อัศวินแห่งเทมพลาร์สู่สงครามใหม่ เบื้องหลังโลกที่แท้จริง

                             

พวกเขาควบคุมทุกสิ่งที่คุณอ่าน ทุกสิ่งที่คุณได้ยิน ทุกสิ่งที่คุณเห็น พวกเขาควบคุมวิธีการคิด พวกเขาได้สร้างการปกครองรูปแบบใหม่ เศรษฐกิจรูปแบบใหม่ มัีนมาจากเงามืด เป้าหมายสูงสุดคือการบงการชี้นำโลกทั้งมวล พวกมันจะยังไม่ยุติหากสิ่งต่างๆยังไปไม่ถึงเป้าประสงค์ของมัน เป้าหมายที่ได้วางไว้ในสุนทรพจน์ของ ประธานาธิบดี แห่งสหรัฐอเมริกา จอร์จบุช ได้กล่าวไว้ "เราเดิมพันเอาไว้มากกว่าประเทศเล็กๆนี้ มันเป็นแผนการณ์อันยิ่งใหญ่ new world order"

จุดเริ่มต้นดั้งเดิมของมันมิได้อยู่ในทำเนียบขาว ที่จริงแล้วมันมีรากดั้งเดิมอยู่ที่ฝรั่งเศสเมื่อ ศตวรรษที่11 ซึ่งยุโรปถูกปกครองโดยคริสตจักร อำนาจนี้สั่งการให้ โปป เอร์วินที่2 ก่อสงครามต่อคอลีฟะฮฺของมุสลิม ในชื่อว่าสงครามไม้กางเขน ครุเสด เพื่อยึดเยรูซาเล็มคืน จากมุสลิมหลังจากสูญเสียไปเมื่อปี 637 เมื่อถึงปี1099 อำนาจเหนือเมืองนี้ ก็ถูกแลกด้วยการหลั่งเลือด ในนามของไม้กางเขน มุสลิมะถูกขืินใจและสังหาร เด็กๆถูกนำไปสู่ดาบ เลือดนองท้องถนนท่วมสูงถึงเข่าม้า หลังจากนั้นยี่สิบปี โดมออฟเดอะรอค ก็ถูกยึดไปโดยกลุ่มนักรบศักดิ์สิทธ์ที่เรียกตัวเองว่า อัศวินแห่งวิหารโซโลมอน หรืออีกนามหนึ่งว่า อัศวินเทมพลาร์

ในเยรูซาเล็มนักรบเทมพลาร์ได้ไปไกลกว่าธรรมเนียมปฏิบัติของชาวคริสต์ พวกเขาได้เรียนรู้ศาสตร์โบราณอันลี้ลับแห่งกาบาลา ไสยศาสตร์มืดของชาวยิว ซึ่งชาวยิวได้เคยเรียนรู้ไสยศาสตร์นี้จากชาวเมืองอียิปต์ในระหว่างที่ตกเป็น ทาสของฟาโรห์ แล้วได้พัฒนาขึ้นมาในยุคสมัยที่ตกเป็นทาสของเนบูคัดเนสซาที่บาบิโลเนีย ในปีให้หลังนักรบเทมพลาร์เหล่านี้จึงถูกกวาดล้างไปจากฝรั่งเศสด้วยการถูก ประหารไปมากมาย พวกเขาต้องหลบหนีไปสู่สถานที่ปลอดภัย และหาพันธมิตรซึ่งไม่ใช่ฝรั่งเศสอีกต่อไป

พวกเขาหลบหนีไปที่สก๊อตแลนด์ซึ่งตอนนั้นกำลังต่อสู้เพื่อการกู้ิอิสรภาพจาก อังกฤษ พวกเขาหมดหวังไปแล้วจากการตายไปของ วิลเลียม วัลเลส แต่ทว่ากษัตริย์แ่ห่งสก๊อตแลนด์โรเบิร์ด ได้รับการช่วยเหลือด้วยอาวุธที่ชาวสก๊อตไม่เคยรู้จักมากก่อน จากอัศวินเทมพลาร์ ด้วยประสบการณ์ในการสู้รบกับกองทัพอันยิ่งใหญ่ของอิสลามกว่าสองร้อยปี ทำให้พวกเขามีความเชี่ยวชาญการรบเป็นพิเศษ นักรบอังกฤษ 25000 นายถูกพิชิตอย่างอดสู ด้วยน้ำมือของคน 6 คน พร้อมกองกำลังเพียงครึ่งพัน ความฝันในการปลดปล่อยสก๊อตแลนด์จึงเป็นจริง เหล่าอัศวินเทมพลาร์ได้อำนาจควบคุมกษัตริย์เป็นการแลกเปลี่ยน เหล่านักรบเทมพลาร์ที่หลบหนีออกจากยุโรป จึงมีที่พักพิง ณ โบสถ์ โรเวลินแห่งสก๊อตแลนด์ ซึ่งยังคงอยู่ถึงทุกวันนี้ ลูกหลานอัศวินเทมพลาร์ได้รับอำนาจปกครองเบ็ดเสร็จเหนือสก๊อตแลนด์ ในปี 1603 หลังการตายของราชินีอลิซาเบ็ธซึ่งไม่มีทายาทสืบบัลลังค์ อังกฤษจึงผนวกรวมราชอาณาจักรการปกครองเข้ากับสก๊อตแลนด์ ทำให้อัศวินเทมพลาร์ได้ยึดครองอังกฤษไปโดยปริยาย

กว่าพันปีที่อัศวินเทมพลาร์ได้เก็บงำความเคลื่อนไหวของตัวเองไว้หลังฉาก จนแทบไม่มีใครรู้จักหรือจดจำ ตลอดเวลาพวกเขา ได้แทรกซึมไปทั่วราชสหอาณาจักรอังกฤษ ในปี 1717 อัศวินเทมพลาร์ก็ปรากฏตัวอีกครั้งในยุโรป พวกเขาเติบโตขึ้นทั้งจำนวนและอำนาจ พร้อมที่จะประกาศตัว ชื่อที่พวกเขาเลือกขึ้นมา ฟรีเมสัน มาจากคำในภาษฝรั่งเศส frerés masons ซึ่งมีความหมายว่าพี่น้องแห่งเมสัน

