ผันตัวเองจากอาชีพเภสัชกรหันหน้าเข้าสู่วงการบันเทิง ผ่านงานโฆษณา มิวสิกวิดีโอ ภาพยนตร์ แถมพ่วงดีกรีหนุ่มคลีโอมาอีกต่างหาก ล่าสุดมารับบท "แก้ว" พระเอกในละครเรื่อง "ไฟรักอสูร" หนุ่ม "บอย" ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์ ก็ทำเอาสาวๆ ใจละลาย กลายเป็นพระเอกน้องใหม่ที่ส่อแววแจ้งเกิดอีกคน
เล่นละครเรื่องแรกก็ได้รับบทพระเอกเลย การตอบรับเป็นอย่างไร ดูเหมือนจะรุ่งซะด้วย
โอ เค...คนที่เจอเขาก็บอกว่าละครสนุกดี ไปไหนมาไหน ก็มีคนเข้ามาเรียกแก้วบ้าง บอกว่าน่าสงสารบ้าง เพราะตอนนี้ยังไม่ถึงบทโหด คนรอบข้างหลายๆ คนก็พูด ว่าผมทำได้ดีกว่าที่คิด เหมือนตอนแรกผมเป็นคนนิ่ง และเงียบ แต่ต้องรับบทหนัก โหด แถมดราม่าด้วย ก็เกรงว่าจะทำได้หรือเปล่า จะออกมาอย่างไร พองานออกมาหลายคนก็บอกว่าเกินคาด
กดดันมาก ยิ่งพอรู้ว่า อาเปี๊ยก (พิศาล อัครเศรณี) อ๊อฟ (พงศ์พัฒน์ วชิรบรรจง) แสดงมาก่อน ยิ่งกดดัน เพราะทั้งคู่เรียกได้เลยว่าเป็นตัวพ่อของวงการ สำหรับผม ผมใหม่มากๆ ในช่วงเวิร์กช็อปกดดันจนท้อไปเลยก็มี คือมันยาก ทำไม่ได้ ร้องไห้ก็ไม่เคยร้องมาก่อน ได้ทีมงาน และอาเปี๊ยก (พิศาล ผู้กำกับ)ให้กำลังใจ หนักเลยกว่าจะทำออกมาได้แบบนี้
ทำงานกับผู้ กำกับฯ ที่ชื่อ พิศาล สนุกดี จริงๆ แล้วอาเปี๊ยก บุคลิก หน้าตา ขัดกับนิสัยเลย ความจริงอาเปี๊ยกเป็นคนสนุกสนาน เฮฮา ชอบอำ มีดุบ้าง เพราะเป็นคนจริงจัง อยากให้งานออกมาดี
ผู้กำกับฯ โหดไหม ไม่นะ แต่ผมก็มีโดนเหมือนกัน เป็นฉากที่ต้องร้องไห้ ผมร้องไม่ออก ก็เลยโดนตบหน้า แต่ผมไม่โกรธนะ เพราะอาเขาเข้ามาพูดดีๆ อธิบายเรื่องราวในบท การตบก็เพื่อเรียกอารมณ์ เหมือนเป็นวิธีการกระตุ้นของอา ในกองก็จะรู้ว่าจริงๆ แล้วอาเป็นคนใจดี เพียงแค่ปากไว โผงผาง ผมก็เคยถามอานะ ว่าผมเล่นเป็นยังไง ก็ได้คำตอบว่าใช้ได้ในระดับหนึ่ง แต่ยังต้องแก้ไขบางจุด เช่น แววตา
พี่วิกกี้เล่นละครมาเยอะ เป็นมืออาชีพ เล่นเก่งมาก วันแรกผมเกร็งๆ เหมือนกัน เพราะเคยเห็นพี่เขาแต่ในทีวี วันหนึ่งต้องมาทำงาน เจอวันแรกผิดคาด พี่วิกกี้เป็นกันเองมาก ทำให้ความกดดันลดไปเยอะ คอยพูด คอยบอกผมว่าไม่ต้องเกรงใจ แล้วก็ช่วยแนะนำเทคนิคต่างๆ
