หมู่บ้านแม่มด , ในแค้วน Liguria - Italy

เห็นหมู่บ้านนี้จากข่าวช่องห้าของเมืองไทย ถามใครก็ไม่มีคนรู้จัก หาข้อมูลอยู่ตั้งนาน จากบ้านมาที่นี่ต้องใช้เวลาเดินทางนานเหมือนกัน หมู่บ้านจะอยู่ในหุบเขา จะเป็นถนนเลียบเขา แต่ภูเขาแถบนี้ไม่สูง ขับไปชมวิวไปไม่นานก็ถึง หน้าหนาวที่นี่เงียบเหงามาก ผิดกับหน้าร้อนเลย ถามเจ้าของโรงแรม เธอบอกว่า หน้าหนาวถนนจะอันตราย และก็ไม่ค่อยมีกิจกรรมอะไร คนบนนี้เลยไปอยู่ต่างถิ่น..อ๋อ เป็นเช่นนี้เอง

บ้านหลายหลังผุพัง ไม่มีคนอยู่ เสียดาย วิวสวย ตอนนี้ก็มีคนเยอมันฯมากว้านซื้อไว้ทำที่พักนักเดินทาง อาหารที่นี่ก็แสนอร่อย วัตถุดิบดี อยากกลับไปอีกนะเนี่ย..



ป้ายสัญลักษณ์รูปแม่มดขี่ไม้กวาดนี่แหละที่เราเห็นในช่อง5 บ้านเรา









วิวที่มองจากระเบียงหนึ่งในหมู่บ้าน












ไป ถึงโรงแรมยังเช็คอินไม่ได้ เลยไปเดินเล่นที่พิพิธภัณฑ์ท้องถิ่น ทำดีมาก ข้างในก็มีเครื่องใช้สมัยก่อนและเรื่องราวเกี่ยวกับแม่มด พิธีกรรมและการลงโทษ









ไม่ น่ากลัวเลย เราคิดว่าแบบบ้านหมอซะมากกว่า แต่ย้อนอดีตกลับไปก็คงยังไม่มีคำว่าหมอ เลยกลายเป็นแม่มดไปซะ มันคงเกี่ยวกับอำนาจการปกครองที่กลัวถูแบ่งปันไป









กระจกหน้าต่างบานหนึ่งต้องแสงอาทิตย์สวยดี รูปขวาเป็นหนังสัตว์เอาไว้บรรจุของเหลว









เดิน ดูแบบชิลๆ ออกมาอีกทีท้องก็ร้องซะแล้ว เห็นร้านอาหารอยู่ใกล้ๆพิพิทภัณฑ์ ก็เลยกินร้านนี้แล้วกัน(เท่าที่เห็นก็มีอยู่ร้านเดียวแหละ ก็หน้าหนาวเค้าปิดกันหมด)

ปล.ความแตกต่างระหว่าง Osteria กับ Restaurante คงเป็นอย่างแรกจะเป็นร้านเล็กๆ วันนี้ทำสองอย่างให้เลือก หนึ่งหรือสอง ถ้าจะเอาสามก็ไม่มี (ทำนองนั้น)









ก่อนถึงร้านอาหาร มีลานกว้างๆ ไว้นั่งเล่น มีรูปแม่มดต้มยาอยู่ เอกลักษณ์ของที่นี่









ขอบอกว่าอร่อยและราคากันเองม๊าก เห็นรูปแล้วยังฝันถึงเลย









จำชื่อและราคาไม่ได้แล้ว (เคืองพันทิพย์ จะลบกระทู้เค้าก็น่าสะกิดให้รู้ซะหน่อย) เป็นสปาเกตตี้ทำเองกับไส้กรอกอิตาลี เลิศสุดๆ









จาน ที่สองมีแค่สองอย่างให้เลือก อีกอย่างจำไม่ได้ว่าอะไร เราสองคนตายายเลือกเมนูเป็ด ส่วนผักเค้าเอามาให้เองไม่ได้สั่ง อร่อยทุกอย่าง









เดินสำรวจ... หลายหลังเป็นบ้านร้าง ไม่มีคนอยู่ หักพัง แต่หลายหลังกำลังต่อเติมซ่อมแซมเพื่อเป็นที่พักตากอากาศ

a








วิวสวยดี









เดิน ไปสักพัก เจอแม่มดถูกขังอยู่ ถ้าชีวิตจริงในสมัยก่อนเป็นอย่างนี้ น่าสงสารมากๆ และก็เจอป้ายทางเดินของแม่มด... ลองเดินดู เป็นทางเดินเขาที่เล็ก แคบ ชัน รก แล้วก็เปียก คุณสามีเกือบตกเขา เราเลยไม่ดงไม่ดูมันแล้ว เดินกลับดีก๊า (ถ้าเราจับที่รักเราไม่ทันจะเป็นยังไง )