 

                                



สมาชิก คนแรกของฟรีเมสันคือ เจ้าชายเฟรดริคแห่งเวลส์ และสมาชิกคนสุดท้ายคือ เจ้าชายฟิลิป ดยุคแห่งเอดินเบอรก คู่สมรสของควีนอลิซาเบ็ทที่สองของอังกฤษ ซึ่งเป็นองค์ราชูปถัมภ์ของเมสัน ในหลังฉากเมสันมีองค์กรที่แบ่งเป็นลำดับชั้น ซึ่งเรียกว่า ดีกรี พวกเขามิได้ต้องการเพียงอำนาจเหนืออังกฤษ แต่ความมุ่งมั่นของพวกเขายิ่งใหญ่กว่านั้น



ในศตวรรษที่ 18 ชนชั้นสูงของฝรั่งเศสอยู่กันอย่างหรูหราฟุ่มเฟือย มีความแตกต่างทางชนชั้นอยู่มาก ฟรีเมสันอาศัยจังหวะนี้สร้างปรากฏการณ์ยิ่งใหญ่ในประวัติศาสตร์ของฝรั่งเศส พวกเขาอาศัยความโกรธเกรี้ยวของชาวฝรั่งเศสที่มีต่อชนชั้นสูงเพื่อบรรลุเป้า หมายของตน พวกเขาจัดเตรียมแผนการณ์อย่างละเอียดอ่อนเพื่อวางแผนก่อสงคราม พวเขาได้เข้าครอบงำสื่อและใช้มันเพื่อโหมกระแสสู่สาธารณะ หนังสือพิมพ์ต่างเรียกร้องไปสู่จุดจบของระบอบกษัตริย์ เพื่อสร้างสังคมแห่ง อิสระภาพ ความเท่าเทียม และจุดสิ้นสุด เมสันใช้ประโยชน์จากความมั่งคั่งและอิทธิพลทางการเมืองของฝรั่งเศส ใช้ต้นทุนทางการเมืองดึงเจ้าหน้าที่ระดับสูงในกองทัพฝรั่งเศสเข้าเป็นสมาชิก ของฟรีเมสัน จนกระทั่งนำไปสู่ผลสำเร็จในการประหารชีวิตหลุยส์ที่16 จุดจบของระบอบกษัตริย์ในฝรั่งเศสเป็นการปูทางไปสู่ รัฐแห่งเมสันในยุโรป

นายทหารหนุ่มชื่อ นโปเลียน โบนาปาร์ท นำพาฝรั่งเศสสู่สงครามต่อยูโรป โดยไม่ยอมถูกบงการจากเมสัน นโปเลียนได้ประกาศตนเป็นจักรพรรดิ์ของฝรั่งเศส และถูกบีบลงจากบัลลังค์ในปี 1814 และถูกเนรเทศไปอยู่ที่เกาะ คอร์ซิกา อย่างไรก็ตามในปี 1815 นโปเลียนกลับสู่ปารีสอีกครั้ง และสั่งสมกองกำลังครั้งใหม่เตรียมพร้อมทำสงครามกับยุโรปอีกครั้ง เมสันต้องประสบปัญหาใหญ่ อังกฤษและพันธมิตรของเมสันไม่มีความพร้อมที่จะทำสงครามยืดเยื้อกับนโปเลียน มิใช่เพราะเรื่องขาดแคลนเงินทุน แต่เป็นเพราะสถานะความเป็นยิว ทำให้พวกเขาต้องทำงานอยู่ในเงาของบุคคลอื่น นายทุนของเมสัน รอทสชิลด ถูกฝืนให้เปิดเผยตัวในการทำธุรกรรมเพราะหากเขาไม่ทำเช่นนั้น เงินทุนต่างๆย่อมถูกโยกย้ายไปสู่ฝ่ายนโปเลียน สัญญาการกู้ยืมเงินมีขึ้นในปี 1815 แก่ทหารอังกฤษ ดัชช์ และรัสเซีย เพื่อเดินทัพไปสู่วอเตอร์ลู ในเบลเยียม ซึ่งเป็นสถานที่ซึ่งกองกำลังของนโปเลียนถูกพิชิต นโปเลียนถูกจับตัวและไม่มีโอกาสกลัยสู่ฝรั่งเศสอีกต่อไปด้วยคำสั่งของเมโซนิก

เมสันได้แสดงตัวออกมาจากเงามืดอีกครั้งระหว่างช่วงยุคสมัยสำคัญในประวัติ ศาสตร์ ในปี 1904 มาร์ค วาโดราซามโบได้ให้คำยืนยันว่า "ฟรีเมสันได้ทำงานในเงามืด แ่ต่ยังคงทำงานอยู่ตลอดเพื่อเตรียมการไปสูู่่การปฏิวัติ เป็นมติเอกฉัน ฟรีเมสันไม่เพียงหยิบยื่นการปฏิวัติ และคำชื่นชมให้แก่ข้าพเจ้า ข้าพเจ้าเป็นเพียงคนที่ได้พิสูจน์ให้เห็นซึ่งทุกท่านก็ทราบดีว่า เพราะเมสันนี่เองที่ทำให้เกิดการปฏฺวัติในฝรั่งเศสขึ้น"

                         

