นักวิชาการจี้รัฐบาลเร่งผลักดันประเด็นผู้สูงอายุเป็นวาระแห่งชาติ เปิดผลสำรวจน่ากังวล แนวโน้มถูกลูกหลานทอดทิ้งมากขึ้น ขณะที่อีก 20 ปีข้างหน้าตัวเลขคนชราจะพุ่งสูงเป็น 1 ใน 4 ของประชากรทั้งหมด
ศาสตราจารย์ศศิพัฒน์ ยอดเพชร อาจารย์คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่า สังคมไทยเริ่มเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ โดยประชากรวัยเด็กเริ่มลดจำนวนลงพอๆ กับประชากรวัยแรงงาน ขณะที่ประชากรวัยสูงอายุกลับเพิ่มมากขึ้น สาเหตุสำคัญมาจากสภาพสังคม เศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลงไป ทำให้ผู้หญิงมีบุตรเฉลี่ยจำนวนลดลง จาก 5.4 คน ในปี 2503 เหลือเพียง 1.85 คน ในปี 2553 ขณะที่อายุเฉลี่ยของคนไทยเพิ่มขึ้นจาก 71.7 ปีในปัจจุบัน เป็น 76.4 ปี ภายใน 20 ปีข้างหน้า การเปลี่ยนแปลงของโครงสร้างดังกล่าวทำให้สัดส่วนประชากรผู้สูงอายุต่อสัดส่วนประชากรทั้งประเทศเพิ่มจากร้อยละ 7 เป็นร้อยละ 11 และจะเพิ่มเป็นร้อยละ 25 ในปี 2573
"จากการสำรวจพบว่า ปัจจุบันผู้สูงอายุอยู่ตามลำพังมากขึ้น จากร้อยละ 3.6 ในปี 2537 เพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 7.6 ในปี 2550 ผู้สูงอายุที่อยู่กับคู่สมรสลำพังมีร้อยละ 11.6 ในปี 2537 เพิ่มเป็นร้อยละ 16.3 ในปี 2550 ขณะที่แนวโน้มที่น่ากังวลคือ สัดส่วนของผู้สูงอายุที่อาศัยอยู่กับลูกลดลงตามลำดับ จากร้อยละ 73.6 ในปี 2537 เหลือ 65.7 ในปี 2545 และเหลือร้อยละ 60.2 ในปี 2550 ทำให้การแสดงความรักความห่วงใยลดลง โอกาสใกล้ชิดกับคนในครอบครัวลดลง การแสดงความรักต้องพึ่งพาเทคโนโลยีการสื่อสารอย่างโทรศัพท์มือถือมากขึ้น"
ศ.ศศิพัฒน์กล่าวว่า รัฐบาลจะต้องมีการวางระบบบริการดูแลผู้สูงอายุระยะยาว รองรับสังคมผู้สูงอายุในวันข้างหน้า เพราะสังคมไทยเหลือเวลาน้อยมากในการปรับตัวกับโครงสร้างประชากรใหม่ ที่มีจำนวนผู้สูงอายุในสัดส่วนที่มากอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน อันจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม วัฒนธรรม และด้านอื่นๆ ต่อไป รัฐบาลจึงควรกำหนดผลักดันแผนผู้สูงอายุเป็นวาระแห่งชาติ เพื่อให้ประเด็นผู้สูงอายุได้รับความสนใจ โดยเพิ่มบทบาทให้แก่องค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) เป็นผู้ดูแลผู้สูงอายุในชุมชน เพราะเป็นองค์กรที่อยู่ในพื้นที่ ใกล้ชิดชาวบ้าน มีความเข้าใจและดูแลผู้สูงอายุได้ดี