่ากันว่าเล่าปี่โยนเด็กทิ้งลงพื้นไปหนึ่งตุ้บ...
อาเต๊าก็คือพระเจ้าเล่าเสี้ยนในภายหลัง ว่ากันว่าเป็นฮ่องเต้ที่เอ๋อๆ แบบขงเบ้งก็สอนให้เก่งไม่ได้ และว่ากันว่านั่นเป็นผลพวงจากการโดนพ่อตัวเองโยนลงพื้นเมื่อครั้งกระนั้น... ซึ่งก็เป็นแค่ว่ากันขำๆ หรอกนะ
แต่จูล่งสิ ได้ใจมหาชนกันไปเลย คะแนนโหวตถล่มทลาย
ภาพที่เจ็ด
กวนอูปล่อยโจโฉ
ภาพลักษณ์ของกวนอูคือเทพเจ้าแห่งความเที่ยงธรรม ความซื่อสัตย์ นอกจากเป็นเทพสงครามที่รบเก่งไม่เป็นรองใคร (ยกเว้นลิโป้ม้าง) แล้ว ที่สำคัญคือมีน้ำใจที่เด็ดเดี่ยว เรื่องต้องเล่าจากในความผิดพลาดครั้งหนึ่ง ทำให้กวนอูถูกโจโฉจับตัวไปเป็นเชลยศึก (เหตุผลมันซับซ้อน ไว้เล่าภายหลัง) เป็นเวลาหลายปีดีดักที่กวนอูอยู่กับโจโฉ โจโฉพยายามอย่างยิ่งยวดในการซื้อใจ ให้ทั้งลาภยศ สรรเสริญ สุดจะปรนเปรอ แต่สุดท้ายเมื่อได้ข่าวของเล่าปี่เท่านั้น กวนอูก็จากมาทันที (ก่อนนั้นได้ตอบแทนบุญคุณโดยการช่วยสังหารทหารเอกของอ้วนเสี้ยว ที่ชื่องันเหลียงกับบุนทิวไปแล้ว ในศึกครั้งหนึ่ง... อย่างน้อยกวนอูก็คิดอย่างนั้น)
ภายหลังเสร็จศึกที่ผาแดง (ตอนที่โจโฉแตกทัพเรือ) กวนอูขออาสาจากขงเบ้งมาประจำการที่ช่องแคบฮัวหยง (กวนอูเป็นอะไรกับชื่อนี้ไม่รู้ ตะกี๊ก็ฮัวหยง ตะนี้ก็ฮัวหยง) โดยได้ลงนามไว้ในสัญญาทัพ ว่าหากตนเห็นแก่บุญคุณเก่าก่อนแล้วปล่อยตัวโจโฉไปโดยพลการ จะยอมชดใช้ด้วยชีวิต
แต่สุดท้ายกวนอูก็ใจอ่อนปล่อยโจโฉไป โดยตั้งใจจะกลับไปรับโทษเอง เล่าปี่ เตียวหุยและทุกคนต้องช่วยกันร้องขอชีวิตให้ ส่วนขงเบ้งก็ไม่ได้ตั้งใจจะสังหารกวนอูอยู่แต่ก่อนแล้ว (แน่นอน กวนอูไม่รู้หรอกว่านี่ก็แค่ขงเบ้งหยอกเย่นนน) ความมีน้ำใจที่ยอมสละชีวิตของตนเพื่อตอบแทนน้ำใจของโจโฉครั้งนี้ เป็นหนึ่งในวีรกรรมของกวนอู ที่ส่งเสริมภาพลักษณ์ของกวนอูให้เทพยิ่งกว่าเดิม จนทุกวันนี้