เหล่าผู้ที่ถูกเรียกว่าเป็นผู้ก่อตั้งอเมริกา บนไพลเมาท์ร๊อก พวกเขาไม่ได้นำไปแค่เพียงคนที่ถูกเนรเทศ แต่ยังนำองค์ประกอบของฟรีเมสันแห่งยุโรปไปด้่วย ความอยุติธรรมถูกกลุ่มผู้ก่อตั้งอเมริกานำไปจากยุโรป ซึ่งจะพบได้ในรูปแบบการกดขี่ของกองทหารอังกฤษ ในความพยายามที่จะบงการอย่างเบ็ดเสร็จบนรัฐแห่งใหม่นี้ ฟรีเมสันได้ใช้วิธีการเดียวกับที่เคยสำเร็จมาแล้วในฝรั่งเศส แม้ว่ากษัตริย์อังกฤษจะถูกผลักดันโดยเมสัน สงครามประกาศอิสระภาพของอเมริกาถือเป็นการตอบโต้อันมีนัยสำคัญ ผู้ที่เข้าร่วมสงครามต่างมีข้อแลกเปลี่ยนกับเมสันเพื่อเติมเต็มความไฝ่ฝัน ของพวกเขา ความรู้สึกของผู้คนถูกผนึกรวมกันเป็นความโกรธแค้น แฉกเช่นที่เกิดขึ้นในฝรั่งเศส ความโกรธแค้นนำไปสู่สงคราม ในครั้งนี้เมสันมีบทเรียนจาก นโปเลียนกับกองกำลังของเขาในยุโรป เพื่อหลีกเลี่ยงการต่อต้านเช่นที่เกิดมาแล้วนั้น คือต้องมั่นใจว่าหัวหน้าก่อการต้องเป็นคนของเมสันเอง และหัวหน้าที่ถูกเลือกมาทำสงครามต่อต้านอังกฤษเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก จอร์จ วอชิงตัน

วันที่4เดือนกรกฎาคม 1776 คำประกาศอิสระภาพถูกร่างขึ้น และวันที่17 ตุลาคม1781 อังกฤษก็พ่ายแพ้สงครามและยอมมอบอาณานิคมต่อชาวอเมริกา อันนำไปสู่รัฐบาลแห่งแรกของฟรีเมสันบนโลกใบนี้ ประเทศนี้นำเสนอเมซันรี่ในทุกวิถีทาง สัญลักษณ์ ของเมโซนิก ถูกพบเห็นได้ในธนบัตรดอลลาร์ ซึ่งมีรูปของจอร์จวอชิงตัน ประธานของฟรีเมสันคนแรก พร้อมกับรูปสัญลักษณ์ของเมโซนิก ที่เรียกว่า all seeing one eye



ในประวัติศาสตร์การควบคุมผนวกรวมแนวคิดทางการเมืองถูกฟรีเมสันใช้เป็นอาวุธ เืพื่อให้ได้มาซึ่งการควบคุมประเทศและรัฐบาล พวกเขาเคยควบคุมผู้ปกครองและนักการเมืองเพื่อออกกฏหมาย และวางโครงสร้างทางการเมือง ให้เป็นไปตามระเบียบวาระ ทว่าการบังคับทางกายยังไม่หยั่งลึกเช่นการบังคับทางใจ เพื่อขจัดปัญหานี้ให้บรรลุวัตถุประสงค์ เมสันได้วางแผนการอันชาญฉลาด จนสามารถควบคุมบงการมนุษย์ในทุกๆด้าน อาวุธที่พวกเขาใช้ต่อวิถีชีวิตของคุณ คือความบันเทิงภายในบ้านหลากหลายชนิด มันใช้การได้กับทุกคนในครอบครัวโดยที่ไม่มีใครทันรู้สึกตัว ในสังคมทุกวันนี้ ผู้คนเสียเวลาไปโดยเปล่าประโยชน์กับสื่อยุคใหม่ โทรทัศน์ ภาพยนตร์ เกมคอมพิวเตอร์ อินเทอร์เน็ต นวนิยายขายดี และดนตรียอดนิยม ทุกสิ่งล้วนเข้ามาอยู่ในวิถีชิวิตของเราๆท่านๆ ข้อมูลมากมายที่ถูกสื่อออกมาจะเข้ามาบงการจิตสำนึกและจิตใต้สำนึกในจิตใจของ ท่าน ข้อมูลเรื่องระดับชั้นในสังคมในอุดมคติ เรื่องทางศีลธรรม เศรษฐกิจ ล้วนเป็นโครงสร้างที่กำเนิดขึ้นในวิถีชีวิตโดยไม่รู้ตัว



อาวุธร้ายของฟรีเมสัน

สื่อบันเทิง ต่างๆถูกนำมาควบคุมบงการวิธีการคิดของทุกคน พวกเขาใช้อุตสาหกรรมภาพยนตร์เพื่อปรับวิธีการคิดของประชาชนทั้งโดยเปิดเผย และวิธีการที่เรียกว่า สับลิมินอล เพื่อบรรลุเป้าหมายเดียวคือการกำหนดให้เชื่อ ในวิถีทางและอุดมคติของพวกเขา ทำให้คุณคิดในรูปแบบเดียวกับพวกเขาด้วยตัวของคุณเอง ตัวอย่างหนึ่งที่เด่นชัดคือ การประพันธ์ดนตรี ของวูลฟ์กัง อาดีอุส โมซาร์ด เขาได้ประพันธ์ ซิมโฟนี่ ซึ่งเป็นการนำเสนอฟรีเมสันอย่างเปิดเผย ซิมโฟนี มีประวัติมาจากตำนานของอียิปต์โบราณ อไวซัส และไซรัส ตำนานของชนเผ่าอียิปต์จากกาบาลา ซึ่งเป็นแง่มุมพื้นฐานของฟรีเมซันรี่ เช่นเดียวกันกับสัญลักษณ์ที่สืบทอดมาจากอียิปต์นั่นคือ one eye stems

อีกหลักฐานหนึ่งของการนำเสนอฟรีเมสัน สามารถพบได้จากดนตรีป๊อปของ ไมเคิล แจ๊กสัน ซึ่งถือเป็นราชาเพลงป๊อป ในอัลบัมหนึ่งของเขาบนหน้าปกอัลบัมที่ชื่อ dangerous มีสิ่งที่หน้าสนใจคือสัญลักษณ์ตาดวงเดียว และรูปภาพของทะเลสาบที่กำลังลุกเป็นไฟ ทำให้ทุกคนรู้สึกไปด้วยว่าการบันเิทิงอยู่บนน้ำนั้นก็เหมือนกับการบันเทิง อยู่บนเปลวไฟ