เดินกลับมาถึงแถวร้านที่เปิดๆขายของ เรายังไม่หายตกใจเลย









มี ร้านขายของแบบบ้านๆ แนวๆ เค้าทำเองงะ ทั้งแยม ชีส เหล้าช่วยย่อย เรายังซื้อกลับมาขวดนึงเลย อร่อยมาก กลิ่นสมุนไพรอบอ่วน น่าจะหยิมมาสักสองขวด









มี ป้ายให้ไปดูน้ำพุแม่มด กว่าจะเจอต้องผ่านบ้านตายายแถวนี้(มีแต่คนแก่อยู่หรือไงไม่รู๊) คาดผมเหมือนในหุ่นรูปปั้นแม่มด ฟ้าเริ่มมึด คุณยายเปิดบ้านมาต๊กใจหมดเลย ยังดีที่คุณยายยิ้มให้ ถ้ามองเราเหมือนในการ์ตูนที่ดูสมัยเด็กๆ ก็สยองเหมือนกันนะ แอบมองเข้าไปในบ้าน โฮ..ทำซาลาแมตุนไว้เพียบเลยนะคุณยาย น้ำพุแม่มดไม่มีอะไรในกอไผ่ อาจเป็นหน้าหนาวน้ำเลยน้อยก็ได้









มีที่พักอยู่ไม่กี่ที่ ที่พักที่เราอยากพักเต็ม เราเลยมาพักที่นี่ และก็ดีใจมากด้วยที่เรามาพักที่นี่
โรงแรมชื่อว่า colomba d'oro , คลิกที่นี่เพื่อดูเวปของโรงแรม









ห้องสวย เรียบร้อยสะอาด ยิ่งระเบียงแล้วคิดถึงหน้าร้อนคงหรรษาน่าดู









ไม่ มีอะไรเหนือกว่าอาหารที่โรงแรมนี้แล้ว เราไม่อยากออกไปหาอาหารนอกที่พักเลยฝากท้องไว้ที่นี่ เปิดประตูห้องอาหารเข้าไป อึ่งอยู่สองวิ... โอแม่เจ้า เตาผิงขนาดใหญ่ มีเสียงฝืนดังแปะแปะ อากาศอบอุ่น ชอบมากๆ เลย









ชื่ออาหารและราคาจำไม่ได้มันสลายไปพร้อมกระทู้เรานั่นแหละ เท่าที่จำได้ว่ามันไม่แพง แล้วอร่อยโคดดดด เล๊ย..

จานนี้เป็นรองท้อง กินกับขนมปังที่ เลิศสุดๆ









ยิ่งอันนั้น ที่อยู่ริมจานด้านบนซ้าย พายผัก สุดยอดความอร่อย แล้วก็เห็ด มะเขือเทศแห้งดอง แล้วก็ซาลาเม อร่อยไร้คำบรรยาย









คุณสามีสั่งปุเลนต่าหมูป่า เค้าบอกว่าอร่อยมาก และก็อิ่มจนถึงเช้าเลย









ของ เราก็ไม่น้อยหน้า ไม่เคยเห็นที่ไหนให้เห็ดเห็ดพอร์ชินี (porcini) เยอะอย่างนี้มาก่อน นึกๆไปก็คงไม่แปลก ที่นี่เค้าไม่ให้คนนอกเก็บเห็ดเห็ดพอร์ชินีแหละ อนุญาติเฉพาะคนท้องถิ่น ก็ไม่แปลเราจะได้กินเห็ดพอร์ชินีที่อลังการงานสร้างอย่างนี้..









กิน อิ่มนอนหลับสบายตื่นขึ้นมาเช็คเอ้า แล้วเดินขึ้นไปบนเขาซะหน่อย เลยได้วิวแจ่มๆอย่างนี้ (จริงๆแล้วเป็นเส้นทางไปสุสาน เข้าไปไม่ได้หรอกเค้าคล้องโซ่ไว้)









ขาก ลับ เจอร้านอาหารสวยอีกร้าน เสียดายรายละเอียดโดนสลายไปพร้อมกระทู้ เดี๋ยวต้องไปขุดหาเผื่อเจอจดๆไว้ที่ไหนบ้าง ด้านในเป็นไม้ สวยมาก ราคาก็ไม่แพงมากด้วย ติดไว้ก่อนคราวหน้าจะไปลองชิม..เราไปอีกแน่ๆ Triora







Bed & Breakfast ที่อยากพักแต่จองห้องไม่ได้ : La tana delle volpi Bed & Breakfast

Credit: http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=mamo&month=24-01-2010&group=10&gblog=32
1 ส.ค. 53 เวลา 13:23 8,857 11 84
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...