ตราบาปของชายเจ้าชู้ พาแฟนทำแท้งถึง 8 ศพ
ตราบาปของชายเจ้าชู้ พาแฟนทำแท้งถึง 8 ศพ
ตราบาปของชายเจ้าชู้ พาแฟนทำแท้งถึง 8 ศพ
ต้องยอมรับความจริงว่า สังคมไทยทุกวันนี้เปลี่ยนไปอย่างมาก โดยเฉพาะบรรดาวัยรุ่นที่นิยมมีเพศสัมพันธ์ในอายุที่น้อยลงมากอย่างน่าตกใจ หรือที่เรียกภาษาบ้าน ๆ ว่า "วัยรุ่นใจแตก" รวมทั้งผู้ชายเจ้าชู้ที่มักจะเปลี่ยนผู้หญิงไม่ซ้ำหน้า จนเมื่อพลาดพลั้งทำให้ฝ่ายหญิงตั้งครรภ์โดยไม่ได้ตั้งใจ คลินิกทำแท้งเถื่อนจึงกลายเป็นที่พึ่งสุดท้ายของพวกเขา
และเรื่องราวที่รายการตีสิบนำมาเสนอเมื่อคืนวันอังคารที่ 3 สิงหาคมที่ผ่านมา ก็ถือเป็นตัวอย่างหนึ่ง ของผู้ชายหลายใจ ที่ได้สร้างตราบาปอันหนักหนาให้เกิดขึ้นกับตัวเอง ผู้หญิงอีกถึง 6 คน และเด็กที่กำลังจะได้มาลืมตาดูโลกอีก 8 คน
ตราบาปของชายเจ้าชู้ พาแฟนทำแท้งถึง 8 ศพ
ตราบาปของชายเจ้าชู้ พาแฟนทำแท้งถึง 8 ศพ
โดยคุณต้น (นามสมมติ) ซึ่งอดีตเป็นนักร้องในภัตตาคารแห่งหนึ่ง ได้ออกมาเปิดเผยเรื่องราวของเขาว่า สมัยที่เขาเป็นนักร้องเขาเจ้าชู้มาก ได้เจอน้อง ๆ นักศึกษาผู้หญิงมากมาย และมีความสัมพันธ์กันจนฝ่ายหญิงตั้งท้อง คุณต้นจึงตัดสินใจพาแฟนสาวไปยังคลินิกทำแท้งเถื่อนแห่งหนึ่ง ที่เป็นที่รู้กันในหมู่เพื่อน ๆ เมื่อคุณต้นไปถึง กลับตกใจมากที่ได้พบว่า มีผู้หญิงรอทำแท้งมากมาย และยังมีผู้หญิงในชุดนักศึกษาอยู่หลายคน จนในที่สุดทุกอย่างเรียบร้อย เมื่อฝ่ายหญิงที่คุณต้นพาไปทำแท้งนั้น มีอาการปกติ
นี่เองเป็นจุดเริ่มต้นของการทำบาปในครั้งต่อ ๆ ไปทำให้ผู้ชายคนนี้ย่ามใจ เพราะเห็นว่าการทำแท้งช่างง่ายดาย และตัวเองก็ไม่ได้เจ็บตัวอะไรด้วย อีกทั้งเขาเชื่อว่า อายุครรภ์เพียงแค่ 2 เดือนน่าจะยังเป็นแค่ก้อนเลือดเท่านั้น ไม่ได้เป็นตัวเด็กอะไรเลย แต่ในความเป็นจริง พัฒนาการของเด็กในครรภ์เพียงแค่ 2 เดือน ก็มีตา และหัวใจ ซึ่งถือเป็นหนึ่งชีวิตแล้ว
ตราบาปของชายเจ้าชู้ พาแฟนทำแท้งถึง 8 ศพ
หลังจากนั้น คุณต้นก็ยังไม่ทิ้งลายความเจ้าชู้ ทำผู้หญิงท้องอีก 5 คน และพาไปทำแท้งทุกครั้ง รวมทั้งหมด 8 ครั้ง เนื่องจากเขาเห็นว่า การทำแท้งเป็นเรื่องเล็ก ๆ ง่าย ๆ จนแทบจะกลายเป็นลูกค้าขาประจำของคลินิก ขนาดภรรยาของเขา ณ ปัจจุบันนี้ คุณต้นก็ยังเคยพาไปทำแท้งถึง 3 ครั้ง จนกระทั่งภรรยาของเขาท้องเป็นครั้งที่ 4 และคุณต้นคิดจะพาไปทำแท้งอีกครั้ง แต่ทว่าครอบครัวฝ่ายหญิงทราบเรื่องก่อนว่า ลูกสาวตั้งครรภ์ คุณต้นจึงตกลงแต่งงานกับภรรยาคนปัจจุบัน