ผลงานของฟรีเมสันซึ่งได้เข้าไปควบคุมอุตสาหกรรมดนตรี โดยผ่านสับลิมินอลของซาตานิกแมสเสจ พวกเขาใช้วิธีการอัดเสียงย้อนกลับด้าน(back tracking) ซึ่งหากเปิดไปตามปกติก็จะไม่รู้สึกตัว ทว่าขีดความสามารถในการรับสารของมนุษย์นั้นซับซ้อนพวกเขาเข้าใจขีดความ สามารถนี้ดี แมสเสจนี้จะถูกส่งเข้าสู่จิตใต้สำนึกโดยตรง ในขณะที่จิตสำนึกระดับปกติยังไม่รู้สึกตัว ตัวอย่างแรกของการ แบคแทรกกิ้ง คือเพลงของนักร้องสาว มาดอนน่า จากเพลง "like a prayer" หากได้รับฟังก็จะเข้าใจว่าไม่ได้สวดต่อพระเจ้า แต่กล่าวตรงถึงการสวดต่อซาตาน หากเล่นย้อนกลับก็จะได้ิยินคำว่า "oh hear us satan" อย่างชัดเจน ในมิวสิควีดีโอหนึ่ง มีภาพดวงตาเดียวปรากฏขึ้นในชั่วเสี้ยววินาทีและอีกมิวสิควีดีโอหนึ่ง เธอยืนอยู่บนลายเขียนหนึ่งซึ่งเมื่อตรวจสอบดูแล้วก็พบว่านั่นคือ ลายเขียนภาษาอาหรับในกุรอาน

อีกตัวอย่างหนึ่งของการ แบ๊กแทรก ยกมาจากกลุ่มศิลปิน "the eagles" ในเพลง "hotel california" จะมีคำหนึ่งที่ดังขึ้นเมื่องเล่นกลับด้านว่า "yeah satan" แคลิฟอร์เนียในเพลงมิใช่โรงแรมแต่เป็นถนนเส้นหนึ่งในอเมริกาที่ชื่อแคลิ ฟอร์เนีย เป็นถนนที่มีโบสถ์หลังใหญ่ตั้งอยู่ แต่เราน่าจะเรียกมันว่า โบสถ์ของซาตานมากกว่า ซึ่งถูกสร้างขึ้นโดย แอนโทนี่ ซาน เดลิวี่ ผู้ประพันธ์ ซาตานิกไบเบิล คำสอนของโบสถ์แห่งนี้ถูกนำไปนำเสนอในอุตสาหกรรมดนตรีร๊อก ศิลปินบางคนในกลุ่มนี้กล้่านำเสนอให้ผู้คนศรัทธาต่อคำสอนของโบสถ์แห่งนี้ สมาชิกคนหนึ่งที่มีชื่อเสียง ในวงโรลลิ่ง สโตน ไมค์แจกเกอร์ ผู้แต่งเพลง "sympathy for the devil" ซึ่งผสมผสานระหว่างแนวคิดของคริสเตรียนเข้ากับลัทธิบูชาซาตาน

อีกหลักฐานจากอุตสาหกรรมภาพยนตร์จากฮอลลีวูด แมท โกรวนิ่ง ผู้สร้างการ์ตูนซีรี่ย์ทางทีวี "the simpsons" เขาเป็นพวกอนาธิปไตยที่พร้อมเสนอแนวคิดของตัวเองเข้าไปในการ์ตูนอย่างเปิด เผย การตูนซิมสันสอนเราและลูกหลานของเราอย่างไร พวกเขาสอนให้ฝ่าฝืนในทุกสิ่งแม้แต่คำสอนของบุพการี การแสดงอย่างอย่างหยาบคาย ทำให้การฝ่าฝืนกฏระเบียบคือสิ่งที่ผู้คนชื่นชม การสื่อทางโทรทัศน์ทำให้ผู้คนรับสารได้มากกว่าในโรงภาพยนตร์ และสิ่งที่ได้นำเสนอผ่านสื่อนี้อยู่ตลอดเวลาคือ แนวคิดเรื่องของผู้นำโลกทั้งหมดมีเพียงหนึ่งเดียว

 

 



ภาพยนตร์เรื่อง หนึ่งซึ่งนำเสนอแนวคิด ผู้นำโลก และรัฐบาลโลก ที่พวกเขาจัดเตรียมไว้คือเมื่อปี 1996 ภาพยนตร์เรื่อง "independence day" ติดอันดับสถิติบอกซ์ออฟฟิส เป็นภาพยนตร์ยอดเยี่ยม อันดับ7ตลอดกาล ได้นำผู้ชมทั้งโลกเข้าสู่นวนิยายมนุษย์ต่างดาวบุกโลก ลึกๆแล้วภาพยนตร์เรื่องนี้ได้แทรก สับลิมินอลแมสเสจเอาไว้ เกี่ยวกับฐานทัพลับที่ชื่อ "area51" เป็นฐานที่ตั้งของอาวุธต่อสู้ซึ่งมนุษย์ทั้งโลกได้ฝากฝังอนาคตเอาไว้ ทางเข้าสู่ตัวฐานทัพนี้เป็นรูปทรงปิรามิดซึ่งติดตั้งสัญลักษณ์ดวงตาเดียว ภาพยนตร์ได้แสดงให้เห็นว่า สหรัฐอเมริกามีอำนาจจูโจมเหนือทุกประชาชาติ และถูกสั่งการจากบุรุษเพียงคนเดียว ซึ่งเป็นหัวหน้าของผู้นำทั้งหลาย หลังจากภาพยนตร์เรื่องนี้พวกเขาก็โหมกระแส เรื่องมนุษย์ต่างดาว ยูเอฟโอ และอำนาจอันน่าสะพรึงเหนือมนุษย์ทั้งหลาย ไปสู่ซีรี่ย์ต่างๆในโทรทัศน์ พวกเขาสร้างความหวั่นกลัวให้ซึมเข้าสู่หัวใจของมนุษย์ทั้งหลาย ทำให้พวกเขาต้องการผู้ปกป้อง นั่นคือต้องการความปลอดภัยของตัวเอง เป็นแนวคิดใ้ห้มนุษย์ทั้งโลกสลายความรู้สึกแตกต่างกันเมื่อต้องเผชิญกับการ คุกคามของเอเลี่ยนจากภายนอก