จากเภสัชกรมาทำงานในวงการบันเทิงได้อย่างไร
ผม ทำงานตรงนี้มาตั้งแต่เรียนปี 1-2 มาถึงวันนี้ก็อยู่วงการมา 5-6 ปีแล้ว เริ่มจากถ่ายแบบ ถ่ายโฆษณา เล่นเอ็มวี จากการชักชวนเหมือนคนทั่วไป ตอนแรกก็ไม่คิดว่าจะมาเอาดีตรงนี้ คิดว่าทำงานหาเงินค่าขนม อย่างงานโฆษณาตอนนั้นได้เงิน 1-2 หมื่นก็เยอะแล้วสำหรับเด็กที่ยังเรียนอยู่ จากนั้นพอจบก็มีงานเข้ามามากขึ้น ผมมีโอกาสได้ไปเล่นหนัง ตอนนั้นหางานอยู่พอดี ยังไม่ได้ทำอะไรเป็นหลักเป็นแหล่งด้วย มีโอกาสก็เลยเข้ามาลองทำดูก่อน
มีพี่-น้องไหม
ผมมีน้องชาย 2 คน ผมเป็นพี่คนโต เราห่างกัน 3 ปี น้องคนกลางอายุ 22 ปี ส่วนคนเล็ก 19 ปี คนกลางตอนนี้ก็เริ่มมีงานโฆษณา งานเอ็มวีเข้ามาบ้างแล้ว ตอนเด็กพวกเราก็จะซนกันตามประสาผู้ชาย
ผมเป็นคนนิ่งๆ ไม่กล้าพูดกับใครก่อน ถ้าคนมองหน้า ผมก็จะไม่กล้าสบตา แต่ถ้ารู้จักจริงๆ ผมจะเป็นคนเฮฮาค่อนข้างมาก ในกลุ่มเพื่อนจะเป็นหัวโจกเลย คือผมจะไม่ใช่คนชอบเรียนมาก แต่รู้สึกว่าต้องรับผิดชอบให้ดีที่สุด
กลัว ไหมว่าจะโดนขุดคุ้ยเรื่องในอดีต หรือโดยแชะภาพจากปาปาราซซี ไม่กลัว อย่างที่บอกทุกวันนี้ผมก็ยังใช้ชีวิตปกติเดิมๆ ไม่ได้สนใจอะไร และคงไม่มีอะไรให้ขุดคุ้ย ผมเป็นคนเรียบๆ ง่ายๆ สบายๆ อยู่แล้ว
มีใครมาดูแลหัวใจหรือยัง ตอนนี้เรื่อยๆ ไม่ได้ปิดโอกาส ยังไม่มีอะไรชัดเจน คุยๆ ศึกษากันไป ไม่ได้อะไร ผมยังวุ่นกับการทำงานด้วย
แสดง ว่ามีคนดูๆ คุยๆ อยู่ มีคุยบ้าง แต่ยังไม่มีอะไรชัดเจน เลยไม่กล้าพูดอะไรมาก คุยมาสักพักหนึ่ง ไม่ถึงปี เป็นคนนอกวงการ ผมเลยไม่อยากพูดอะไรเท่าไหร่ ไม่อยากใหเขาเสียหาย
มุมมองความรักล่ะ เป็นอะไรที่มาเติมเต็มให้ยืนได้ ไม่ใช่สิ่งแน่นอน ไม่ใช่ทั้งหมดของชีวิต ชีวิตยังมีอย่างอื่นให้คิด ให้ทำ ไม่ว่าจะเป็น แม่ หรือ เพื่อน
...นี่แหละตัวตนชีวิตจริงของหนุ่มหน้ามน ไอ้แก้ว แห่งเกาะปั้นดาว...
ชื่อจริง ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์
ชื่อเล่น บอย
อายุ 25 ปี
วันเกิด 20 สิงหาคม 2527
การศึกษา ปริญญาตรีเภสัชศาสตร์ จุฬาฯ
ส่วนสูง 180 ซม.
น้ำหนัก 65 กก.
ผลงานที่ผ่านมา โฆษณา มิวสิกวิดีโอ หนุ่มคลีโอปี 2551 ภาพยนตร์ ฝัน-หวาน-อาย-จูบ
ผลงานล่าสุด ละครไฟรักอสูร