รุ่นพี่ประธานนักเรียนเรียกสอบหลังเพื่อนโทรศัพท์หาย สงสัยลูกชายขโมยไปขาย แต่เมื่อลูกชายยืนยันไม่ได้ทำเลยใช้อำนาจเถื่อนเรียกเพื่อนๆ มารุม ด้านเหยื่อระบุอาจารย์ก็รู้เห็นเหตุการณ์ แต่ไม่ได้ห้ามปราม แค่บอกจะทำอะไรก็ทำไป แต่อย่าให้ถึงขั้นเลือดตกยางออก
นายแสง อายุ 34 ปี ได้พา ด.ช.เค อายุ 13 ปี และด.ช.นัน อายุ 13 ปี บุตรชายและเพื่อนของบุตรชาย เรียนอยู่ชั้น ม.2 โรงเรียนกีฬากรุงเทพมหานคร เดินทางเข้าร้องทุกข์ต่อ นางปวีณา หงสกุล กรณีถูกรุ่นพี่ชั้นม.ปลาย กว่า 30 คนรุมทำร้ายในห้องพักนักกีฬาจนได้รับบาดเจ็บ
นายแสง เปิดเผยว่าบุตรชายของตนเรียนอยู่ชั้น ม.2 โรงเรียนกีฬากรุงเทพมหานคร ได้เข้าอยู่ชมรมบาสเกตบอลของโรงเรียนตั้งแต่ ม.1 แต่เมื่อวันที่ 29 มิ.ย.ที่ผ่านมา ในวันเกิดเหตุขณะที่บุตรชายเลิกเรียนในตอนเย็นเวลาประมาณ 15.00 น. จึงได้นำกระเป๋าสัมภาระเดินไปเก็บที่หอพัก(ห้องนอนรวม) จากนั้นเวลา 16.00 น.ได้ลงมาซ้อมกีฬาตามปกติ ภายหลังซ้อมกีฬาเสร็จประมาณ 18.30 น.จึงได้เดินขึ้นห้องพักเพื่ออาบน้ำและเปลี่ยนเสื้อผ้า จากนั้นประมาณ 20.30 น.รุ่นพี่ ม.6 ชื่อนายกอล์ฟ ซึ่งเป็นประธานนักเรียน นายเต่า และนายเอ็ม ได้เดินขึ้นมาเรียกให้นักกีฬาทุกคนมารวมเข้าแถวในห้องพัก โดยให้บุตรชายของตนและเพื่อนอีกหนึ่งคน มานั่งที่หน้าแถว
จากนั้น นายกอล์ฟได้สอบถามบุตรชายตนว่าเมื่อวันศุกร์โทรศัพท์ของนายแบงก์หาย บุตรชายจึงตอบว่ารู้ เพราะนายแบงก์บอกเมื่อตอนเช้า นายกอล์ฟจึงถามบุตรชายต่อว่าแล้วเมื่อวันศุกร์ไปไหนมา ทำไมไม่มาเรียน บุตรชายจึงบอกไปว่าวันศุกร์ไม่สบายจึงขอให้ด.ช.นัน ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทกันพากลับไปส่งที่บ้าน
จากนั้นนายกอล์ฟได้โทรศัพท์ ไปหาภรรยาตนที่บ้านแล้วสอบถามว่าเมื่อวันศุกร์บุตรชายตนกลับบ้านไปทำอะไร บ้าง ภรรยาจึงตอบว่าวันศุกร์บุตรชายไม่ค่อยสบาย จึงให้ทานยาและพักผ่อน หลังจากวางสายนายกอล์ฟ ได้หันมาพูดกับบุตรชายตนว่าพูดไม่ตรงกับแม่ พร้อมกับบังคับให้พูดใหม่ว่าวันศุกร์ไปไหนมา บุตรชายก็ยืนยันตามเดิมว่าไม่ได้ไปไหนจริงๆ วันนั้นไม่สบายจะไปไหนได้ ทำให้นายเต่า ซึ่งเป็นรุ่นพี่และเป็นเพื่อนของนายกอล์ฟไม่พอใจมาก เดินมาตบหัวของบุตรชาย 4-5 ครั้ง
จากนั้นนายกอล์ฟ ได้ให้นายเต่าและนายเอ็มพาด.ช.นันเพื่อนของบุตรชายแยกไปอีกห้องหนึ่ง สักพักนายเอ็ม ก็เดินกลับมาพร้อมพูดกับบุตรชาย โดยอ้างว่าเพื่อนของลูกบอกว่าลูกชายของตนเป็นคนเอาโทรศัพท์ของนายแบงก์ไป บุตรชายจึงปฏิเสธว่าไม่ได้เอาไปจริงๆ เมื่อบุตรชายพูดจบได้ถูกนายเอ็ม ตบที่ศีรษะพร้อมกับใช้เท้าถีบที่หัวไหล่
จากนั้นเมื่อเห็นว่าบุตร ชายตนไม่ยอมรับจึงได้นำผ้าห่มมาคลุมที่ศีรษะของบุตรชายตนและเรียกรุ่นพี่ ประมาณ 30 คน เข้ามารุมทำร้ายเตะต่อย จนกระทั่งถึงตี 2 จึงได้ปล่อยให้บุตรชายไปนอนในสภาพเขียวช้ำไปทั่วทั้งตัว ภายหลังเกิดเรื่องบุตรชายได้แจ้งให้ตนทราบ ตนจึงเดินทางไปขอความเป็นธรรมกับผู้อำนวยการโรงเรียน แต่เรื่องกลับเงียบไม่มีการดำเนินการใดๆ กับรุ่นพี่ที่ก่อเหตุ อีกทั้งบุตรชายของตนยังถูกข่มขู่ตลอดเวลา จึงตัดสินใจเข้าร้องทุกข์ขอความเป็นธรรมต่อนางปวีณา
.ช.เค และ ด.ช.นัน ยังเล่าให้ฟังอีกว่า ขณะที่ตนโดนรุมทำร้ายอยู่นั้น มีอาจารย์คนหนึ่ง เดินลงมาเห็น แล้วได้บอกกับรุ่นพี่ที่กำลังรุมทำร้ายอยู่ว่าจะทำอะไรก็อย่าให้ถึงกับเลือด ตกยางออกก็แล้วกัน แล้วก็เดินจากไปโดยไม่ได้ห้ามปรามแต่อย่างใด หลังเกิดเหตุเวลามาเรียน ก็จะถูกเพื่อนๆ และรุ่นพี่ที่รู้เรื่อง ต่างพูดจาถากถางตนต่างๆ นานา เช่น ไอ้ขี้ขโมย หรือไม่ก็สมน้ำหน้าดีแล้วที่ถูกกระทืบ ทำให้ตนไม่อยากไปโรงเรียน ไม่รู้จะทำอย่างไรเมื่อปรึกษาพ่อแม่แล้ว จึงตัดสินใจเข้าร้องทุกข์ขอความเป็นธรรมต่อนางปวีณา ดังกล่าว