          


ต่อมาในปี 1999 ภาพยนตร์เรื่อง "the matrix" เป็นอีกเรื่องหนึ่งซึ่งเต็มไปด้วย subliminal massage เช่นรหัสตัวเลขทางไสยศาสตร์ที่ซ่อนไว้ในรหัสตัวอักษรสีเขียวที่เคลื่อนลง พร้อมกันบนพื้นสีดำ มีการใช้สัญญาณมือในพิธีกรรมทางไสยศาสตร์เพื่อสื่อสารกับชัยตอน คอมโพสิชั่นองค์ประกอบของภาพเป็นรูปสามเหลี่ยมของปิรามิด แม้กระทั่งองค์ประกอบเล็กๆน้อยบนภาพ ทุกฉากทุกตอนเต็มไปด้วยการแสดงสัญลักษณ์ที่ใช้ในพิธีกรรมทางไสยศาสตร์ของ ลัทธิเมโซนิก(บูชาซาตาน)ทั้งสิ้น แม้กระทั่งเนื้อหาที่นำเสนอซึ่งเป็นรูปแบบของการอุปมาอุปไมยตัวละครเข้ากับ ประวัติศาสตร์ ความเชื่อทางศาสนา จึงไม่แปลกเลยที่ผู้ชมจึงหลงไหลในเสน์หของตัวละคร ที่แสดงบทบาทเป็น เดอะวัน โดยไม่รู้ตัว การนำเสนอความจริงซึ่งซ้อนทับกันอยู่หลายขั้นหลายตอนเพื่อให้มนุษย์กล้า ปฏิเสธ กฏเกณฑ์ต่างๆที่ถูกกำหนดขึ้นเหนือเขา การนำเสนอความคิดเกี่ยวกับพระเจ้า สถานิกแห่งสากลจักรวาลยังมีข้อจำกัดทางตรรกในการสร้างสรรค์ เทพยากรณ์ผู้ศรัทธาในตัวบุคคลและธรรมชาติซึ่งกำหนดสภาวะการณ์ของสิ่งต่างๆ และเดอะวันที่ตาบอดสนิทแล้วแต่ยังมองเห็นความจริงของทุกสิ่ง ทั้งหมดนั้นเพื่อชี้นำให้ผู้ชมคล้อยตามและไม่อาจบรรลุถึงคุณลักษณะที่แท้ จริงของพระเจ้าได้ ในการ์ตูนภาพยนตร์แทบทุกเรื่องล้วนแทรก สับลิมินอลแมสเสจเหล่านี้เข้าไปทั้งสิ้น นับเป็นอันตรายต่อเด็กและเยาวชนที่รับชมซึ่งจะถูกปรับวิูธีคิดวิธีการมองโลก ให้คล้อยตามไปโดยไม่รู้สึกตัว

 

 

อีกยุทธวิธีหนึ่งที่ฟรีเมสันใช้ปูทางไปสู่การสถาปนารัฐบาลโลกเพียงหนึ่ง เดียว นั่นคือการทำให้ผู้คนต่างต้องการพึ่งพาระบบรักษาความปลอดภัย พวกเขาจะทำการปลุกปั้นให้เกิดอาชญากรรมเหตุรุนแรงต่างๆจนผู้คนต่างหวาดกลัว และต้องการให้เกิดการคุ้มครองความปลอดภัยให้แก่พวกเขา อุตสาหกรรมการค้ายาเสพติดกลายเป็นอุตสาหกรรมที่ทำรายได้อย่างมหาศาลอันดับ ต้นๆอย่างหนึ่งเลยทีเดียว ซึ่งเห็นได้ว่าประเทศต่างๆในโลกปัจจุบันต่างมีนโยบายหลักอันหนึ่งนั่นคือการ ปราบปรามการค้ายาเสพติด สหรัฐอเมริกาเป็นตัวอย่างประเทศที่ประสพกับปัญหาการค้ายาเสพติดซึ่งเป็น สาเหตุไปสู่อาชญากรรมที่เพิ่มมากขึ้น เชื่อได้ว่าในระหว่างปี 1960 เจ เอ็ดการ์ ฮูเวอร์ อธิบดีของเอฟบีไอปล่อยให้การค้ายาเสพติดเฟื่องฟูจนกระทั่งเกิดชุมชนใต้ดิน เติบโตขึ้นในสหรัฐอเมริกา

ในระหว่างปี 1980 ซึ่งเป็นยุคที่คอมมิวนิสต์มีบทบาทอย่างมากในอเมริกากลาง พวกเขาต้องการเงินทุนในการก่อการปฏิวัติจำนวนมหาศาล เป็นโอกาศให้ ซีไอเอ ปล่อยให้ยาเสพติดแพร่เข้ามาขายในอเมริกา ข้อมูลนี้เปิดเผยโดย วุฒิสมาชิกของสหรัฐ แจ๊ก บลูม ซึ่งได้เคยทำหน้าที่สืบสนเรื่องนี้ออกมายืนยัน

                                   