เมื่อคุณต้น กำลังจะมีลูกเป็นตัวเป็นตน เขาจึงเริ่มหาข้อมูลเกี่ยวกับเด็ก จนได้มารู้ความจริงว่า เด็กในครรภ์ทั้ง 8 คนที่เขาเคยพาผู้หญิงไปทำแท้ง ล้วนมีชีวิตแล้วทั้งหมด ไม่ใช่ก้อนเลือดอย่างที่เขาเข้าใจผิดมาโดยตลอด เขาจึงรู้ทันทีว่า "เขาฆ่าคน" ไม่ต่างจากฆาตกรไปแล้วถึง 8 ชีวิต และเด็กที่เกือบจะถูกฆ่าไปอีกคน กำลังจะเกิดมาเป็นลูกของเขา
และหลังจากนั้น คุณต้นมักจะฝันเห็นเด็ก ๆ อยู่บ่อย ๆ โดยส่วนใหญ่ในความฝันมักจะเป็นภาพเด็กที่ดูเหมือนไม่มีชีวิต แต่เคลื่อนไหวได้ วิ่งเล่นในสนามหญ้าที่มีเครื่องเล่น ก่อนจะถูกชิงช้าทับบ้าง ตกบ่อบ้าง เสาทับบ้าง ซึ่งล้วนแต่เป็นการเสียชีวิตที่ไม่น่าดู ซึ่งเขาเชื่อว่าความฝันเหล่านี้เป็นเวรกรรมที่คอยตามมาหลอกหลอนเขาอยู่ทุกวันทุกคืน ทำให้คุณต้นพยายามทำบุญ โดยใจหนึ่งก็หวังให้ลูกในท้องมีร่างกายแข็งแรง จนเมื่อเด็กคลอดออกมาเป็นลูกสาว ก็มีอวัยวะครบ 32 สมบูรณ์ดี
แต่ทว่า ลูกสาวของคุณต้นมักจะมีอาการแปลก ๆ คือมักจะร้องไห้หนักมากตั้งแต่ช่วง 6 โมงเย็นเป็นต้นไป พาไปหาหมอเท่าไหร่ก็ไม่หาย และมักจะร้องหนักขึ้นเวลาที่คุณต้นกลับไปนอนค้างที่บ้าน หรือไปถูกตัวลูก จนทำให้เขาและภรรยาไม่ได้หลับได้นอน แต่หากเป็นภรรยาอุ้ม เด็กจะเงียบลงทันที
นอกจากนี้ คุณต้นเคยอุ้มลูกสาวอายุเดือนกว่าในตอนนั้น แต่ปรากฎว่า เด็กกลับกลอกตาจ้องคุณต้นเขม็ง แม้เขาจะลองแกล้งหลบเอียงซ้ายขวา แต่ลูกตาของเด็กจะยังกลอกกลิ้งจ้องตามหน้าของคุณต้นเอง ซึ่งทำให้คุณต้นรู้สึกกลัว และหลอนจากภาพที่เห็นตรงหน้า จนภรรยาของเขาได้ออกมาเตือนสติให้เขาเลิกเจ้าชู้เสียที เพราะกลัวว่าบาปกรรมความเจ้าชู้ของเขาจะไปตกอยู่กับลูกสาวแทน ทำให้คุณต้นสำนึกได้ และกลัวลูกสาวจะรับผลกรรมที่เขาเคยก่อขึ้น จึงสาบานกับตัวเองว่าจะเลิกเจ้าชู้อย่างแน่นอน
ได้ดูเรื่องราวนี้แล้ว คงต้องบอกว่าเป็นอุทาหรณ์สอนใจให้กับน้อง ๆ วัยรุ่นที่นิยมชิงสุกก่อนห่ามได้อย่างดีทีเดียว และที่สำคัญ บ้านเราเป็นเมืองพุทธซึ่งเชื่อเรื่องเวรกรรม ต่อให้จะทำบุญมากเท่าไหร่ ก็ไม่สามารถล้างบาปที่ก่อขึ้นมาได้ ดังนั้น ควรหลีกเลี่ยงการทำบาปตั้งแต่ต้นจะเป็นการดีที่สุดค่ะ
แต่ถ้าหากเกิดพลาดพลั้ง ตั้งครรภ์โดยไม่พร้อมขึ้นมา ต้องรีบปรึกษาพ่อแม่ผู้ปกครองทันที แม้เราอาจจะถูกตำหนิต่อว่า แต่อย่างไรเสีย พ่อแม่ย่อมรักเรา และไม่ทอดทิ้งเราแน่นอนค่ะ ที่สำคัญคือ อย่าเก็บเงียบไว้แล้วตัดสินใจไปทำแท้งอย่างเด็ดขาด เพราะนอกจากจะผิดกฎหมาย ซ้ำตัวเองต้องเสี่ยงต่อการติดเชื้อและสูญเสียชีวิตแล้ว ยังผิดต่อศีลธรรมที่มีอยู่ในใจด้วย หรือหากไม่รู้จะหันหน้าไปพึ่งใคร อาจขอรับคำปรึกษาจากหน่วยงาน หรือมูลนิธิที่ทำงานเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ หรือขอรับคำปรึกษาด้านจิตใจจากสายด่วนกรมสุขภาพจิต เพื่อช่วยกันหาทางออกที่ดีที่สุดค่ะ