เมื่อ "ชีวิต" ของคนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ยังจะต้องเดินต่อไป ถึงแม้เหตุการณ์ความไม่สงบ ที่ยังเกิดขึ้นอย่าง "รุนแรง" อยู่ในพื้นที่ " CARBOMB " หรือ " BOMB IN CAR " แล้วแต่ใครจะเรียกก็เกิดขึ้นบ่อยครั้งขึ้น....มากขึ้น และ "ถี่ขึ้น"
เฉพาะ ในพื้นที่ จ.ยะลา เหตุการณ์ "คาร์บอม" ครั้งแรก เกิดขึ้นที่หน้าโรงเรียนนิบงชนูปถัมภ์ วันเดียวกับเกิดเหตุคาร์บอมหน้าโรงแรมซีเอส.ปัตตานี เหตุการณ์ที่สอง เกิดขึ้นหน้าโรงแรมปาร์ควิว ครั้งนั้นโชคดี ที่ "ระเบิดไม่สมบูรณ์"เหตุการณ์ครั้งที่สาม... หน้าที่ว่าการอำเภอยะหาที่ทำให้ "รอง ผบ.ฉก.14" เสียชีวิต และล่าสุด..." คาร์บอม" กลางเมืองยะลา
เมื่อวันที่ 4 กันยายน 2552 เวลา 09.40 น.คนร้ายนำระเบิดซุกไว้ในรถยนต์กระบะนิสสัน รุ่นฟอนเทียร์ สีบรอนซ์ทอง ติดแผ่นป้ายทะเบียนปลอมมาจอดที่ตรงสี่แยกถนน ณ นคร ย่านการค้าเขตเทศบาลนครยะลาแล้วจุดชนวนระเบิดขึ้นในขณะที่ "ตชด.พลร่ม" จากค่ายนเรศวร์ขับรถยนต์กระบะ จากพื้นที่ อ.บันนังสตา จ.ยะลา เพื่อมาซื้อเสบียงขับมาถึงจุดเกิดเหตุ
"บึ้ม....ม"
แรง ระเบิดจากรถยนต์คันเกิดเหตุ ทำให้รถยนต์กระบะของ "ตชด.พลร่ม" เกิดไฟลุกไหม้....ทันที มีเจ้าหน้าที่อยู่ 3 นายรวมทั้ง"ส.ต.ต.จตุพงษ์ หลามจันทึก" ซึ่งรับหน้าที่ขับรถคันดังกล่าวเจ้าหน้าที่ 2 นาย หนีออกจากรถได้ทัน ได้รับบาดเจ็บไม่มากนัก
แต่ ส.ต.ต.จตุพงษ์ คาดว่าเสียชีวิตทันทีขณะเกิดเหตุระเบิด ถูกเพลิงไหม้ ติดอยู่ภายในรถหลังจากเพลิงสงบ...เจ้าหน้าที่ก็นำร่างอันไร้วิญญานของ "ส.ต.ต.จตุพงษ์" ออกจากรถ... เหลือเพียง "ซาก" ของรถที่เสียหายยับเยินเป็นการสูญเสีย "นักรบ" ของชาติไทย อีกครั้ง กับเหตุการณ์ในครั้งนี้
"ระเบิดในครั้งนี้ บรรจุในถังแก๊สจำนวน 2 ถัง" น้ำหนักรวมไม่ต่ำกว่า 50 กก. จุดชนวนด้วย "ระบบวิทยุสื่อสาร" ไม่เพียงแต่ "เรา" ต้องสูญเสียเจ้าหน้าที่ไป 1 นาย อาคารในจุดเกิดเหตุ ก็พังเสียหาย จำนวนมาก
ต้องแสดงความเสียใจกับญาติของ "ส.ต.ต.จตุพงษ์ หลามจันทรทึก" ตชด.พลร่ม ค่ายนเรศวร์ ที่เสียชีวิตในเหตุการณ์นี้ด้วย
วันนี้ ...เหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เดินทางมาถึงปีที่ 5 ย่างเข้าปีที่ 6 แล้ว ความรุนแรง...มีแต่เพิ่มขึ้น อย่างที่ทุกท่านเห็นและไม่มีทีท่าว่าจะจบลงในเร็ววันนี้ เหตุการณ์เช่นนี้....ทุกท่านก็จะได้เห็นอีกต่อไปอยู่ที่ว่า.... จะเป็น "ผู้ใด" เท่านั้น เมื่อถึงเวลา