ในประวัติศาสตร์ที่ผ่านมาฟรีเมสันมักจะสร้างปัญหาต่างๆให้เข้ามารุมเร้า สังคมเพื่อให้สภาวะการณ์ต่างๆขับเคลื่อนไปตามวาระ ปัญหายาเสพติดในอเมริกาที่สูงขึ้น เอื้อให้เกิดการตอบโต้อย่างรุนแรงของผู้คุมกฏหมาย ต่อผู้ก่อการร้าย สู่ปฏิบัติการณ์โพ้นทะเลแอตแลนติก และต่อละตินอเมริกา เพื่อคุกคามต่อไปในระดับโลก พวกเขาบิดเบือนข้อเท็จจริงเกี่ยวกับประเทศต่างๆเหล่านั้น เพื้ออ้างที่จะสร้างระบบรักษาความปลอดภัยในระดับชาติ และใช้เป็นข้ออ้างที่จะเข้าไปเก็บข้อมูลในระดับชุมชนของประเทศต่างๆเหล่า นั้น ข้อมูลข่าวสารคือกุญแจที่พวกเขาถือเอาไว้ ยิ่งเก็บข้อมูลได้มาเท่าได พวกเขาก็จะหยั่งความเคลื่อนไหวต่างๆและเข้าไปควบคุมได้อย่างเบ็ดเสร็จ พวกเขาเข้าไปนำเสนอเทคโนโลยีโดยไม่เปิดโอกาสให้เลือกหนทางที่เหมาะสม พวกเขาชี้นำสังคมโดยใช้สื่อสารมวลชน ที่กล่าวมานี้ก็พอสรุปได้ว่า พวกเขาเข้ามาบงการในทุกด้านของการใช้ชีวิตมนุษย์ และนั่นก็คือชีวิตของคุณด้วย

ความตระหนกตกใจต่อเหตุการณ์ก่อการร้าย อาชญากรรมที่มีอัตราสูงขึ้น วินาศภัยและความรุนแรง ถูกนำเสนอจากสื่อภาพยนตร์ และรายงานต่างๆของรัฐบาลที่พวกเขาบิดเบือนขึ้น ก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้ได้รับความเห็นอกเห็นใจจากสาธารณะชน ให้สนับสนุนต่อวิธีการตอบโต้อันรุนแรงและการควบคุมตรวจตราอย่างเข้มงวด เทคโนโลยีการสอดส่องของกล้องวงจรปิดดูจะเหมาะสมเหลือเกินที่จะต้องติดตั้ง ให้ทั่วทุกซอกทุกหลืบของประเทศ ความเห็นด้วยจากสาธารณะชนจะทำให้แผนการต่างๆของเมสันเป็นไปได้อย่างราบรื่น การตรวจจับเก็บข้อมูลในระดับบุคคลเพื่อเก็บเข้าไว้ในระบบฐานข้อมูลของระดับ สังคม พวกเขาสามารถเข้าถึงข้อมูลบุคคลได้จาก บัตรเงินสด ใบขับขี่ และบัตรประกันสังคม สามารถเข้าถึงข้อมูลและการเคลื่อนไหวต่างๆได้จากการกดเพียงปุ่มเดียว

ในปี 1992 นายกรัฐมนตรีของสภาสูงอังกฤษ นิโคลัส บราว มัลคินสัน ได้กล่าวต่อสภาสูงว่า หากตำรวจสามารถเข้าถึงข้อมูล ภาษีอากร สวัสดิการสังคม สวัสดิการรักษาพยาบาล และอื่นๆ จะสามารถนำมารวมกันไว้ในเอกสารเพียงชุดเดียว เสรีภาพส่วนบุคคลจะอยู่ในสถานะที่สุ่มเสี่ยง ไม่ต้องห่วงเลยว่าฟรีเมสันจะไม่อาจเข้าถึงข้อมูลต่างๆของคุณได้ พวกเขารู้แม้แต่บุคคลที่คุณคุยด้วยอยู่ในสายโทรศัพท์ สถานที่ทำงานของคุณ ร้านค้าที่คุณใช้บริการ ร้านอาหารที่คุณนั่ง สถานะทางการเงินของคุณ รายได้ของคุณและอื่นๆอีกมากมาย บัตรสมาชิกต่างๆของคุณสามารถบ่งบอกตัวตนของบุคคลในสังคม พวกเขาต้องการอีกเพียงสิ่งเดียวที่ยังทำไม่ได้ คือการแลกเปลี่ยนเงินสดต่างประเทศ พวกเขาจึงคิดค้นระบบที่ทำให้ทำธุรกรรมทางการเงินด้วยการ์ด กลายเป็นเงินอิเล็กทรอนิกส์ซึ่งสามารถโยงใยไปทั่วโลก
ซึ่งประสพความสำเร็จแล้วในอังกฤษ โดยบริทชเทเลคอม ในชื่อสมาร์ทการ์ดซึ่งบรรจุข้อมูลทุกๆอย่าง ทั้งเครดิตการ์ด พาสปอร์ต บัตรท่องเที่ยว ห้องสมุด โทรศัพท์ แม้กระทั่งบัตรประชาชน แนวคิดนี้ริเริ่มขึ้นในฝรั่งเศส

 



กระนั้นก็ตามรูปแบบของบัตรสมาร์ทการ์ดก็ยังมีข้อจำกัดในการระบุตำแหน่งที่ ตั้งของบุคคลเจ้าของบัตร พวกเขาจึงคิดรูปแบบใหม่ คือไมโครชิปที่ฝังลงในผิวหนัง พวกเขาสามารถระบุตัวตนและตำแหน่งของบุคคลได้ทันทีผ่านดาวเทียม อาจดูเหมือนนิยายวิทยาศาสตร์ แต่แนวคิดนี้เกิดขึ้นจริงแล้ว มีดาวเทียม 48 ดวงที่ใช้สอดส่องทั่วผืนแผ่นดิน เป็นเจ้าของโดยสหรัฐอเมริกา และเหล่าพันธมิตร พวกเขาใช้ในการสอดส่องกำหนดตำแหน่ง และนำทาง ให้แก่ยุทโธปกรณ์ต่างๆ เทคโนโลยีนี้ได้รับการพัฒนาอย่างรวดเร็ว ดูเหมือนสัญลักษณ์ดวงตาที่สอดส่องจะเข้าใกล้แผนการของพวกเขาเข้ามาทุกที

ฟรี เมสันต้องการบงการโลกด้วยรัฐบาลเดีียว และวางแผนการที่จะสร้างระบบเศรษฐกิจเดียว กฏหมายเดียว และระบบการเมืองเดียว 25เมษา1957 กับความพยายามแรกที่จะสร้างชุมชนเศรษฐกิจแห่งยุโรป นับก้าวย่างที่มีนัยสำคัญ EEC ถูกใช้เป็นสนามทดลองสำหรับระบบบริหารโลกหนึ่งเดียว ด้วยการให้อิสระแก่คนในประเทศสมาชิกจะสามารถเข้าออกเมืองต่างๆ เพื่อนำสินค้าไปค้าขายได้อย่างเสรีภายใต้มหารัฐเดียว แผนการนี้ทำขึ้นเพื่อแอบวางระบบการสอดส่องตรวจตราเพื่อรักษาอำนาจบงการเหนือ ยูโรป นั่นหมายถึงในที่สุดแล้วชุมชนหมารัฐแห่งยุโรปจะใช้สกุลเงินเดียว ระบบการเงินเดียวและถูกปกครองด้วยระบบเดียว แน่นอนคือรัฐบาลแห่งเมสัน ตัวหมากสำคัญของสหภาพยุโรปคือ อังกฤษ ฝรั่งเศษ และเยอรมัน อังกฤษกับฝรั่งเศษถูกครอบงำโดยเมสันมาช้านานแล้ว ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สองเยอรมันก็ถูกยึดครองโดยอังกฤษ ฝรั่งเศษ ร่วมกับสหรัฐอเมริกาและรัสเซีย ส่วนต่างๆของเยอรมันถูกควบคุมโดยประชาชาติของเมสันทั้งสาม พวกเขาได้วางรูปแบบการปกครองในชื่อเยอรมันตะวันตก หลังจากการทุบกำแพงเบอร์ลินก็เข้าปกครองเยอรมันตะวันออก ยุโรปไม่ใช่ภูมิภาคเดียวที่มุ่งหวังในการรวมกลุ่มไปสู่สถานะของมหาสหภาพ อเมริกาและแมกซิโกเป็นเพียงสองประเทศที่เข้าร่วมกับ NAPHTHA องค์กรตกลงทางการค้าแห่งอเมริกาเหนือ อย่างไรก็ตามประเทศต่างๆในอเมริกาใต้ก็พยายามที่จะเข้าร่วมด้วย หากจะคิดว่าหมารัฐแห่งเมโซนิกทั้งในภูมิภาคยุโรปและอเมริกาต่างมุ่งที่จะรวม กลุ่มกันเป็นสหภาพแห่งโลกก็เป็นเหตุผลที่จะคิดได้ต่อไปได้ไม่ยาก อย่างไรก็ตามยังคงมีอีกปัญหาหนึ่งที่เมสันต้องการควบคุม พวกเขาสามารถควบคุมชาติที่พัฒนาแล้วในสหภาพโลกได้แล้ว แต่ทว่าหลังจากปี 1970 มีปรากฏการณ์หนึ่งที่เด่นชัดคือ จำนวนประชากรของทวีปยุโรปและทวีปอเมริกาลดจำนวนลง แต่ด้วยเหตุผลบางประการประเทศโลกที่สามกลับเพิ่มจำนวนประชากรขึ้น อันเป็นภัยคุกคามต่อชาติที่ถูกเมสันควบคุม อำนาจการบริโภคและการผลิตของชาวตะวันตกลดลง ทำให้เมสันจำต้องพึ่งพาประชากรของโลกที่สามแทน พวกเขาใช้ประโยชน์จากประชากรในโลกที่สามเป็นสะพานในการฟื้นฟูความยิ่งใหญ่ ของชาติตะวันตก หรือพูดให้ชัดก็คือความยิ่งใหญ่ของเมสันในระดับโลก

ใน ปี1970 ประธานาธิบดีจิมมีคาร์เตอร์ รับรายงานเรื่องโลกในปี2000 ในรายงานได้บอกถึงภัยคุกคามที่จะเกิดขึ้นจากจำนวนประชากรคนสีผิวที่เพิ่ม จำนวนขึ้น ในรายงานได้เสนอให้พยายามลดจำนวนประชากรโลกที่สามลงให้ได้อย่างน้อยสองพัน ล้านคนก่อนถึงปี2000 เพื่อรักษาสถานะภาพความยิ่งใหญ่ของชาวตะวันตก ที่น่าสนใจคือในปี70 ก็เกิดโรกเอดส์ระบาดไปทั่ว คร่าชีวิตประชากรในโลกที่สาม คนผิวดำและละตินอเมริกา มีการบอกกล่าวกันว่าต้นกำเนิดของไวรัสนี้เกิดขึ้นจากลิงในป่าดงดิบของ แอฟริกาและติดต่อสู่คน จากการสมสู่กับสัตว์และการบริโภคเนื้อสัตว์ที่ล่ามา จากนั้นมาโรคเอดส์ก็แพร่ระบาดไปทั่วแผ่นดินแอฟริกาและส่วนอื่นๆของโลกคร่า ชีวิตผู้คนไปกว่าพันล้านคน ทว่าเรื่องเล่านี้ก็เป็นเหมือนไอน้ำที่ล่องลอย ในเดือนมิถุนายนวันที่2ปี1988 ลอสแองเจลิสไทม์ ได้ตีพิมพ์บทความที่ล้มล้างแนวคิดเรื่องโรคเอดส์ระบาดสู่คนจากลิง มีืหลักฐานยืนยันชัดเจนว่าดีเอ็นเอของไวรัสเอดส์ไม่มีความสอดคล้องกับดีเอ็น เอของลิงในป่าดงดิบ ที่จริงแล้วไวรัสเอดส์ไม่ติดต่อไปสู่สัตว์อื่นในธรรมชาติยกเว้นในระบบร่าง กายของมนุษย์เท่านั้น เมื่อพบความจริงเช่นนี้แล้วก็เกิดคำถามขึ้นทันทีว่าไวรัสชนิดนี้ซึ่งแพร่ ระบาดอย่างรวดเร็วมาจากที่ไดแน่ 4กรกฎา1984 หนังสือพิมพ์นิวเดลี ของอินเดีย ซึ่งถูกเรียกว่าเป็นสำนักพิมพ์ชาิตินิยม ได้ตีพิมพ์บทความแรกที่ออกมาโจมตี เรื่องโรคเอดส์ซึ่งถูกใช้ในทางการสงครามโดยสายลับ นักมานุษยวิทยาชาวอเมริกันได้กล่าวถึงเรื่องโรคเอดส์ว่าเกิดจากการวิจัยทาง พันธุวิศวกรรมในห้องทดลองกลาโหมของอเมริกาที่ ฟอร์ด ดีทริก ใกล้กับเฟดริก 30ตุลา1985 วารสารโซเวียตเจอนัลกลิตเตอร์ ลิเทอเนีย กาเซตตาได้กล่าวโจมตีกลาโหมของสหรัฐเช่นเดียวกัน ซึ่งสร้างความขัดแย้งในระดับชาติ เรื่องทุกอย่างจึงจบลงโดยคำกล่าวโน้มน้าวของคอมมิวนิสต์ ซึ่งถูกบงการโดยเมสัน อย่างไรก็ตาม 26ตุลา1986 ซันเดย์เอ็กซ์เพรสกลายเป็นหนังสือพิมพ์แห่งแรกของตะวันตกที่ก้าวออกมายืนยัน ความจริงของเรื่องที่เกิดขึ้นโดยหนังสือพิมพ์ของอินเดียและรัสเซีย ขึ้นหัวกระดาษว่า ตะลึงเอดส์ถูกสร้างขึ้นในห้องทดลอง ในบทความนี้สร้างความชัดเจนขึ้น ดร.จอห์น ซีล และศาสตราจารย์ จาขอบ ซีกัล อธิบดีของสถาบันวิจัยชีววิทยามหาวิทยาลัยเบอร์ลิน ต่างสรุปในทิศทางเดียวกันว่า ไวรัสเอดส์ถูกดัดแปลงพันธ์ขึ้นโดยน้ำมือของมนุษย์

จากปรากฏการณ์ ไวรัสเอดส์ระบาดสามารถเชื่อโยงกับโปรแกรมแจกจ่ายวัคซีนสู่ส่วน ต่างๆของโลก หนังสือพิมพ์ระดับโลกอย่างลอนดอนไทม์ ตีพิมพ์บทความในหน้าแรก ฉบับวันที่11พฤษภา1987 ขึ้นหัวกระดาษว่า วัคซีนกระเป๋ากระตุ้นเอดส์ บทความกล่าวสอดคล้องกับ จำนวนวัคซีนที่ดำเนินการโดยองค์การอนามัยโลก ซึ่งถูกนำเข้าไปให้แก่คนประมาณ50-70ล้านคนในแอฟริกากลาง ก่อนการระบาดของโรคเอดส์ขึ้นในแอฟริกา องค์การอนามัยโลกทำหน้าที่เป็นปีกแห่งการแพทย์ขององค์การสหประชาชาติยูเอ็น มีหลักฐานที่กล่าวถึงไวรัสที่ถูกดัดแปลงพันธุกรรมซึ่งถูกใช้ผ่านโปรแกรมการ รักษาโดยใช้วัคซีนในประเทศโลกที่สาม เชื้อโรคที่ใช้ในการสงครามถูกนำไปใช้กับกลุ่มชนที่ไม่มีความรู้ เป็นการทำงานเล็กๆเพื่อใช้กำจัดประชากรที่เหลือบนหน้าแผ่นดิน เอดส์จึงไม่ใช่อะไรเลยนอกจากเป็นวิธีการสุดท้ายเพื่อโลกใหม่ ทั้งหมดนี้ก็เพื่อวางนโยบายเศรษฐกิจเพื่อการบงการโลกให้ยอมสยบต่อเมสันแห่ง ตะวันตก เพื่อการทำให้รัฐบาลแห่งเมสันขึ้นเป็นหัวหอกของสหภาพโลกได้รับอำนาจควบคุม โลกเบ็ดเสร็จด้วยสหภาพทางเศรษฐกิจก็เีพียงพอแก่อำนาจแล้ว ทว่าพวกเขายังต้องการอำนาจทางการทหาร ซึ่งสหภาพแห่งนี้ก็คือยูเอ็น

 

 

ฝรั่งเศส และสหรัฐอเมริกาติดอันดับหนึ่งในห้าผู้ครองอำนาจเหนือสภาความมั่นคงซึ่งรอง ลงมาคือรัสเซียและจีน นั่นคือพวกเขาได้รับสิทธิในการ วีโต ให้ทุกสิ่งขับเคลื่อนต่อไปได้ ธันวาคม1992 ประธาน ที่ประชุมสมัชชาใหญ่ ออกประกาศให้ ยูเอ็น ทำหน้าที่เป็นรัฐสภาของโลก ซึ่งทำให้อ้างได้ว่า ยูเอ็นจำต้องมีแผนกข่าวกรองเป็นของตัวเองด้วย แม้ว่ายูเอ็นจะมีกองกำลังของตัวเองแล้ว เพื่อให้บริหารจัดการกองกำลังได้อย่างมีประสิทธิภาพ ยูเอ็นทำหน้าที่เป็นกองกำลังซึ่งยืนมองดูเฉยๆในขณะที่มุสลิมกว่าพันคนถูก สังหารโดยชาวเซิร์บแห่งบอสเนีย แทนที่จะดำเนินการช่วยเหลื่ออย่างใดอย่างหนึ่ง กลับปล่อยให้กองกำลังของชาวมุสลิมต้องต่อสู้ช่วยเหลือตัวเอง ครั้งหนึ่งทหารของยูเอ็นถูกส่งไปขับเคี่ยวต่อต้านกองกำลังโซมาเลียภายใต้

Credit: http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=neothailand&month=08-07-2010&group=5&gblog=30
1 ส.ค. 53 เวลา 14:21 10,491 8 70
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...